จากกรณีเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 2" โพสต์คลิปวีดีโอพร้อมระบุข้อความว่า " สมช.ส่งมาจากติ้กต๊อกเห็นมาม่าดีเลยหยิบมาลง หวังว่า สนง.เขตปากเกร็ดหรือ จนท.คนกลางจะเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาให้จบลงด้วยดีทั้งสองฝ่าย *คลิปไลฟ์เต็มๆจากเฟส ลงในเม้นต์ ประเด็นเมื่อคืนอิป้าข้างบ้าน ตะโกนมาแบบเสียงดัง!! จอดรถเหี้.... อะไรแบบนี้ แล้วสร้างเหี้... อะไรแบบนี้ -สำนักงานเขตปากเกร็ดเงียบ ต้องรอเป็นข่าวครับ-เคยแจ้งเขตแล้ว มาถ่ายรูปแล้วก็เงียบผมไม่รู้ทำไมถึงเงียบ แต่ที่เคยรู้มาเขามาคุยว่าเป็น...-หลังคาจอดรถคือใครทำ / ข้างบ้านทำครับต้นไม้ก็ข้างบ้าน หน้าบ้านตัวเองปลูกต้นไม้ และรถจอดที่อื่น ไม่พอสร้างหลังคาอีก-เคยแจ้งแล้วครับ ไปคุยแบบประนีประนอมแล้ว ยังไม่เอาออก แจ้งสำนักงานเขตแล้วเงียบ ปวดหัวเลย"
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณหมู่บ้านสัมพันธ์วิลล่า ซอย 4 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายธวัชชัย จันทร์ลำ หรือต้น ผู้เสียหาย อายุ 29 ปี เจ้าของโพสต์ ที่มาซื้อบ้านอยู่ภายในหมู่บ้านมาประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว กำลังมีปากเสียงกับอดีตนายทหาร และเป็นบ้านคู่กรณี เนื่องจากทางบ้านคู่กรณีมีการสร้างโรงรถอยู่ติดกำแพงบ้านของนายต้น และนำต้นไม้มาปลูกไว้ที่ใกล้บ้านผู้เสียหาย ซึ่งทางคู่กรณีออกมารดน้ำต้นไม้ทำให้บ้านของผู้เสียหายบานหน้าต่างพังไป 1 บาน แล้ว เนื่องจากถูกน้ำรดต้นไม้ที่คู่กรณีรดใส่ต้นไม่้ทุกวัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันมาตลอด ผู้เสียหายจึงถ่ายคลิปและโพสลงโซเชี่ยล เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 65 เวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา
ทางด้านนายธวัชชัย หรือต้น เปิดเผยกับทางสื่อว่า ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องปล่อยเรื่องเงียบไป จนเกิดเหตุเมื่อวานคู่กรณีเข้ามาต่อว่าตนว่าตนจอดรถเลยเข้าไปทำให้เขาไม่สามารถออกได้ ปกติตรงนี้จะมีรถวีโก้จอดอยู่คันนึง แต่เขาก็มาด่าตนด้วยคำหยาบว่าจอดรถไม่ดี ซึ่งตรงนี้ตนบอกเลยว่ารถเข้าออกได้สบายแน่นอน ซึ่งตนติดใจมากว่าทางนิติของหมู่บ้านอนุญาตให้เขาสร้างได้อย่างไรเป็นที่บังแดดรถ ซึ่งเขาอ้างว่าเขาอยู่มานานสามารถสร้างได้ ซึ่งตนมาซื้อบ้านอยู่ภายหลังเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะสร้าง ตอนนี้อยากให้ทางเขารื้อออก และเอาไปสร้างฝั่งของบ้านตัวเอง ส่วนเรื่องต้นไม้ไม่เกี่ยวกับความรักธรรมชาติที่จะต้องนำมาปลูกบนบ้านคนอื่น ซึ่งเขาก็อ้างว่าต้นไม้ไม่ใช่ของเขา อยากจะเอาออกให้ตนเอาออกเอง แล้วที่ตนเห็นเขารดน้ำทุกวันไม่ใช่ของเขาหรอ และตอนเขารดน้ำต้นไม้น้ำก็กระเด็นเข้าทางหน้าต่างบ้านตนทุกครั้ง ตอนนี้อยากให้หน่วยงานเข้ามารื้อถอนต้นไม้ และโครงเหล็กหลังคารถออกไป ทางเจ้าหน้าที่เคยแจ้งมาบอกว่าจะเข้ามาแต่ก็เงียบ ซึ่งเป็นหน่วยงานของเทศบาลปากเกร็ด อยากฝากให้เข้ามาตรวจสอบว่ามันถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ต้องรื้อออก เพราะตนบอกกับทางคู่กรณีแล้วเขาก็ไม่แก้ไขให้ ซึ่งตนเดือดร้อนจริงๆทำอะไรไม่ได้เลย จะทาสีบ้านใหม่ก็ทำไม่ได้
วานนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ลงพื้นที่บริเวณหมู่บ้านสัมพันธ์วิลล่า พบนางเยาวลักษณ์ ไชยสาร ซึ่งเป็นบ้านคู่กรณีของนายธวัชชัย จันทร์ลำ เจ้าของโพสต์ ซึ่งนางเยาวลักษณ์ ไชยสาร อยู่ในอารมณ์โมโหและจะฟ้องร้องที่นายธวัชชัย นำคลิปไปโพสต์ลงในโลกโซเชียลทำให้ได้รับความเสียหาย
นางเยาวลักษณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กล่าวว่า เขาจอดรถหัวล้ำมาถึงตรงนี้ตนเข้าบ้านไม่ได้ก็ไปบอกเขา แล้วเขามาขยับรถให้ แต่พอครั้งที่ 2 ก็เหมือนเดิม ตอนอยู่ตรงนี้มาก่อนประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ปลูกต้นไม้มานานแล้วไม่ใช่ว่าเพิ่งปลูก หลังคาแต่ละหลังก็ทำเหมือนๆกัน เพราะตรงนี้เป็นซอยตันไม่ได้มีรถเข้า-ออกอยู่แล้ว ยังพูดกับบ้านข้างๆว่าถ้าหากเขาขายบ้านได้ตนจะรื้อหลังคาให้ เพราะเป็นทางเข้า-ออกบ้านเขา เขาก็ไม่ได้ว่า บอกว่าทำได้ แต่ถ้าขายได้จะต้องรื้อหลังคาให้เขา ตนก็ตกลงกันไว้ ตนทำหลังคาจอดรถตรงนี้มาประมาณ 5 ปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะรื้อหลังคาหรือไม่เพราะก็ไม่ได้เกะกะใคร ตนขอถามหน่อยว่ามันเกะกะตรงไหน บ้านหลังนี้เขาก็บอกกับตนตั้งแต่มาซื้อบ้านครั้งแรกว่าให้รื้อหลังคาออกเพราะจะเอารถมาจอดตรงนี้ ลองนึกดูซื้อบ้านแต่จะเอารถมาจอดตรงนี้ซึ่งมันเป็นหน้าบ้านของเรา ตอนนี้รถของลูกสาวอีกคันซึ่งจอดตรงนี้เพื่อนบ้านก็บอกให้จอดได้แต่หากบ้านเขามีรถก็จะต้องย้ายออกไปจอดข้างนอก ตนขอถามหน่อยว่ามันถูกต้องไหม ตนไม่ได้คิดว่ามันเกะกะใครเพราะมันเป็นทางเข้าบ้านตน ต้นไม้ก็ย้ายไปแล้วอยู่ตรงนั้น กระถางตรงนี้มันมาตั้งแต่ดั้งเดิมตอนตอนซื้อบ้านแล้ว มันไม่ใช่ของของตนซึ่งตนได้บอกเขาไปแล้ว ทำไมเขาไม่พูดว่าตนรดน้ำต้นไม้แล้วมันกระเด็นทำไมเขาไม่พูดกับตน ตรงหน้าต่างไม่ใช่น้ำที่รดน้ำต้นไม้หรอกฝนมันสาดเพราะบ้านเก่าแล้ว
นายธวัชชัย กล่าวว่า เขาทำไม่ถูก เขารู้ทั้งรู้แต่ยังยืนยันว่าสิ่งที่เขาทำคือถูก บางครั้งเขาก็บอกว่ามันคือสิทธิ์ของเขา ตนก็คงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของสำนักงานเขตปากเกร็ด ถามว่าตนรู้สึกยังไงก็มันมีเคสจนถึงไลฟ์สด ถ้าเขายื่นฟ้องตนก็คงต้องสู้กันด้วยกฎหมาย ถ้าทางสำนักงานเขตปากเกร็ดเข้ามาช่วยดูแลจัดแจง ก็โอเค เพราะเขายืนยันว่าจะไม่เอาออกทั้งกระถางต้นไม้และที่จอดรถ ถ้าหากทำให้มันถูกต้องตนก็ยินดีอยู่แบบปกติสุขสามารถพูดคุยกันได้ หากตกลงกันไม่ได้คงต้องขายบ้านหนี
ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปทางเทศบาลนครปากเกร็ด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว คงต้องให้ทางคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจากันเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่มีนิติบุคคลมีแต่ประธานหมู่บ้าน ส่วนทางด้านเทศบาลนครปากเกร็ด อยู่ระหว่างตรวจสอบกฏหมาย พ.ร.บ.หมู่บ้านจัดสรร และพ.ร.บ.ควบคุมอาคารก่อสร้าง คืบหน้าล่าสุดทราบว่า ทางเทศบาล ได้มีการประสานให้มีการรื้อหลังคาโรงรถเจ้าปัญหาออกแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม