นักธุรกิจสาว ร้องถูกอดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ หลอกร่วมลงทุนธุรกิจแก๊สหุงต้ม ใน สปป ลาว สูญกว่า 1.45 ล้านบาท หวั่นคดีไม่คืบ พบข้อมูลอดีต ส.ส.คนดังกล่าวมีคดีฉ้อโกงติดตัวถึง 2 คดี
จุฑาวรรณ โช ได้เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง และร้องผ่านรายการ“ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีถูกอดีต ส.ส. พรรคดัง จังหวัดกาฬสินธุ์ หลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจแก๊สหุงต้มข้ามชาติ ใน สปป. ลาว สูญเงินกว่า 1.45 ล้านบาท
จุฑาวรรณ โช หรือ เนย เริ่มรู้จักกับอดีต ส.ส.จากลูกสาวของอดีต ส.ส. ที่ได้มีการโพสข้อความเกี่ยวกับการทำธุรกิจแก๊สหุงต้มที่ สปป. ลาว และในช่วงนั้นตนได้ลาออกจากงานเลยเล็งเห็นว่าธุรกิจแก๊สหุงต้มมีความน่าสนใจ เหตุเพราะแก๊สหุงต้มเป็นสินค้าสาธารณูปโภคที่ทุกครัวเรือนต้องมีต้องใช้ จึงได้ทำการติดต่อลูกสาวของอดีต ส.ส.ผ่านกล่องข้อความบนเฟสบุ๊คเผื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ โดยมีลูกสาวของอดีต ส.ส.ให้รายละเอียดแบบคร่าว ๆ และบอกกับตนว่าถ้าสนใจจะให้คุยกับคุณพ่อ (อดีตส.ส.)
หลังจากที่ตนนั้นตกลงทำธุรกิจ ทางด้านของลูกสาวอดีต ส.ส.ได้มีการจัดตั้งกลุ่มไลน์โดยสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ อดีต ส.ส. ลูกสาวของอดีต ส.ส. ตนเองและสามี ภายในกลุ่มมีการส่งรูปภาพเกี่ยวกับธุรกิจ นามบัตรของอดีตสส. รวมถึงแจ้งว่าตนนั้น(อดีต ส.ส.) มีธุรกิจอีกหลายอย่าง เช่น ธุรกิจเบียร์ลาว ธุรกิจสวนปาล์ม ธุรกิจโรงโม่หิน ธุรกิจแก๊สหุงต้ม และธุรกิจร้านขายของชำ ด้วยเหตุนี้ตนจึงมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนกับอดีต สส. และได้ทำการโอนเงินไปให้ทางอดีต ส.ส.จำนวน 650,000 บาท โดยแบ่งยอดโอนเป็นสามรอบ รอบแรกจำนวน 300,000 บาท รอบที่สองจำนวน 100,000 บาท และรอบที่สามจำนวน 250,000บาท
หลังจากที่ตนนั้นทำเรื่องการโอนเงินแล้วเสร็จ ทางด้านอดีต ส.ส.ได้ดำเนินการเรื่องให้ทั้งหมดและแจ้งความคืบหน้าให้นางสาวจุฑาวรรณผ่านไลน์ ซึ่งในระหว่างนั้น ทางด้านอดีต ส.ส.ได้ติดต่อกลับมาที่นางสาวจุฑาวรรณเผื่อชักชวนให้ลงทุนเกี่ยวกับร้านขายชองชำ โดยอ้างว่าอยากให้จุฑาวรรณมีรายได้ และให้ข้อเสนอว่าถ้าลงทุนจะให้ปันผล 10 % ตามจำนวนเงินที่ลงทุนไป ตนปฎิเสธเพราะต้องใช้เงิน ทางอดีต ส.ส. จึงยื่นข้อเสนออีกครั้งว่าถ้าต้องการใช้เงินเมื่อไหร่จะคืนให้ จุฑาวรรณจึงตกลงร่วมธุรกิจโดยร้านขายของชำและโอนเงินไปจำนวน 8000,000 บาท
หลังจากตกลงเรื่องทั้งหมด ทางอดีต ส.ส. แจ้งกับจุฑาวรรณว่า ช่วงนี้สถานการณ์โควิด -19ที่สปป. ลาว กำลังระบาดอย่างหนักทำให้เปิดกิจการไม่ได้ จนเวลาล่วงเลยไป 1 ปี กิจการก็ยังคงไม่ได้เปิด ตนจึงเริ่มสงสัยจึงติดต่อเพื่อนที่อยู่ สปป. ลาวให้ไปดูร้านจนพบว่าภายในร้านไม่มีสินค้าอย่างที่อดีต สส.เคยแจ้งไว้ก่อนหน้า ตนจึงทักเข้าไปในไลน์กลุ่มเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยได้ความจากอดีต ส.ส. ว่าเอาของออกมาเพื่อจะไปขายและจะนำเงินมาให้ตน หลังจาที่ตนรู้เรื่องจึงขอยกเลิกสัญญาพร้อมทั้งขอเงินที่ลงทุนไปคืนทั้งหมดและดำเนินการแจ้งความ จนถึงตอนนี้เรื่องก็ยังไม่ถูกดำเนินการ
ทางด้าน ว่าที่ ร.ต.ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความจากกลุ่มทนายใจดี กล่าวว่า อดีต สส.นั้นมีความผิดคดีอาญาฐานฉ้อโกง โดยตามกฎหมายเรื่องเกิดในประเทศไทยจึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศไทย ทางทนายยังแจ้งอีกว่า ถ้าหากอดีต ส.ส. ไม่ติดต่อกลับมาภายในวันที่ 15 มกราคม 2565 จะให้ผู้เสียหายดำเนินการแจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้
อีกทั้ง พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม ได้แจ้งผ่านรายการว่า ตอนนี้คดีมันก่ำกึ่งระหว่างฉ้อโกง หรือยักยอกทรัพย์ ซึ่งต้องเชิญผู้เสียหายเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนในประเด็นที่ว่าคู่กรณีเป็นคนดังนั้นไม่ต้องกังวล หากผิดจริงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
อดีตสส
ฉ้อโกง
สามีภรรยา
นักธุรกิจ
แก๊สหุงต้ม
สปปลาว
สูญเงิน 145ล้าน
อดีตสจ
นักการมือง
คดีไม่คืบ