ดรามาเปิดศึกชิง 'เจ้าเสือ' แมวจรป่วยหนัก ชาวเน็ตสงสัย หรือหวังเงินบริจาค? : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

946 ครั้ง

28 ธ.ค. 2564

แชร์ข่าวไปที่

2 หญิงใจบุญ เปิดศึกชิง เจ้าเสือ แมวจรข้างถนนในซอยวัดกู้ ปากเกร็ด ขณะที่แมวป่วยหนักอยู่ใน รพ.สัตว์ คาดอาจอยู่ได้ไม่นาน ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย หวังดีจริง หรือหวังเงินบริจาค

ถกไม่เถียง : ดรามาเปิดศึกชิง เจ้าเสือ แมวจรป่วยห

วันที่ 28 ธ.ค.64 คุณนก ผู้ที่โพสต์ข้อความตามหาแมวจร ได้เปิดเผยผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงประเด็นดรามาที่เกิดขึ้นว่า เราช่วยหมาแมวจรมาตลอด 30 ปี วันหนึ่งมีคนมาบอกให้ไปช่วยเจ้าเสือ ซึ่งเป็นแมวจรในซอยวัดกู้หน่อย เพราะเจ้าเสือโดนน้ำร้อนลวก คาดว่าโดนแม่ค้าแถวนั้นสาดน้ำไล่ หลังจากที่เข้าไปช่วยก็พบว่าเจ้าเสือผอมมาก บริเวณหลังเป็นแผลแดง เราก็เลยเอายาทาให้ แล้วก็ให้วิตามินบำรุง ด้วยความที่เรามีประสบการณ์ในการดูแลหมาแมวมานาน หมอเคยสอนวิธีการให้น้ำเกลือ การช่วยเหลือ ทำให้เราพอมีความรู้ในเรื่องนี้ เราก็ดูแลเจ้าเสืออยู่ประมาณเดือนนึง เจ้าเสือก็มาหลบอยู่ข้างวินมอเตอร์ไซค์ เราก็คอยมาดูแลเอาอาหารมาให้ ที่บ้านเราเองก็เลี้ยงแมวอยู่ 18 ตัว อยู่มาวันนึง เจ้าเสือก็หายไป เราตามหาอยู่ 3-4 วัน พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็บอกว่ามีลุงคนนึงอุ้มไปแล้ว มารู้ภายหลังว่าคนที่อุ้มไปเป็นผู้ชายที่ขายของในร้านอาหารหมา เป็นคนช่วยคุณเกตุอุ้มไป ตอนแรกเราก็ถอดใจ คิดว่าอย่างน้อยมันก็มีคนดูแล แต่สุดท้ายเราไปเจอเขาอยู่ในกรงที่คลิกนิกใน รพ.สัตว์แห่งหนึ่ง เจ้าเสือเอาเท้ามาสะกิดเรา เราเห็นแล้วก็ตกใจว่าเสือมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ก็เลยได้มีการพูดคุยกับคุณหมอ คุณหมอบอกเจ้าเสือป่วยเป็นเอดส์แมว และโรคลูคีเมีย ตอนนี้รักษาอยู่ เราก็ถามว่าเราเอาน้องกลับไปได้ไหม เดี๋ยวเราจะเอามารักษาทุกวันเหมือนที่เคยทำ หมอก็บอกให้ลองอ่านป้ายดู เขาติดป้ายประกาศตามหาคนรับเลี้ยงแมว เราจึงโทรไปหาเขาเพราะอยากจะรู้ว่าใครจะเอาไปเลี้ยง ถ้าเขาไม่เลี้ยงก็จะขอรับกลับไปดูแล แต่กลับโดนเขากล่าวหาว่าเราปรุงยารักษาแมวเอง หาว่าเราเลี้ยงแมวเป็นหัด 5 ตัว ยืนยันว่าเราไม่ได้ปรุงยาให้แมวกินเอง และที่บ้านไม่มีแมวป่วยอย่างที่เขาอ้าง

ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อหากินกับหมาแมวจรนั้น ยืนยันว่าเราเป็นคนธรรมดาที่ช่วยเหลือแมวจร โดยใช้ทุนทรัพย์ของตัวเอง ยอมรับว่าเคยเปิดรับบริจาคจริง แต่แทบไม่มีคนโอนเงินมาให้เลย อย่างมากก็แค่ 100-200 บาท เราเองมีหน้าที่การงานเป็นนายหน้ารับเหมาก่อสร้างรับตอกเสาเข็มโรงงานชลบุรี เฟซบุ๊คที่เราใช้ก็เป็นเฟซบุ๊คส่วนตัว ไม่ใช่เพจ เรารู้สึกว่าเพจ มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจแมวจร มันดูผิดปกติ มีข้อกำหนดว่าต้องทำหมัน แล้วคนก็ไปคอมเม้นต์ว่าแมวเป็นเอดส์ เป็นลูคิเมีย ทำหมันไม่ได้นะ ก็ไม่มีการตอบรับจากเพจ เราก็เป็นห่วง กลัวแมวตายคากรง เลยอยากได้แมวคืน แล้วแมวเป็นโรคแบบนี้ ไม่ควรขังกรง ควรปล่อยให้เขาได้เดิน เราแปลกใจว่าในเมื่อเขาประกาศหาบ้านใหม่ให้แมว แล้วเราต้องการเจ้าเสือกลับไปเลี้ยงทำไมถึงไม่ให้

ถกไม่เถียง : ดรามาเปิดศึกชิง เจ้าเสือ แมวจรป่วยห

ด้าน คุณเกตุ และ คุณส้ม ผู้ที่นำแมวไปรักษา เปิดเผยว่า เราเจอเจ้าเสือหลายครั้งที่บริเวณหน้าร้านขายอาหารสัตว์ ใกล้วินมอเตอร์ไซค์วัดกู้ ก็รู้สึกสงสาร จนกระทั่ง วันที่ 8 ธ.ค. ตนเห็นเจ้าเสือมีบาดแผลตามตัว รวมทั้งอยู่ในสภาพที่ป่วยอย่างหนักแทบจะเดินไม่ไหว จึงได้อุ้มพาขึ้นรถนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ และตรวจพบว่าน้องเป็นโรคร้าย ตอนนั้นยังไม่คิดว่าจะหาบ้านหรืออะไร แค่อยากจะช่วยน้อง เลยเอาเงินส่วนตัววางมัดจำค่ารักษาไป 2,000 บาท ที่บ้านเราเองก็มีแมวจรอยู่ 5 ตัว ทำหมันครบทุกตัว ซึ่งเราก็ไม่เคยคิดที่จะปรุงยารักษาแมวเอง ไม่ว่าแมวจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เราจะพาไปหาหมอเลย หลังจากที่เรานำเจ้าเสือไปรักษา คุณนก ก็ได้โทรมาหา ตอนแรกเขาก็ขอบคุณที่เราพาแมวไปรักษา บอกกับเราว่าตอนนี้เขาเอาเจ้าเสือกลับไปไม่ได้ เพราะที่บ้านน้ำท่วม และแมวที่บ้านติดหัดหลายตัว และตอนนี้ก็ตกงานอยู่ ไม่มีรายได้ เราก็เลยว่าถ้าตอนนี้ยังไม่มีใครรับไปเลี้ยง เราคงจะรับไปเลี้ยงก่อน แต่ตอนนี้ เจ้าเสือ อยู่ในความดูแลของมูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจแมวจร แล้ว เราส่่งเคสไปแล้วเขาก็ตอบรับ ขอความช่วยเหลืออยู่ในวงเงิน 6,900 บาท ซึ่งเขาก็ให้มา 7,000 บาท โดยมูลนิธิระบุว่าหากรักษาแล้วต้องทำหมัน หากว่าทำได้ ซึ่งตรงนี้เราไม่เคยเปิดบัญชีรับบริจาคหรือระดมทุนเลย แต่มีผู้ใหญ่ใจดีมาช่วยเหลือ เรามี Statement ชัดเจน มีใชเสร็จ มีสลิป แจกแจงได้หมด ส่วนเรื่องที่แมวต้องถูกขังในกรงนั้น มันเกิดจากดุลยพินิจของแพทย์ แมวเป็นโรคหนัก ไม่สามารถปล่อยเพ่นพ่านได้ ไม่งั้นก็คงไปติดโรคกับตัวอื่น สุดท้าย คุณนก ไลน์มาเพื่อขอเจ้าเสือกลับไปเลี้ยง แต่เราขอปรึกษามูลนิธิก่อน เพราะตอนนี้แมวอยู่ในความดูแลของมูลนิธิ มูลนิธิจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะยกแมวให้ใคร เราแค่นำแมวมารักษา และอยากให้แมวได้อยู่ในบ้านที่ดี ตอนนี้ก็เป็นในส่วนของมูลนิธิที่จะตัดสินใจ

ฟาก รศ.น.สพ.ดร.จตุพร รัตนศรีสมพร อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกสัตว์เลี้ยง คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยว่า แมวที่ป่วยเป็นเอดส์แมว สาเหตุหลักเกิดจากน้ำลายเป็นพาหะหลัก นอกจากนั้นยังมีพวกสารคัดหลั่ง น้ำมูล อุจจาระ ปัสสาวะ แต่โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่เลี้ยงปล่อย แล้วมันไปสู้กัน นอกจากนี้ยังมีการติดต่อกันผ่านแม่แมวได้ การติดเชื้อมันมีหลายระยะบางตัวอาจจะไม่แสดงอาการ แมวที่เป็นทั้งเอดส์และลูคิเมีย จะต้องแบ่งระยะการป่วย บางตัวติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ หากมีภูมิคุ้มกันที่สูงพอ ถ้าแมวแสดงอาการแปลว่าระดับภูมิคุ้มกันต่ำลง โดยเฉพาะเอดส์แมวจะไปทำลายภูมิคุ้มกันของแมว ไขกระดูก และทำให้เกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งแมวที่ป่วยเอดส์แมว และลูคิเมีย สามารถแพร่เชื้อได้เช่นกัน ถ้ามันไปกัดตัวอื่นก็อาจจะติดเชื้อได้ ถามว่าหมอสามารถวินิจฉัยโรคด้วยตาเปล่าได้หรือไม่ เราเป็นหมอต้องใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ ดูอาการก่อน มีความเสี่ยงไหม ดูด้วยสายตาเปล่าๆไม่สามารถยืนยันได้ เรื่องการให้น้ำเกลือ สัตว์มีน้ำหนักตัวต่างกัน ต้องให้ยาตามน้ำหนักด้วย ต้องอยู่ในความควบคุมและดูแลของแพทย์

สุดท้ายนี้ หลังเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นดรามา ทางมูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจแมวจร ยืนยันว่า จะขอดูแลเจ้าเสือไว้เองจนกว่าจะสิ้นอายุขัย

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com