ญาติผวายกบ้าน น้องชาย 2 คนตายปริศนา พบเงาดำลึกลับมีแขนขา คากล้องวงจรปิด!

        วันที่ 25 ม.ค.65 นายเชิดชัย ญาติผู้เสียชีวิต เปิดใจผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า นายไกรศร ผู้เสียชีวิต ปกติเป็นคนร่าเริงเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้เป็นคนเก็บตัว วันหนึ่งเขามีปัญหาทะเลาะกับคนในครอบครัว ทางบ้านจึงส่งไปดัดนิสัย จากนั้นไม่นานก็ประกันตัวออกมา และต้องเข้ากักตัว 14 วัน ในระหว่างที่กลับมาอยู่บ้านก็เป็นปกติดีทุกอย่าง แต่ในวันที่ 13 ของการกักตัว เขาก็หนีออกมาแล้วกระโดดน้ำหวังฆ่าตัวตาย แต่ไม่เสียชีวิตเพราะน้ำไม่ลึกพอ ซึ่งเขาก็ยังแช่อยู่ในน้ำต่อ 4-5 ชม. คนที่ไปเจอก็ได้ยินเขาเพ้อว่า "กลัวแล้วๆ" หลังจากวันที่เขากระโดดน้ำ เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่พูดไม่จา ทางบ้านถามว่าเป็นอะไร เขาก็ตอบแค่ว่า "มาฆ่าตัวตาย" ครอบครัวก็เริ่มสงสัย ใครถามอะไรก็เงียบไม่ตอบ จนวันที่ 20 ม.ค.ทางบ้านก็พาเขาไปรดน้ำมนต์ที่วัด ตอนรดน้ำมนต์เขาก็ยังนั่งเงียบ เหม่อลอย ไม่พูดไม่จา หลังกลับจากรดน้ำมนต์ เขาก็ยังเงียบ มีอยู่วันนึงเปิดประตูเข้าไปเจอเขานอนตะแคงเงียบๆอยู่ในความมืด เราเลยเอาท้าวเวสสุวรรณไปให้เขาแขวนคอ ตอนแรกเขาก็ใส่ปกติ จากนั้นเขาก็เอาไปให้พี่ชาย บอกว่าร้อน จนมาเมื่อเช้ามืดวันที่ 22 ม.ค. เขาเดินหาสายไฟ เดินเข้าเดินออกอยู่ในบ้าน จากนั้นเขาก็ใช้สายไฟคล้องคอจบชีวิตตัวเอง คนที่ไปพบศพตอนแรกยังไม่รู้ว่าเสียชีวิต ก็ทักไปว่า "เห้ยทำอะไร" พอเขาไม่ตอบจึงเดินไปดูใกล้ๆ ถึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว เราติดใจตรงที่ว่า สภาพศพน้องเรายืนอยู่แบบปกติมาก เท้ายังใส่รองเท้าแตะอยู่เลย ซึ่งตามจริงหากคนแขวนคอตัวเอง ตามสัญชาตญาณต้องดิ้นรน คนเราจะตายท่านี้ได้ยังไง

 

         หลังจากที่น้องตาย ทางครอบครัวก็ได้เปิดกล้องวงจรปิดย้อนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบเงาดำประหลาดมีแขนขากระโดดลงมาจากหลังคา ตอนแรกก่อนที่จะดูกล้องเราก็คิดว่าน้องเครียดหรือเป็นโรคซึมเศร้า เพราะน้องเคยมีประวัติใช้ยาเสพติด แต่ก็นานมากแล้ว แต่พอเห็นภาพจากกล้องเลยตัดประเด็นอื่นออกไป คิดว่าน้องต้องโดนอะไรสักอย่าง หรือโดนของจากที่ไหนมา และยิ่งสงสัยเพิ่มมากขึ้น เมื่อตอนที่ฉีดฟอร์มาลีนศพน้อง กลับมีน้ำตาไหลออกมาจากศพ ยืนยันว่าไม่ใช่เหงื่อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนตายไปแล้วจะมีเหงื่อหรือน้ำตาอยู่ไหม ก็อยากให้หมอปลาลงพื้นที่เพื่อไปช่วยพิสูจน์ให้

 

 

        ซึ่งเรื่องนี้ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มองว่า จากที่เล่ามาก็อยากจะพิสูจน์เหมือนกันว่าเกิดจากวิทยาศาสตร์ หรือสิ่งเหนือธรรมชาติ ผมต้องไปแตะศพเขา ต้องไปดูที่จุดที่ทางบ้านมองว่ามีเงาดำกระโดดลงมา เพื่อพิสูจน์ว่ามันเกิดจากอะไร จากภาพวงจรปิดที่มีเงา ก็น่าสงสัยอยู่ ในมุมมองของผม ซึ่งผมยังไม่ได้ไปสัมผัสกับศพ และยังไม่ได้ไปยืนตรงเงาดำ แต่เบื้องต้นผมเชื่อว่าคนที่ฆ่าตัวตาย คนเหล่านี้ชะตาขาด ต้องมีอะไรมาติดตามตัวอยู่แล้ว เป็นแบบนี้เกือบทุกคน เพราะจิตใจเขาไม่ปกติ เงาหัวเขาไม่มี คนฆ่าตัวตายคือการพันธนาการ วิญญาณเขาจะทุกข์ทรมาน และยิ่งเชื่อมโยงกับภาพกล้องวงจรปิด ผมยิ่งเชื่อว่าต้องมีอะไรที่เหนือธรรมชาติมาทำให้เขาฆ่าตัวตาย จากภาพในกล้องวงจรปิดเคสนี้ วิทยาศาสตร์อาจจะมองเป็นแมลง แต่ผมคิดว่าเขาต้องมีอะไรที่เหนือธรรมชาติ เพราะคนที่ฆ่าตัวตาย ก่อนฆ่าตัวตายก็จะเห็นเงาดำหรือหมาดำ ในเมื่อญาติมีความทุกข์มาขอร้องให้ช่วย เดี๋ยวในวันฌาปนกิจ จะลงพื้นที่เพื่อไปดูให้ เพราะการฆ่าตัวตายมันเป็นการพันธนาการตัวเอง มันทรมาน แต่เงาดำที่เห็นมันก็น่ากลัว

 

 

         ขณะที่ ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต เผยว่า ปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากที่ฟังเรื่องนี้ สังเกตอย่างนึงว่าผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่กักตัว ซึ่งคนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอาจเกิดการทำร้ายตัวเอง ตอนที่เขาหนีกักตัวแล้วไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เขาเริ่มมีความผิดปกติ ผมบอกไม่ได้ 100% นี่เป็นแค่การสันนิษฐาน เขาอาจเห็นภาพหลอน เกิดความหวาดระแวง อาจเกิดอาการเจ็บป่วย แต่ไม่รู้ตัว หรือเคยใช้สารเสพติด แล้วเลิกไป พอเข้ากักตัวเลยเริ่มมีอาการ หวาดกลัว หวาดระแวง จากสารเสพติด บางกรณีไม่ได้เกิดขึ้นทันที บางรายที่ใช้มาในระยะเวลานาน มันอาจเข้าไปทำลายสมองเล็กๆ น้อยๆ แน่นอนว่าสมองเขาเริ่มไม่ปกติ ซึ่งจากข้อมูลทั่วโลก การกักตัวทำให้เกิดความเครียดขึ้นแน่นอน อาจนำไปสู่การเห็นภาพหลอน หูแว่ว หวาดระแวง นำไปสู่การเกิดปัญหาด้านสุขภาพจิต จากที่เล่าว่าผู้เสียชีวิตมีการปิดไฟอยู่ในห้องคนเดียว นอนตะแคงหันหลังไม่คุยกับใคร แสดงถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป อาการกระสับกระส่าย เดินไปเดินมาตามที่เห็นในกล้องวงจรปิด อาจเกิดจากความกลัว แล้วเขารับอาการนี้ไม่ไหว นำไปสู่การทำร้ายตัวเอง ก็อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน ให้ประเมินตัวเอง โดยสามารถเข้าไปตรวจเช็คสุขภาพใจ เช็คความเครียดของตัวเองได้ที่ www.วัดใจ.com

 

 

         สำหรับเรื่องสภาพศพของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในลักษณะยืนเท้าแตะพื้นนั้น รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว อธิบายว่า กรณีการเสียชีวิตด้วยการแขวนคอ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องเป็นการปิดกั้นทางเดินหายใจ หายใจไม่ออก ทุรนทุราย แต่จริงๆแล้ว เกือบทั้งหมดจากการเสียชีวิตจากการแขวนคอ เส้นเลือดในลำคอถูกกดรัด ถ้าน้ำหนักเพียง 2 - 3 กก. ก็สามารถกดบริเวณเส้นเลือดได้แล้ว เพียงแค่เขาทิ้งน้ำหนักตัวลงมา เส้นเลือดตรงลำคอก็อาจถูกกดรัดได้ และเขาจะสลบ หมดสติ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากทิ้งเอาไว้แบบนั้นนานเกิน 4 นาที สมองจะตาย นำไปสู่การเสียชีวิต ซึ่งลักษณะแบบนี้เจอได้บ่อย สำหรับเรื่องศพมีน้ำตา หรือ เหงื่อ ไหลออกมานั้นไม่แปลก มี 2 เหตุผล อันแรกคือ ฉีดฟอร์มาลีนเข้าเส้นเลือด และมีการใช้แรงอัด เพื่อให้ยากระจายไปทั่วร่างกาย ฉะนั้นอาจมีโอกาสที่ต่อมน้ำตามีน้ำตาคั่งอยู่ และน้ำตาก็อาจจะไหลออกมาได้ กรณีที่ 2 อาจมีการนำศพไปแช่เย็น จากนั้นเมื่อนำศพออกมาภายนอก อาจเกิดการละลายคล้ายเหงื่อออกตามร่างกาย คล้ายเหงื่อออกจากดวงตา 

 

 

         ฟาก รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาไขข้อข้องใจกรณี พบเงาดำลักษณะมีแขนขาในกล้องวงจรปิดว่า จากภาพที่เห็นน่าจะเป็นแมงมุมเดินผ่านหน้ากล้อง หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ผมมองว่า กล้องวงจรปิดที่ Error ลักษณะนี้เกิดบ่อบยมาก หากเป็นกล้องอินฟาเรดจะมีจุดขาวๆ ผ่านหน้ากล้อง ส่วนอันนี้พอมีแมลงโผล่มาหน้ากล้อง กล้องมันโฟกัสไม่ได้ มันเลยเกิดออกมาแบบที่เห็น อย่างกล้องธรรมดา หากเราเอานิ้วมือไปปิดนิดนึง มันก็เกิดเป็นรูปลางๆ แล้ว จริงๆพวกนี้มันมีการเข้าใจผิดกันเยอะ ลักษณะแบบนี้เรียกแพริโดเลีย (Pareidolia) เป็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ โดยมนุษย์เราสามารถตีความรูปแบบที่ปรากฏในบางสิ่งแล้วเชื่อมโยงไปถึงอีกสิ่งหนึ่ง เหมือนการมองก้อนเมฆแล้วเห็นเป็นรูปร่างแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน เรื่องนี้เราจำลองเหตุการณ์ได้ โดยกล้องตัวเดิมอย่างพึ่งขยับอะไรมัน หรือมีกล้องมุมอื่นในเวลาเดียวกัน ก็ดูภาพจากกล้องตัวนั้น

 

นอกจากนี้ จีรพันธ์ เพชรขาว (หมอปลา) ยังชี้แจงเกี่ยวกับกรณีของป้ารัตนาว่า ตนไม่เคยนำผู้ป่วยมาหากิน สิ่งที่ตนทำลงไป เพียงเพราะอยากให้ทุกคนที่ติดตามป้ารัตนา ได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นสำหรับอาการของป้ารัตนาและยืนยันว่าถ้าตนเองนำคนป่วยมาหากินจริง คงจะเปิดบัญชีรับบริจาคตั้งแต่แรกแน่นอน พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าหากมีงานติดต่อป้ารัตนาเข้ามา ตนเองยินดีและไม่เข้าไปยุ่งเรื่องเงินอย่างแน่นอน

และกรณีจากคลิปในโลกออนไลน์ที่ตนได้นำก้านมะยมตีป้ารัตนา ทางด้านหมอปลา ได้ให้เหตุผลดังนี้

“…เหมือนเราต้องฝึกเด็กใหม่ เหมือนสอนให้เรียนก.ไก่ ข.ไข่ใหม่ ถ้าถามว่าเด็กกลัวอะไร ก็ต้องก้านมะยม ถ้าไม่มีก้านมะยม ผมคงระบมทั้งตัว ทั้งโดนหมัด โดนหยิก…”

สำหรับอาการล่าสุดของป้ารัตนา จีรพันธ์ เพชรขาว (หมอปลา)ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ป้ารัตนานั้นอาการดีขึ้นมากจากวันแรก หลังจากที่ไม่สุงสิงกับใคร,นั่งเหม่อลอย เหมือนคนเป็นซึมเศร้า เหตุเพราะ คิดถึงสามี

ด้านดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิตได้ให้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมว่า หลายคนที่ประสบกับเหตุการณ์รุนแรง อาจมีผลกระทบที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้ แต่หากได้รับการดูแล เอาใจใส่มากขึ้นทั้งจากผู้เชี่ยวชาญ หรือคนรอบข้าง อาจทำให้อาการดีขึ้นได้

 

 

     ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/qi-nc065FLc

 

ญาติเผยเรื่องลี้ลับ ปมน้องชายตายปริศนา พบเงาดำในวงจรปิด หมอปลา ขอเคลียร์ เรื่องป้ารัตนา