นายวรพจน์ อายุ 35 ปี อาชีพช่างสัก เดินทางมา สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น เดินเท้าเปล่ามาเข้าพบร้อยเวรสอบสวนเพื่อขอแจ้งความจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์หน้าห้องเจ้าหน้าที่สืบสวน
นายวรพจน์ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการให้จับกุมตัวเองในข้อหาเสพกัญชา ก่อนที่ตนเองจะเดินออกจากบ้านกิดมีปากเสียงกับภรรยาเรื่องที่ตนไปช่วยทาสีให้กับร้านสักของเพื่อนแล้วกลับบ้านผิดเวลา ทำให้ภรรยาไม่พอใจด่าทอตนเสียๆหายๆ ลามไปถึงบุพการี ทำให้แม่ตนซึ่งนั่งอยู่ในบ้านได้ยิน และไม่พอใจที่ภรรยาด่าว่าตนด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันระหว่างภรรยากับแม่ตัวเองจนเสียงดังไปทั่ว ทำให้ตนเกิดความเครียด
เจ้าหน้าที่ สภ.บางใหญ่ จึงได้ปลอบใจและชี้แจ้งให้นายวรพจน์ทราบว่า เรื่องการเสพกัญชานั้นไม่พบของกลางในตัว และนโยบายของรัฐบาลผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการส่งตัวไปบำบัดรักษา ดังนั้นข้อหาที่นายวรพจน์จะแจ้งจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชานั้นก็ไม่สามารถจับติดคุกได้ ส่วนปัญหาเรื่องในครอบครัวที่มีปากเสียงกัน ทางเจ้าหน้าที่พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ขอให้นายวรพจน์สงบสติอารมณ์ลง
หลังอารมณ์สงบลงนายวรพจน์กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า ถือว่าผมไม่ได้มาเข้าแจ้งความแล้วกัน นึกว่าผมมาหาเพื่อนมาขอคำปรึกษา เพราะเครียดมากไม่รู้จะหาทางออกทางไหน จึงคิดว่าแค่ให้ถูกตำรวจจับติดคุกไปจะได้ไม่ต้องมาเจอกับเรื่องเครียดๆ แบบนี้อีก จากนั้นหลังได้ระบายและได้คำปรึกษาจนใจเย็นลงแล้วนายวรพจน์จึงได้ขอตัวกลับ ก่อนจะเดินเท้าเปล่าไม่สวมเสื้อออกจากโรงพักเพื่อกลับบ้าน
+ อ่านเพิ่มเติม