หนุ่มนอร์เวย์ สุดช้ำ ถูกสาวชาวกัมพูชา หลอกให้รัก หวังแต่งงานจริงจัง เปย์เงินให้นับแสน สุดท้ายจับได้ว่าแอบคบซ้อน เลยขอพึ่งทนายพาแจ้งความข้อหาฉ้อโกง
วันที่ 10 ม.ค.65 นายวินน์ ชัยเนตร ผู้ช่วยเหลืองานประชาสัมพันธ์ชุมชนตำบลบางเสร่ จังหวัดชลบุรี พา นายไคร์เร วิกดาเฮ ชาวต่างชาติ สัญชาตินอร์เวย์ อายุ 55 ปี ร้องผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รู้จักกับหญิงคนนี้ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในไทย เพราะมีเพื่อนชาวนอร์เวย์ 2 คน แนะนำ เธอทำงานเป็นกุ๊กที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านบางเสร่ เธอมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี และมีโอกาสได้พบหญิงคนนี้ครั้งแรกในเดือน ก.ค. 2019 ตอนแรกยังไม่มีอะไรเกินเลยกัน เป็นความสัมพันธ์แบบธรรมดา จนตนต้องกลับไปทำงานที่ประเทศนอร์เวย์ หลังจากกลับไปแล้วก็ยังได้มีโอกาสแชตคุยกับหญิงคนนี้มาตลอด บางวันก็วิดีโอคอลคุยกัน พอเริ่มสนิทกันก็เริ่มมีการคุยกันถึงเรื่องอนาคต ฝ่ายหญิงอ้างว่ากำลังลำบาก เงินไม่พอส่งเงินให้ลูกสาวที่กัมพูชา ตนจึงเสนอจะช่วยเหลือเรื่องเงิน เพราะเห็นว่าเขาเดือดร้อน และตนพอจะช่วยได้จึงช่วยเหลือ โดยการโอนเงินให้หญิงคนนี้ ประมาณ 7,000 - 15,000 บาท ต่อเดือน หลังจากนั้น หญิงคนนี้บอกว่าต้องเดินทางกลับกัมพูชา จึงได้มีการโอนเงินไปบัญชีที่กัมพูชาเรื่อยมา รวมทั้งหมดประมาณ 3 แสนบาท
นายไคร์เร เล่าต่อว่า พอคุยกันมาระยะเวลาหนึ่ง ความสัมพันธ์เริ่มจริงจัง ตนได้มีการคุยเรื่องอนาคตกับหญิงสาวรายนี้ โดยเธอบอกว่าเธอมีความฝันที่อยากจะไปอยู่ที่นอร์เวย์ ตนเลยเตรียมการทุกอย่างเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน มีการไปติดต่อหางานให้หญิงสาวคนนี้ พร้อมทั้งติดต่อโรงเรียนเพื่อให้สาวรายนี้ไปเรียนภาษานอร์เวย์ แถมมีการออกรถมอเตอร์ไซค์ให้ด้วย นอกจากนี้ยังไปตระเวนเตรียมเอกสารทางราชการ เตรียมข้าวของเสื้อผ้าต่างๆ ให้อย่างดี
พอช่วงเดือน พ.ย.64 ตนเดินทางมาเมืองไทยเพื่อจัดการเรื่องราว ฝ่ายหญิงอ้างต้องเตรียมเงินเพื่อจัดการเอกสาร ทำวีซ่าไปนอร์เวย์ จึงขอเงินตนอีกประมาณ 30,000 บาท ตนก็โอนเงินไปให้ที่บัญชีประเทศกัมพูชา หลังจากโอนเงินไปให้ ฝ่ายหญิงก็เงียบหายไปเลย จนต้องทักไปถามว่าเอกสารเสร็จรึยัง ซึ่งฝ่ายหญิงก็อ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อง จนช่วงหลังวันคริสต์มาส จู่ๆ ฝ่ายหญิงก็นัดให้ตนมาเจอที่บางเสร่ โดยให้ไปเจอที่สถานที่แรกที่เคยเจอกันเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เคยเจอกัน พอนั่งลงที่โต๊ะก็เจอผู้หญิงคนนี้เอาเมนูร้านอาหารมาให้พร้อมใส่ชุดพนักงานร้านนั้น ทำให้ตนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอควรเตรียมตัวทำเอกสารย้ายไปนอร์เวย์สิ ตนพยายามจะพูดคุยกับหญิงสาว แต่คุยได้ไม่นานเพราะเธอต้องลุกไปบริการลูกค้า ทำให้ตนต้องจ่ายค่าเสียเวลาให้เจ้าของร้านเพื่อดึงตัวเธอออกมาพูดคุย หวังจะเคลียร์ให้รู้เรื่อง แต่สุดท้ายก็คุยกันไม่รู้เรื่องอยู่ดี
"จริงๆ เรื่องเงินมันก็มีมาแล้วก็มีไป แต่สิ่งสำคัญคือ ผมอยากให้มนุษย์มีความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน ที่ผมยอมให้เงินผู้หญิงคนนี้ ส่วนหนึ่งก็มีเรื่องความชอบพอกันด้วย แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะ ผู้หญิงคนนี้มาบอกว่าเดือดร้อน แถมมีลูกสาวด้วย ฉะนั้น ผมก็เลยอยากช่วยเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์คนนึง ผมแค่อยากสร้างอนาคตกับผู้หญิงคนนี้" นายไคร์เร กล่าว
นายไคร์เร เผยว่า หลังจากเรื่องที่มีการไปแจ้งความ ตำรวจลงพื้นที่ ผู้หญิงคนนี้ก็ส่งข้อความมาหาตน ถามถึงกำหนดการต่างๆ ว่าแพลนของเราเป็นยังไง เราไม่ไปนอร์เวย์กันแล้วเหรอ ตนจึงตอบหญิงคนนี้ไปว่า ให้โตได้แล้ว แสดงความรับผิดชอบต่อคนอื่นด้วย และแม้จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตนมองว่ามันไม่ใช่ความผิดของประเทศไทย มันเป็นความผิดส่วนบุคคล ตนยังรักประเทศไทยอยู่เหมือนเดิม
นายวินน์ ชัยเนตร ผู้ช่วยเหลืองานประชาสัมพันธ์ชุมชนตำบลบางเสร่ จังหวัดชลบุรี เผยว่า ตนเองเจอคุณไคร์เรที่ร้านอาหารของตนเอง ซึ่งปกติตนจะคอยช่วยเหลือคนไทยและชาวต่างชาติอยู่เป็นประจำที่บางเสร่ เขาก็อธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเคยช่วยเหลือเคสลักษณะนี้มาหลายครั้ง เคสก่อนหน้านี้ ก็มีชาวต่างชาติมาปรึกษาว่าโดนโกงหลายล้าน แต่ตนไม่รู้ข้อกฎหมาย เลยบอกว่าคงช่วยไม่ได้ เขาก็กลับไปแล้วก็กินยาฆ่าตัวตาย มันทำให้ตนเสียใจมาก ต่างชาติหลายคนที่มาเมืองไทย หลายคนคิดว่าหวังจะให้เมืองไทยเป็นบ้านหลังสุดท้ายของชีวิต ในกรณีนี้ตนจึงขอให้คนที่มีความรู้ด้านกฎหมายเข้าช่วย และหลังจากได้คุยกับคุณไคร์เร พบว่าเขาเป็นคนที่คิดบวกมาก หลังเกิดปัญหาเขาก็พยายามคิดในแง่บวกมาตลอด ที่ออกมาพูดเพราะเขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ไปทำแบบนี้กับใครอีก
นายประทีป นาคบังเกิด ทนายความศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายจังหวัดชลบุรี ซึ่งเข้ามาช่วยดูแลกรณีนี้ เล่าว่า ตั้งแต่รับเรื่องขอความช่วยเหลือ ก็ตรวจสอบเอกสารที่เขาเอามาให้ดู หลังจากคุุยกันในเรื่องข้อเท็จจริง ก็พบว่ามีหลักฐานการโอนเงินในแต่ละครั้ง หลักฐานการคุยแชตในเมสเซนเเจอร์ และติดต่อกันมาในระยะเวลา 2 ปีกว่า มีการตกลงว่าจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทางบ้านเขามีการเตรียมตัวที่จะให้ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ด้วย และตรวจสอบไปที่ผู้หญิงคนนี้ พบว่าที่อ้างว่ากลับไปอยู่กัมพูชา จนคุณไคร์เรต้องโอนเงินเข้าบัญชีที่กัมพูชานั้น เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เขาถูกหลอกมาโดยตลอด ผู้หญิงคนนี้อยู่ที่บางเสร่ จ.ชลบุรี มาโดยตลอด ไม่เคยกลับไปที่กัมพูชาเลย แต่มีการเปิดบัญชีที่กัมพูชา และให้ผู้เสียหายโอนเงินไปที่บัญชีในกัมพูชา จากนั้นก็ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินออกที่ประเทศไทย
ถ้าถามว่ากรณีนี้ให้โดยเสน่หาหรือไม่ ตนมองว่าเจตนาของผู้หญิงคือการหลอก แสดงข้อความอันเป็นเท็จ อย่างเช่นหลอกว่าอยู่กัมพูชา ทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่ในไทย หลอกว่าจะนำเงิน 1 พันดอลลาร์ไปดำเนินเรื่องขอแต่งงานที่สถานทูต อันนี้คือหลอก ผิดกฎหมายอาญา มาตรา 341 ฐานฉ้อโกง ในกรณีนี้ ผู้เสียหายและผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติทั้งคู่ก็จริง แต่เรื่องเกิดขึ้นที่แผ่นดินไทย ฉะนั้นต้องดำเนินการตามกฎหมายไทย แม้ว่าจะมีการโอนเงินไปที่กัมพูชาก็จริง แต่ผู้หญิงคนนี้กดเงินออกมาและใช้เงินที่ไทยตลอดเวลา ฉะนั้น ความผิดเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ซึ่งคุณไคร์เรกังวลใจมากว่าจะดำเนินคดีกับหญิงคนนี้ได้ไหม หลังจากตนรับเรื่อง ตนพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่โรงพัก ได้ปรึกษากับ ผกก.สภ.สัตหีบ ท่านก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ตำรวจต้องปรึกษาหลายคนว่ากรณีอย่างนี้ เข้าข่ายให้โดยเสน่หาหรือไม่ แต่ตนได้อธิบายให้ท่านฟังแล้วว่ามันเข้าข่ายฉ้อโกงยังไงบ้าง อย่างไรก็ดี คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ สภ.สัตหีบ
ล่าสุด ญาติของหญิงสาวรายนี้ได้ติดต่อเข้ามาขอไกล่เกลี่ยยอมความ โดยทางผู้เสียหายก็พร้อมจะให้อภัย แต่ขอฟังเหตุผลก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะเข้ามาพูดคุยกับเขาว่าอย่างไร
สรุปผลโพล คุณคิดว่า หนุ่มนอร์เวย์ จะได้เงินคืนหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com