วันที่ 12 ม.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส. ตร.) หรือ PCT เปิดเผยถึง พิษภัยในโลกออนไลน์ที่นับวันจะระบาดมากขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงออกมาเตือนภัยประชาชนให้ทราบถึงวิธีการต่างๆ ที่มิจฉาชีพมักใช้ในการหลอกเหยื่อบนโลกออนไลน์ รวม 7 ข้อ ดังนี้
1.หลอกขายของออนไลน์ แต่ไม่ส่งสินค้าจริง หรือส่งสินค้าที่ไม่ตรงตามที่ตกลง หรือไม่มีคุณภาพมาให้ โดยมิจฉาชีพจะนำภาพสินค้าจากอินเทอร์เน็ต หรือภาพจากผู้ใช้งานท่านอื่นที่ขายสินค้าจริง แล้วนำมาโพสต์ขายในช่องทางของตัวเอง เพื่อหลอกให้ลูกค้าหลงเชื่อว่ามีสินค้านั้นอยู่จริง และโอนเงินสั่งซื้อ แต่จะไม่ส่งสินค้า หรือส่งสินค้าไม่ตรงตามที่ตกลง
2.เงินกู้ออนไลน์ ดอกเบี้ยมหาโหด มีผู้เสียหายจำนวนมาก หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อแก๊งปล่อยเงินกู้ออนไลน์ โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะหลอกว่ามีบริการเงินกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยราคาถูก ผ่อนจ่ายระยะยาว แต่เมื่อทำสัญญาแล้ว กลับไม่ได้รับเงินกู้ตามจำนวนที่ตกลง อีกทั้งดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วย
3.เงินกู้ออนไลน์ ที่ไม่มีจริง (เงินกู้ทิพย์) ในกรณีนี้จะต่างจากกรณีข้างต้น คือ แก๊งมิจฉาชีพจะหลอกผู้เสียหายว่าก่อนได้รับเงินกู้ จะต้องเสียค่าบริการ ค่ามัดจำ หรือค่าดำเนินการต่างๆ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินให้เรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่ได้รับเงินกู้จริงตามที่กล่าวอ้าง
4.หลอกให้ลงทุนต่างๆ มิจฉาชีพจะหลอกให้ผู้เสียหาย ลงทุนต่างๆ เช่น ลงทุนธุรกิจ หรือ ลงทุนแชร์ลูกโซ่ ฯลฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะเสนอผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก ได้เงินไว แรกๆอาจจะได้รับผลจริง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากขึ้น ก็จะเริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่ให้ผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้
5.หลอกให้เล่นพนันออนไลน์ การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่มิจฉาชีพจะหว่านล้อมด้วยวิธีการต่างๆ ให้ผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนหรือเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งหากถูกโกงจากการพนันออนไลน์แล้ว อาจไม่สามารถแจ้งความหรือดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้
6.โรแมนซ์สแกม หลอกให้รัก หลอกให้โอนเงิน กลุ่มมิจฉาชีพจะทำงานเป็นขบวนการ โดยจะใช้รูปภาพและโปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติที่ดูดีมีฐานะ ทักมาคุยสร้างความสนิทสนม จากนั้นจะหลอกผู้เสียหายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น จะส่งของมาให้ หรือหลอกให้ลงทุน ฯลฯ ให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้เป็นจำนวนมาก
7.ลิงก์ปลอมหลอกแฮ็กข้อมูลโทรศัพท์ มิจฉาชีพจะส่งข้อความต่างๆ เช่น ได้รับความช่วยเหลือต่างๆ เป็นผู้โชคดีได้รับเงินรางวัล หรือแม้กระทั่งหลอกว่าเป็นลิงก์จากหน่วยงานหรือธนาคาร ให้ผู้เสียหายกดลิงก์เข้าไปเพื่อตรวจสอบข้อมูล แต่เมื่อกดลิงก์เข้าไปแล้ว มิจฉาชีพก็จะแฮ็กข้อมูลในโทรศัพท์หรือบัญชีธนาคาร ทำให้สูญเงินไปทันที
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ บอกด้วยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มงวด สำหรับประชาชนหากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน PCT 1599 หรือ บช.สอท. 1441 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 08-1866-3000 หรือ www.pct.police.go.th
+ อ่านเพิ่มเติม