logo ถกไม่เถียง

รอดคุก? วิเคราะห์ชะตากรรม ตร.ชนหมอกระต่ายดับ ผู้ครอบครองบิ๊กไบค์ตัวจริงสุดงง หวั่นซวยไม่รู้ตัว!

ถกไม่เถียง : จากกรณีอุบัติเหตุ ส.ต.ต.ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ชน หมอกระต่าย ระหว่างข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต ซึ่งจากการสืบสวน พบว่าชื่อเจ้าของดูคา ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,หมอกระต่าย,จักษุแพทย์,จราจร,ตำรวจ,สตต,บิ๊กไบค์,ทางม้าลาย,กฎหมาย,บังคับใช้กฎหมาย,ขับเร็ว,อุบัติเหตุ,บทลงโทษ,ข้ามถนน,พรบจราจรทางบก,ทางเท้า,ชะลอความเร็ว,ป้ายทะเบียน,ประมาท,เลนขวา,พรบรถยนต์

1,142 ครั้ง
|
24 ม.ค. 2565
        จากกรณีอุบัติเหตุ ส.ต.ต.ขับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ชน หมอกระต่าย ระหว่างข้ามทางม้าลายจนเสียชีวิต ซึ่งจากการสืบสวน พบว่าชื่อเจ้าของดูคาติคันเกิดเหตุ ไม่ใช่ของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ แต่ได้มีการขายแบบโอนลอยไว้ ขณะที่สังคมออกมาเรียกร้องให้คนเห็นความสำคัญของทางม้าลาย และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
 
          วันที่ 24 ม.ค.65 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีเหตุสลด ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กก.อารักขา บก.อคฝ.บช.น.ขับบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ขณะข้ามทางม้าลายหน้า รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือ ตำรวจ ต้องถูกบังคับใช้กฎหมายเดียวกัน ไม่มีใครสามารถช่วยได้ แต่การจัดสินอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ซึ่งศาลจะดูที่พฤติกรรม อย่างคดีนี้ โดนไป 7 ข้อหา เป็นตำรวจก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าการขับรถในที่สาธารณะ ชุมชน ในเมือง ต้องใช้ความเร็วเท่าไหร่ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไม พนักงานสอบสวนถึงปล่อยตัวชั่วคราว นั่นเพราะกฎหมายให้อำนาจของพนักงานสอบสวน เช่น ถ้าผู้ต้องหามาปรากฎตัวต่อหน้า รับทราบข้อกล่าวหาเอง หากพนักงานเห็นว่าบุคคลนั้นไม่มีท่าทีหลบหนี ไม่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน จนท.สามารถให้สิทธิปล่อยตัวชั่วคราวได้ กฎหมายนี้ใช้กันทั้งโลก
 
ถกไม่เถียง : รอดคุก? วิเคราะห์ชะตากรรม ตร.ชนหมอก
 
          เมื่อ 30 ปีก่อน ตอนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีกล้องวงจรปิด ตำรวจก็สามารถจับผู้ต้องหาได้ เพราะเมื่อเกิดเหตุ ตำรวจก็ต้องรีบไปที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน แม้กระทั่ง เลขไมล์รถ ก็สามารถบ่งบอกได้เลยว่าคนนี้ขับขี่ด้วยความเร็วเท่าไหร่ พยานหลักฐานทั้งหมดสามารถบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นคนชนแม้จะไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนเรื่องการเก็บเอกสารไปจนทำให้ผู้เสียชีวิตต้องกลายเป็นศพไร้ญาติ 2 ชม.นั้น ตามหลักแล้ว ต้องนำส่งผู้บาดเจ็บใน รพ.ที่ใกล้ที่สุดเพื่อทำการรักษาตัวให้ทันเวลา แต่ถ้าเขาเสียชีวิต ตำรวจต้องนำเอกสารผู้ตายมาเพื่อทำการติดต่อญาติเพื่อแจ้งข่าว หากเอกสารอยู่ รพ.ต้องประสานตำรวจทันที หรือ รพ.สามารถแจ้งญาติเองได้ 
 
         ทางแก้เรื่องนี้ในระยะยาว ต้องอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งคนที่บังคับใช้กฎหมายก็คือเจ้าหน้าที่รัฐ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือวินัย ถ้าคนมีวินัยปัญหาก็ไม่เกิด
 
          ขณะที่ นายไพฑูรย์ เสาร์หลวง ผู้ที่มีชื่อครอบครองรถบิ๊กไบค์คันก่อเหตุ เล่าว่า ตนเองซื้อบิ๊กไบค์ ดูคาติ คันเกิดเหตุมาประมาณ 1.7 แสน แล้วใช้มาประมาณ 1 ปี มีการโอนเป็นชื่อตัวเองถูกต้อง ต่อมาได้มีการแลกเปลี่ยนรถกับพ่อค้าคนหนึ่ง โดยมีการโอนลอยให้พ่อค้าคนนั้นไป ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพ่อค้าคนนั้นนำไปทำอะไรต่อ แล้ววันนี้ก็เพิ่งมาทราบข่าวจากพ่อที่เชียงแสนว่า รถดูคาติคันที่ชนคุณหมอเป็นชื่อของตนเอง ทำให้รู้สึกเสียใจมาก กินข้าวไม่ลงเลย เบื้องต้นก็ได้ไม่แจ้งความไว้ เพราะตนไม่ได้ใช้รถคันนี้ตอนเกิดเหตุ ตอนนี้ที่ตนอยากทราบคือตนจะโดนคดีอะไรไหม หากรถยังเป็นชื่อตนเองอยู่ 
 
ถกไม่เถียง : รอดคุก? วิเคราะห์ชะตากรรม ตร.ชนหมอก
 
         ในเรื่องข้อกฎหมาย ที่ได้มีการแจ้งข้อหา ส.ต.ต. 7 ข้อหา ได้แก่ 1. ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ขับไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย 3. ไม่หยุดรถให้ทางคนข้ามทางม้าลาย 4. เอารถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง 5. นำรถที่มีส่วนควบไม่ครบ ไม่มีกระจก มาใช้ในทาง 6. นำรถไม่เสียภาษีมาใช้ในทาง 7. นำรถที่ไม่มี พ.ร.บ.มาใช้ในทาง นั้น ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กฎหมายข้อนี้หนักสุด ความผิดนี้ชัดเจน โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท  ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย กฎหมายกำหนดเอาไว้ว่า คนที่อยู่บนพื้นที่ทางม้าลายเป็นใหญ่ รถทุกชนิดต้องหยุดให้คนเดินข้ามไปก่อน หากไม่หยุดก็ถือว่าทำผิดกฎหมาย โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท , นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง โทษปรับไม่เกิน 500 บาท ,นำรถที่มีส่วนควบไม่ครบ (ไม่มีกระจก) มาใช้ในทาง โทษปรับไม่เกิน 400 บาท ,นำรถไม่เสียภาษีมาใช้ในทาง โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ นำรถไม่มี พ.ร.บ.มาใช้ในทาง โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กฎหมายใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เขียนเอาไว้ชัดเจน โดยเราเรียกว่า ผิดกฎหมายกรรมเดียวแต่ผิดหลายบท กรณีนี้ชัดเจนว่าศาลต้องลงโทษบทหนัดสุด จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน
 
ถกไม่เถียง : รอดคุก? วิเคราะห์ชะตากรรม ตร.ชนหมอก
 
             ซึ่งจากกรณีนี้ติดคุกแน่นอน เพราะพฤติการณ์กระทำความผิด กระทำโดยประมาทอย่างที่ไม่มีอะไรมายกเว้น แม้จะเยียวยาบรรเทาผลร้ายกับครอบครัวผู้เสียหาย แต่ก็เป็นสิทธิของครอบครัวว่าจะรับหรือไม่รับ และสามารถคัดค้านอัตราโทษของศาลได้ ครอบครัวผู้เสียหายสามารถยื่นเข้าไปขอเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการได้ เวลาจำเลยบรรเทาด้วยการเยียวยา โจทก์ร่วมต้องแถลงให้ศาลเห็นถึงความพอใจหรือไม่พอใจ ถ้ามองว่าการบรรเทานี้น้อยมาก หรือไม่มีการบรรเทา หรือไม่สำนึก ก็สามารถแถลงคัดค้านการวางเงิน เพื่อให้ศาลพิจารณาอัตราโทษที่หนักขึ้นได้ สำหรับเรื่องที่ ส.ต.ต.ได้มีการบวชให้ หมอกระต่ายนั้น ตอนนี้สามารถทำได้ เพราะยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ก็สามารถบวชได้
 
           ทนายแก้ว กล่าวเพิ่มว่า เหตุที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ เพราะ จนท.รัฐละเลย เพิกเฉย บางครั้งมีหน้าที่ตรวจสอบ แต่ไม่ทำ กรณีหมอกระต่าย เพราะสัญญาไฟจราจรที่จะกดให้เป็นไฟแดงมันเสีย แล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ซึ่งมันเสียมานานมาก แต่ไม่มีใครเข้าไปดูแล ดังนั้นหาก จนท.รัฐ ทำหน้าที่ ไม่เพิกเฉย บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง กรณีแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้น
 
          ส่วนเรื่องชื่อเจ้าของรถ เป็นชื่อของ นายไพฑูรย์ นั้น ทนายแก้ว เผยว่า ในกรณีที่มีการทำสัญญากับเอกสารโอนลอย มีการเขียนไว้ว่ารับเงินเรียบร้อย และมีการซื้อขายขาดช่วงไปแล้ว ถ้าทางผู้เสียหายส่งฟ้องทางแพ่งกับคุณไพฑูรย์ คุณไพฑูร์ต้องหาหลักฐานไปยืนยันว่าเราโอนลอย และไม่ได้ใช้รถในวันเกิดเหตุ และจากเรื่องนี้เอง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เชื่อว่า ทางผู้เสียหายจะไม่ฟ้องคุณไพฑูรย์ เพราะทราบกันอยู่แล้วว่าไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลย การซื้อขายมันขาดจากมือคุณไพฑูรย์ไปแล้ว 
 
ถกไม่เถียง : รอดคุก? วิเคราะห์ชะตากรรม ตร.ชนหมอก
 
         ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เชื่อว่า กรณีนี้จะไม่ใช่เป็นเคสสุดท้าย เพราะบรรทัดฐานตอนนี้คือ เวลาเราจะข้ามถนน ต้องไปยืนตรงทางม้าลาย และหยุดรอให้รถไปก่อน นี่คือบรรทัดฐานของปัจจุบัน แล้วถ้าเราเปลี่ยนบรรทัดฐานใหม่ เวลาที่เรายืนอยู่ตรงทางม้าลาย รถต้องหยุดให้เรา ซึ่งจริงๆ กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่ารถต้องหยุดให้คนข้ามก่อน แต่ประเทศไทยทำบรรทัดฐานเสียระบบ ทำให้บรรทัดฐานไม่ถูกต้อง หากต้องการแก้ปัญหานี้ ประชาชนต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ไม่ใช่รอรัฐบาล รอตำรวจ แก้กฎหมาย อย่างตอนนี้ เวลาผมข้ามถนนตรงทางม้าลาย ผมจะหยิบมือถือขึ้นมาไลฟ์สด เพื่อให้ทุกคนมาดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วมันจะเห็นว่ามีรถคันไหนบ้างทีไม่หยุดให้เรา หรือรถคันไหนหยุดให้เราเดินข้าม เพื่อเป็นการกดดันสังคม ถ้าทำแบบนี้กันทุกคน สังคมจะเข้มแข็งขึ้น คนขับจะมีวินัยขึ้นมาทันที ถ้าอยากให้สังคมเปลี่ยนแปลงมันต้องเริ่มที่ตัวเรา เพราะคนที่ทำผิดทุกคนรู้ตัวว่าผิดแต่ก็ยังทำ แต่วิธีผมคือวิธีการบังคับใช้ด้วยสังคม
 
          ซึ่งจากประเด็นนี้ ทนายแก้ว ห่วงว่า การไลฟ์สด หรือถ่ายรูปผู้อื่นก็สุ่มเสี่ยงอาจเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้
 
 
           ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/PV_7HHWOasQ