ลูกชายหมอสุนิล หมอฟันระดับมหาเศรษฐีพันล้าน แจงปม ไม่ยอมจ่ายค่าโดยสารแท็กซี่ 600 บาท ชี้เรียกราคาเกินจริง แถมถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
เฆวินทร์ พล ลูกชายของ “หมอสุนิล” ทันตแพทย์มหาเศรษฐีพันล้าน ได้เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองผ่านรายการ“ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ ที่ตนนั้นได้นั่งแท็กซี่ ในภูเก็ตโดยได้เรียกจาก กมลา ไปยัง ป่าตองแต่โดนแท็กซี่โขกราคา 600 บาท
โดยวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น ตนพักอยู่โรงแรมกับแฟนสาว และกำลังจะออกไปทานอาหารเย็น โดยเดินทางผ่าน bolt ไปยังร้านอาหารในราคา 168 บาท จนร้านปิดประมาณ 5 ทุ่ม ตนจึงได้ทำการเรียก grab และ bolt แต่คนขับแจ้งว่าแถวนั้นเข้าไปรับไม่ได้ เหตุเพราะ มีแท็กซี่คุมพื้นที่อยู่ ถ้าจะเรียกรถผ่านแอพ ต้องเดินออกมานอกซอย ตนจึงต้องเดินออกจากร้านและเรียกแท็กซี่และแจ้งกับคนขับว่าจะไปยังที่พักของตน โดยแท็กซี่ได้แจ้งราคาอยู่ที่ 600 บาทซึ่งเป็นราคาที่ต่ำสุดแล้ว ตนจึงพูดกับแท็กซี่ไปว่าราคาแบบนี้โกง หลังจากพูดเสร็จตนจึงเดินออกมาเพื่อจะไปเรียกรถผ่านแอพที่หน้าซอย หลังจากที่เดินห่างออกมาจากจุดเรียกแท็กซี่ ประมาณ 200 เมตร ตนก็ได้ยินเสียงโชเฟอร์ตะโกนมาว่า “อยากมีปัญหาหรอ” และชูนิ้วกลางใส่ตน และตนได้เดินเข้าไปในร้านและแจ้งกับพนักงาน ว่า ทำไมแท็กซี่ถึงเป็นแบบนี้ ไม่มีมารยาท พอตนออกมาจากหน้าร้านแท็กซี่จึงเดินมาชี้หน้าตน และเหตุการณ์ก็ได้ดำเนินอย่างที่เห็นในคลิป
เจษฎา คาหะปะนะ คนขับแท็กซี่ แจ้งว่าที่คิดราคานี้ เหตุเพราะ ป่าตองนั้นมีหลายสถานที่ บางที่ต้องขึ้นเขา เดินทางยาก และต้องดูว่ามีลูกค้ากี่คน บริเวณที่ต้องไปส่งคือจุดไหนของป่าตอง ซึ่งราคานี้ตนได้ทำการยื่นไปกับร้านอาหารตั้งแต่ร้านเริ่มเปิดกิจการแล้ว โดยตั้งราคาที่ 500 บาท ถ้าไปส่งในบริเวณที่ต้องขึ้นเขาหรือเดินทางยากก็ต้องบวกเพิ่มประมาณ 100 – 200 บาท
เหตุที่ทำให้ตนต้องตะโกนต่อว่านั้นมาจากที่ เฆวินทร์ได้ทำท่าทางยั่วยุเหมือนว่าอยากโดนต่อย และแจ้งอีกว่า เฆวินทร์พูดออกมาว่าอยากโดนต่อย ส่วนเรื่องชูนิ้วกลางตนแจ้งว่าตนนั้นชี้นิ้วชี้ และถามกลับไปยังเฆวินทร์ว่าถ้าตนไม่ได้ชูนิ้วกลางจะรับผิดชอบอย่างไร โดยเหตุการณ์นี้ตนแจ้งว่าไม่ได้โกง เพราะ ตนได้ทำการแจ้งราคาไว้ก่อนไปส่งแล้ว ซึ่งเฆวินทร์ยังไม่ได้ขึ้นรถโดยสารและตนยังไม่ได้เงินจากเฆวินทร์ แต่ถ้าตนนั้นไปส่งถึงที่แล้วและได้ทำการเรียกราคาที่แพงหรือไม่ได้ตามที่ตกลงกันไว้แต่แรกแบบนี้จึงจะเรียกว่าโกง
อีกทั้งตนยังแจ้งกับทางรายการอีกว่า เรื่อง Grab นั้นไม่ใช่เรียกไม่ได้ โดย Grab นั้นจะปักหมุดอยุ่ที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากร้านอาหารประมาณ 100 เมตร จึงจำเป็นต้องเดินไป และไม่มีแท็กซี่ที่ตามไปต่อว่าพร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีแท็กซี่คุมพื้นที่ Grab สามารมารับถึงหน้าร้านได้
จตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้แจ้งว่า ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มีมายาวนาน จังหวัดภูเก็ตจึงได้ทำการตั้งอัตราค่าบริการโดยประมาณเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทราบราคา แต่ทั้งนี้ราคาอาจจะไม่ตายตัวเหตุเพราะ ต้องดูจากบริเวณที่ไปส่ง และจำนวนลูกค้า บริบทนี้เป็นบริบทของจังหวัดภูเก็ตกล่าวคือ ถ้าแท็กซี่ไปส่งลูกค้าถึงที่หมาย แท็กซี่นั้นต้องตีรถเปล่ากลับมายังจุดเดิม ดังนั้นราคาอาจจะต้องเพิ่มขึ้น หรือคูณสองจากราคาไปที่ไปส่ง
ขณะที่ โจ้ สปอตไลท์ ภูเก็ต เผยว่า สิ่งที่เฆวินทร์ผิดคือ เฆวินทร์ไม่รู้ว่ามีแอพอยู่ ซึ่งจริงๆตอนนี้มีภูเก็ตมีแอปฯ เรียกแท็กซี่มาตั้งนานแล้ว คือ แอปฯ hello phuket ราคากลางที่กำหนด เกิดจากผู้ว่า เรียกขนส่งมาประชุมและหาราคากลาง กล่าวคือมิเตอร์เป็นอย่างไรให้บวกเพิ่มไปอีก 100 บาท ราคากลางไม่ใช่กฎหมาย บังเป็นคนบ้าน ๆ อย่าเอามารุมเขา พร้อมทั้งยังบอกอีกว่า เรื่องมันผิดตรงที่เฆวินทร์ไปว่าบังว่าเขานั้นโกง และเรื่องราคากลาง 400 บาท มันเป็นราคาอ้างอิงแต่ไม่ใช่กฎหมาย ประเทศไทยเป็นแบบนี้ กฎหมายเวลาจะประกาศใช้ต้องผ่านราชกิจจาฯ แต่ราคามิเตอร์ภูเก็ตยังไม่มีกฎหมายมารองรับ มีแค่ราคากลางที่คนขับกับผู้ใช้บริการรับได้ เรื่อง grab เข้ามารับหรือไม่เข้ามารับ มันเป็นเรื่องของมารยาท แท็กซี่มาเฟียไม่มีหรอก
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
หมอสุนิล
ลูกชาย
มหาเศรษฐีพันล้าน
หมอฟัน
ภูเก็ต
แท็กซี่
600บาท
ข่มขู่
โชเฟอร์แท็กซี่
นักท่องเที่ยว
มาเฟีย
มาเฟียแท็กซี่
ค่าโดยสาร