สมศักดิ์ แนะเกษตรกรปลูกหญ้าแพงโกลาแทนข้าว ใช้เป็นอาหารสัตว์ ตลาดต้องการสูง
logo ข่าวอัพเดท

สมศักดิ์ แนะเกษตรกรปลูกหญ้าแพงโกลาแทนข้าว ใช้เป็นอาหารสัตว์ ตลาดต้องการสูง

ข่าวอัพเดท : วันที่ 16 ม.ค.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการะทรวงยุติธรรม และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดสุโขท สมศักดิ์,กระทรวงพาณิชย์,หญ้าแพงโกลา,อาหารสัตว์,ตลาดต้องการสูง,ข้าว,เกษตรกร,ชาวนา,สุโขทัย

1,885 ครั้ง
|
17 ม.ค. 2565
        วันที่  16 ม.ค.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการะทรวงยุติธรรม และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดสุโขทัยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวเป็นจำนวนมาก ทั้งวัวเนื้อที่มีการขายเดือนละประมาณหมื่นตัว โดยวัวเหล่านี้จะกินหญ้า ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่จะให้ชาวบ้านเปลี่ยนนาข้าวเป็นการปลูกหญ้า เพราะใช้น้ำน้อยกว่า เนื่องจากจังหวัดสุโขทัยมีปัญหาเรื่องน้ำน้อยในหน้าแล้ง แม้ว่าเราจะพยายามสร้างแหล่งเก็บน้ำแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นเราจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกให้เหมาะสม โดยตนได้ศึกษาหญ้าแพงโกลา เพราะปลูกได้ทั้งในหน้าแล้งและหน้าฝน ในการลงทุนปลูกหญ้าชนิดนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เพราะปลูกหญ้าแค่ครั้งเดียว แต่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานหลายปี และเป็นหญ้าที่มีความต้องการสูงในตลาดอาหารสัตว์ มีแหล่งตลาดรับซื้อที่แน่นอน เพราะมีสารอาหารประเภทโปรตีนสูงกว่าหญ้าชนิดอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับใช้เลี้ยงโค ซึ่งตนได้ทดลองปลูกในพื้นที่ส่วนตัวแล้ว
 
         นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ข้อดีของการปลูกหญ้าแพงโกลา คือปลูกเพียงครั้งเดียวมีอายุยาวนาน 7-10 ปี โดยแค่เอาน้ำเข้าพื้นที่แปลงนา แล้วก็หว่านท่อนพันธุ์หญ้าอายุประมาณ 2 เดือนลงไป ไร่หนึ่งใช้ประมาณ 200-300 ต้น จากนั้นรออีกสัก 2 เดือน หญ้าก็จะขึ้นสูงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งจะตัดไปสัตว์กินแบบหญ้าสด หรืออัดแห้งเพื่อจำหน่าย การปลูกหญ้า 1 ไร่จะเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 2,000 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 1-3 บาท ประมาณ 1 เดือน เก็บได้ 1 ครั้ง ก็จะมีรายได้ขั้นต่ำ 2,000 ต่อเดือน ตกปีละ 24,000 บาท เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มให้ชาวบ้าน
 
       "การปลูกหญ้าเลี้ยงวัวเป็นการเพิ่มเม็ดเงินภายในจังหวัด ไม่ต้องไปซื้อหญ้าไกลจากที่อื่นและส่งไปขายที่อื่นๆได้ และมูลของวัวก็สามารถขายนำไปเป็นปุ๋ยให้กับไร่ชา ที่ผมได้ทดลองปลูกนำร่องไว้ที่ทุ่งทะเลหลวง 2 ได้อีกด้วย โดยที่นี่จะสามารถทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ในอนาคต ซึ่งจะกลายเป็นการเกษตรแบบครบวงจร ถือเป็นโครงการนำร่องที่จะผลักดัน และแนะนำให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ได้ทำกัน เพื่อเป็นการพัฒนาการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในพื้นที่ และจะทำให้ชาวบ้านมีรายได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งตนทำจริงเข้าใจจริง" นายสมศักดิ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง