ลูกชายร้อง พ่อผมเปลี่ยนไป กลางคืนตัวดำ เหม็นสาบ แลบลิ้นยาว ขนหัวลุกยกบ้าน!

        วันที่ 6 ม.ค.65 ญาติคุณตาวัย 81 ปี จ.เพชรบุรี ป่วยติดเตียง มีอาการผิดปกติ คล้ายถูกผีเข้า ร้องผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ อยากให้ หมอปลา ช่วยพิสูจน์ 

 

 

        โดย ฐิติกร พิมพ์ถนอม ลูกชายของคุณตา และ ชีพ มั่นคง ญาติของคุณตา เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนคุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรงดี ยังเดินได้ โดยใช้ไม้เท้า 4 ขา พ่อมีโรคปลายประสาทอักเสบ ได้มีการไปรักษาโดยการผ่าตัดหมอนรองกระดูก จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา อยู่ๆ พ่อก็ทรุดลงกับพื้น แต่ไม่ได้ล้มลง เพราะเราจับไว้ได้ทัน พ่อมีอาการตัวแข็ง จึงเรียก 1669 มารับไปส่ง รพ.ท่ายาง ไปถึง รพ. พ่อก็มีอาการชักอยู่ 2-3 ครั้ง ตอนแรกนึกว่าจะเสียชีวิตแล้ว เพราะดวงตาแข็งค้าง ไม่พูดอะไรเลย คุณหมอวัดความดัน แล้วมีการส่งต่อไปที่ รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี และทำการเอ็กซเรย์สมอง ผลออกมาว่า สมองตีบ เนื่องจากไขมันอุดตัน ทาง รพ.แจ้งว่าอาจจะมีการใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเจาะคอในวันข้างหน้า แต่ทางเราปฏิเสธ ไม่ให้เจาะคอ เพราะสงสารพ่อ ทาง รพ.ก็เลยส่งพ่อกลับบ้าน

 

 

         หลังจากกลับมาอยู่บ้าน พ่อสามารถขยับแขนขาได้ แต่ลุกเดินไม่ได้ เริ่มสังเกตว่าคุณพ่อมีอาการผิดปกติ ตอนกลางวันมือเท้าจะมีสีปกติ แต่พอกลางคืน มือเท้าจะเปลี่ยนเป็นสีดำ  วันดีคืนดี พ่อก็สั่งเลือดต้ากิน (เลือดต้าทำจากเลือดหมูกับเครื่องในหมู) ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยกินลาบเลือดเลย เราเคยซื้อไปให้เขาก็ไม่กิน แล้วเวลาเราเช็ดตัวให้พ่อก็จะได้กลิ่นสาง พอล้วงเข้าไปในรูทวารก็ปกติ ไม่เจออะไร เราทำความสะอาดตัวพ่ออย่างดี ไม่ได้มีแผลกดทับใดๆ จึงสงสัยว่ากลิ่นมาจากไหน มาช่วงหลัง พ่อเริ่มแลบลิ้นออกมายาวถึงคาง เราก็ถามว่าแลบลิ้นทำไม เขาบอก กูจะหลอกมัน แล้วปกติพ่อไม่ได้เคี้ยวหมาก ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่เดี๋ยวนี้ทำปากขมุบขมิบเหมือนเคี้ยวหมาก หนักเข้าก็บอกว่าตัวเองเป็นผี เขาจะบอกเลยว่าเขาชื่อนางซิวกับนางหลง มาขออาศัยอยู่ด้วย วันแรกขอกินนู่นขอกินนี่ เราก็ทำให้ มาขอผ้าเหลือง ขอสังฆทาน เราก็จัดใส่บาตรให้ นิมนต์พระมาอยู่ 3 ครั้ง ตกลงกันว่าจะให้ออกจากร่างพ่อ เขาก็ไม่ไป บอกจะอยู่ร่างพ่อตลอดไป  ซึ่งนางซิวกับนางหลงมีตัวตนอยู่จริง และเสียชีวิตไปนานแล้ว บ้านของทั้งคู่อยู่คนละฝั่งคลองกับบ้านเรา เมื่อก่อนก็เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน นางซิวกับนางหลงเคยเข้าสิงร่าง แม่ของป้าชีพ แล้วตอนนั้น ตาปั้นเป็นคนเอาพระมาไล่ พอทำพิธีไม่นาน แม่ของป้าชีพ ก็ตาย ก่อนตายมีการขอกินหมาก 1 คำ พอกินเสร็จก็หลับไปเลย 

 

          และตั้งแต่กลับจาก รพ.มา คุณพ่อไม่ขับถ่ายเลย ทั้งที่กินข้าวปกติ 3 มื้อทุกวัน ท้องก็ยังแบนราบ ไม่มีอาการบวม จากปกติที่หูตึงไม่ค่อยได้ยิน เดี๋ยวนี้กลับหูดี ยืนอยู่ไกลๆยังได้ยินที่เราคุย อีกทั้งการพูดจาของพ่อกับพี่สาวก็เปลี่ยนไป มีการต่อว่าพี่สาวว่า "อย่าปากดี" ทั้งที่ไม่เคยพูดกับพี่แบบนี้ เราก็เลยคิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่พ่อ เลยอยากให้หมอปลามาช่วยพิสูจน์ แต่พ่อบอกไม่อยากให้หมอปลามาบ้าน เพราะกลัวว่าจะมาทุบของที่บ้าน ทางครอบครัวก็อยากให้หมอปลาดูให้หน่อยว่า มีผีอยู่ในร่างพ่อเราไหม ถ้าไม่มีก็จะได้มุ่งรักษาทางวิทยาศาสตร์ ถ้ามีก็ให้หมอปลาช่วยแก้

 

 

         ฟาก นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เผยถึงเคสนี้ว่า กรณีนี้มันก้ำกึ่ง เนื่องจากยังไม่ได้ลงพื้นที่ ก็เลยยังไม่รู้ว่าเกิดจากวิทยาศาตร์หรือผีเข้า แต่ที่ป้าเล่ามาก็ค่อนข้างน่ากลัว กลัวว่าหากทำพิธีไปแล้ว อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ซึ่งครอบครัวจะรับได้ไหม หลังทำพิธีเสร็จเขาก็อาจจะเป็นอะไรก็ได้ ถ้าครอบครัวยินยอมก็พร้อมจะทำพิธีให้ เพราะเคยมีเคสนึง เป็นเจ้าชายนิทรามา 6-7 ปี และพอทำพิธีไป 6-9 เดือน เขาก็ไป หรือจะลองพิสูจน์ง่ายๆก่อนได้ว่า ให้คนไปนอนขวางปลายเท้าเขาไว้ ถ้าคนที่ไปนอน นอนไม่หลับ แสดงว่ามีพลังงานบางอย่าง คนนั้นจะรู้สึกได้ และหลังจากนี้ จะลงพื้นที่ไปดูให้ จากที่ดูหากทำพิธี คิดว่าไม่เกิน 48 ชม. จะเสียชีวิต

 

 

          ขณะที่ นพ.รัชยุทธ ธนปิยชัยกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา อนุสาขาโรคหลอดเลือดสมอง แพทย์พิเศษหน่วยโรคหลอดเลือดสมอง ภาควิชาอายุรศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ และรพ.BNH พูดถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ประวัติคนไข้ค่อนข้างชัดเจนเลยว่ามีความผิดปกติของสมองซีกขวา เนื่องจากการขาดเลือด มันจะแสดงอาการฉับพลันทันที หรือเรียกทั่วๆไปว่า สโตรค คนไข้อายุเยอะแล้วด้วย สโตรคน่าจะส่งผลต่อสมองเยอะมาก อาจไปทำลายส่วนการควบคุม การประมวลผล การรับรสที่ซับซ้อน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณพ่อเกิดพฤติกรรมที่แปลกไปได้ ส่วนเรื่องกลิ่นตุๆ ผมว่าคนไข้น่าจะมีปัญหาเรื่องไต ขับของเสียได้ไม่ค่อยดี ทำให้มีกลิ่นยูเรียออกมาจากผิวหนัง กรณีนี้ต้องไปตรวจเลือดดู นอกจากนี้ผมได้เห็นว่าคนไข้กินยากันชัก คิดว่าเนื้อสมองที่เสียไปมีขนาดใหญ่ อาจเกิดอาการชัก ซึ่งการทำปากขมุบขมิบอาจเป็นส่วนหนึ่งของอาการชักก็ได้ สำหรับเรื่องท้องผูกนานกว่า 20 วันนั้น ก็เป็นไปได้ อาจจะมีอุจจาระตกค้างอยู่ในลำไส้ก็ได้ อยากจให้พาคุณพ่อไปตรวจที่ รพ.