หนุ่มผวา! ถูกบุกตื้บคาที่นอน เพียงเพราะไม่ทำตามคำสั่ง หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

      หนุ่มวัย 27 ผวา ถูกบุกตื้บถึงบ้าน จนเยื่อแก้วหูฉีก ฉุนขัดคำสั่ง ซ้ำถูกยายของคู่กรณีข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ อ้างเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย

     ธนากร ดำช่วย (เปรม) ได้เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านรายการ“ถกไม่เถียง”ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เกี่ยวกับกรณีที่ตนถูกผู้ก่อเหตุบุกถึงบ้านเพื่อมาทำร้าย จนเยื่อแก้วหูฉีกว่า ตอนนั้นตนกำลังหลับอยู่ ก็รู้สึกตัวว่ามีใครเข้ามาในห้อง โดยครั้งแรกผู้ก่อเหตุกระทืบลงที่หัวของตน และครั้งที่ 2 เตะเข้าที่เบ้าหู้ ตนจึงตกใจตื่น และรีบวิ่งออกจากห้อง เพื่อไปห้องกลาง…ตอนนี้อาการเหมือนมีน้ำอยู่ในหูตลอด คำแรกที่เขาพูดตอนเข้ามาในห้อง คือ “มึงปล่อยให้กูรอ” ตนจึงรู้ทันทีว่าคือใคร ก่อนวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุบอกให้ตนไปหา เพื่อให้ไปตัดหญ้าให้ 

       ธนากร ดำช่วย (เปรม) เผยว่าตนเคยเป็นลูกจ้าง(ไม่ประจำ)ของผู้ก่อเหตุ ตนเคยไปทำความสะอาดร้านตัดผมให้ ประมาณ 3 - 4 เดือน โดยก่อนวันเกิดเหตุ ตนตอบรับว่าจะเข้าไปที่ร้าน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เพราะ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน ตอนที่ตนทำงานอยู่ร้านทำผม ตนเคยถูกต่อยเข้าที่หัว เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่อยากกลับไปเหยียบที่ร้าน

      สุดารัตน์ ดำช่วย (น้อย) แม่ของผู้เสียหายเล่าว่า ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ตอนนั้นตนกำลังนั่งล้างจานอยู่ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ลงมาจากรถ และพูดว่า 

“ยายน้อย! วันนี้จะมาแทงเปรมให้ตายเลย”

      ตนฟังแล้วรู้สึกว่าคงไม่ใช่เรื่องหยอกล้อระหว่างลูกชายและหลานชายของนายกเทศบาลบุรีรัมย์แล้ว เพราะในมือของผู้ก่อเหตุนั้นมีมีดอยู่ โดยผู้ก่อเหตุปีนหน้าต่างเข้าไปในห้องลูกชายเพื่อทำร้ายร่างกาย ตนจึงวิ่งกลับมาที่ห้องกลางเพื่อเข้ามาห้ามปราม จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เข้ามาผลักตน ตนจึงผลักเขาออกไป เพราะตอนนั้นไม่กลัวแล้ว เมื่อผู้ก่อเหตุด่าลูกตนเสร็จ ก็ท้าให้ไปแจ้งความ โดยในมือผู้ก่อเหตุนั้นถือมีดและพร้อมที่จะลงมือตลอด

“…หลังจากผู้ก่อเหตุออกไป เราก็ไปแจ้งความทันที ทางตำรวจก็รับเรื่อง มาลงพื้นที่ และร้อยเวรถามเราว่า จะคุยกันไหม เราตอบไปว่า ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จากนั้นก็ไม่มีความคืบหน้าใดใดเลย…” สุดารัตน์ ดำช่วย (น้อย) กล่าว

       สุดารัตน์ ดำช่วย (น้อย) ยืนยันยังไม่เคยได้รับคำขอโทษจากฝั่งผู้ก่อเหตุ และตราบใดที่ผู้ก่อเหตุยังไม่มาขอโทษตนและลูกชาย ตนจะไม่ถอนแจ้งความและไม่รับการเจรจาและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านบวย เฮงประโคน (ยายของผู้ก่อเหตุ) ยอมรับว่าไปคุยกับยายน้อยจริง โดยตนเองยืนยันไม่ได้ขึ้นพูดคำหยาบใดใดทั้งสิ้นและกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่าให้เรื่องบานปลาย พร้อมรับว่าหลานตนเองผิดจริง 

“น้อยไปถอนแจ้งความเลยนะ ยายไปคุยกับมันแล้วว่ามันจะไม่ทำอีกแล้ว” บวย เฮงประโคน (ยายของผู้ก่อเหตุ) กล่าวกับ สุดารัตน์ ดำช่วย (น้อย)

        ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล (ทนายแก้ว) รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่าตำรวจต้องดำเนินการทันที เพราะ ต้องกลัวผู้ต้องหาต้องการหลบหนี.. และควรพูดคุยกับฝ่ายผู้ก่อเหตุให้เรียบร้อย เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ทั้งการขอคมา ไกล่เกลี่ย เป็นต้น พร้อมแนะการคุยกันเป็นทางออกที่ดี เพราะจะทำให้โทษหนักกลายเป็นเบาได้