logo ถกไม่เถียง

ย้อนรอยโศกนาฎกรรมรัก "น้องจูน-หมวดแบงค์" 5 ปีที่สุดแสนทรมาน กับผลลัพธ์ที่ต้องเผชิญ : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ถกไม่เถียง : เปิดใจ น้องจูน -แม่เก่ง หลังศาลทหารตัดสินคดี หมวดแบงค์ อดีตสามี ทำร้ายน้องจูนบาดเจ็บสาหัส พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล ขอเริ่มต้นชีวิต ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,โศกนาฏกรรม,น้องจูน,หมวดแบงค์,ศาลตัดสิน,ทำร้ายร่างกาย,จำคุก,ชดใช้,ค่าเสียหาย,รักษาตัว,ตำรวจ,รอลงอาญา,ชะตากรรม,ประจวบคีรีขันธ์,พยายามฆ่า,ศาลทหาร,กายภาพบำบัด,ข้าราชการ,ทหาร,ค่ายทหาร,คนรัก,อดีตแฟน,เจ็บสาหัส,แม่เก่ง

1,225 ครั้ง
|
23 ธ.ค. 2564

      เปิดใจ น้องจูน -แม่เก่ง หลังศาลทหารตัดสินคดี หมวดแบงค์ อดีตสามี ทำร้ายน้องจูนบาดเจ็บสาหัส พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอบคุณทุกกำลังใจจากคนไทย

วันที่ 23 ธ.ค.64  นางสุนทรี เถาวัลย์ หรือ แม่เก่ง พร้อมด้วย น.ส.สุกฤตตา สุภานิล หรือ น้องจูน ได้เปิดใจผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาตัดสินแล้ว จะใช้ชีวิตยังไงต่อไป
 
ถกไม่เถียง : ย้อนรอยโศกนาฎกรรมรัก
 
         โดย แม่เก่ง เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุน้องจูนถูกทำร้ายร่างกาย ชีวิตของตนเองก็เปลี่ยนไป วันๆ ชีวิตวนเวียนอยู่กับ บ้าน ที่ทำงาน โรงพยาบาล และโรงพัก แม่ต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปโรงพยาบาลเยี่ยมน้องจูนที่ห้องไอซียู เวลาที่เหลือก็ต้องวิ่งดำเนินเรื่องเอกสาร สิ่งของของน้องจูนที่หายไปที่โรงพัก ช่วงนั้น แม่เครียดตลอด เพราะไม่เคยดูแลคนไข้นอนติดเตียง มีสายระโยงระยาง 7-8 สาย มันจะมีตารางเวลาเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งแม่ทำไม่เป็น ตอนนั้นก็มีน้ำตาไหลออกมาเอง แต่ว่าโชคดีมีญาติคนไข้คนอื่นมาช่วยสอน มีพลทหารที่หน่วยงานส่งมาช่วยดูแล มาช่วยเหลือเพราะช่วงนั้นมีคนมาเยี่ยมน้องจูนเยอะมาก แม่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใครก็กังวลเรื่องความปลอดภัย ทางหน่วยงานของน้องจูนก็เลยช่วยส่งพลทหารมาช่วยดูแล ณ เวลานั้น แม่ต้องปิดร้านไม่ได้ขายของเลย 4-5 เดือน เพราะต้องมาเฝ้าน้องจูน เนื่องจากน้องจูนไม่รู้สึกตัวเลย และเพราะปิดร้านไปทำให้ช่วงนั้นไม่มีรายได้เลย ก็ได้รับความช่วยเหลือจาก หัวหน้ากองน้องจูน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนๆของน้องจูน ที่ช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาล
 
        ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล ทางคู่กรณีได้โทรมาสอบถามอาการน้องจูน แต่ด้วยความที่แม่เครียดมาก ไม่อยากรับรู้อะไร จึงบอกไม่ให้เขาโทรมาอีก ช่วงนั้นแม่ก็หันหน้าเข้าหาทางธรรม เพื่อประคองจิตใจตัวเอง ไปไหว้พระขอพร สวดอิติปิโส ทุกวัน หวังว่าลูกจะฟื้นขึ้นมา ช่วงหลังแม่ไม่ได้ให้ใครเข้าเยี่ยมน้องจูนเลย แต่มีช่วงหนึ่ง ที่ทางญาติ และแม่ของหมวดแบงค์ มาหา มาขอโทษแทนลูก ซึ่งแม่เองก็เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เหมือนกัน เพราะคนที่กระทำไม่ใช่แม่ แต่เป็นตัวลูก เขาก็ให้เงินช่วยเหลือประมาณ 3 ครั้ง รวมๆแล้วประมาณ 4 หมื่นบาท ซึ่งตอนนั้นก็ยังแจ้งความไม่ได้ เพราะตำรวจแจ้งว่า น้องจูนยังไม่ฟื้น ยังไม่สามารถให้การได้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ ณ ขณะนั้น เขาก็ประสานมาว่าจะให้ขอจบเรื่อง โดยยื่นข้อเสนอให้เงิน 1 ล้านบาท แลกกับการจบเรื่อง ซึ่งแม่รับไม่ได้ สำหรับเงิน 1 ล้านบาท แลกกับชีวิตน้องจูน ตอนนั้นก็คิดว่าจะทำยังไงดี จะหาใครช่วยเหลือได้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องการอะไรตอบแทน แล้วแม่ก็ไปเจอท่านนึง เขาช่วยคดีน้องน็อต ไขควง แม่ก็เลยส่งภาพน้องจูนสภาพเปื้อนเลือด ขอความกรุณาให้ท่านช่วยน้องจูนด้วย พร้อมกับทิ้งเบอร์ไว้ ผ่านไปสักครู่ ทนายสงกาญ์ก็ตอบกลับมา บอกให้แม่เล่าเรื่องราวตามความเป็นจริงในแชทเฟซบุ๊ก 
 
ถกไม่เถียง : ย้อนรอยโศกนาฎกรรมรัก
 
         ซึ่งทาง ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า ขณะนั้นเราทำรายการคลายทุกข์ชาวบ้าน เราเห็นสภาพ 2 แม่ลูกเดินกระย่องกระแย่งมา บอกให้เขาเล่าตามความจริง เขาถามเราว่าเราจะช่วยไหม เราก็ยินดีจะช่วย เราก็บอกให้เล่าในความเป็นจริง ตอนนั้นเขาพูดประมาณว่าถ้ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เขากับลูกจะตัดสินใจจบชีวิตตัว
 
          น้องจูน เล่าว่า ตอนนี้สภาพร่างกายและจิตใจ ดีขึ้นมาในระดับนึงแล้ว ตอนนั้นที่รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็อยู่ที่บ้านแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แม่ก็สอนให้เราพยายามช่วยตัวเอง เพราะตอนนั้นเราเดินไม่ได้เลย ต้องพยายามหัดเดินใหม่ โดยมีคุณแม่คอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลา ที่ฟื้นฟูขึ้นมาได้ขนาดนี้เพราะแม่ แม่ให้ทำอะไรก็ทำ 
 
         ส่วนเรื่องอาการของน้องจูนตอนนี้ แม่เก่ง เผยว่า สภาพร่างกายของน้องจูนตอนนี้ ก็ไม่ได้กลับมา 100% สมองได้รับการกระทบกระเทือน น้องยังต้องยังต้องไปทำกายภาพบำบัด พบจิตแพทย์ อย่างต่อเนื่อง 
 
         สำหรับเรื่องคดีความนั้น ทนายสงกาญ์ เผยว่า คดีนี้ ตอนเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาล ศาลมองว่าเป็นเหตุบันดาลโทสะ เนื่องจากว่าจำเลยมีการเยียวยาให้กับแม่ และแม่ได้มีการเซ็นบันทึกข้อตกลง ให้เป็นคดีแพ่ง ไม่ติดใจในคดีอาญาอีกต่อไป สำหรับข้อหาพยายามฆ่า ศาลพิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย แต่เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ และทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ส่วนข้อหาอาวุธปืนนำสืบไม่ได้ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย เรื่องกฎหมายก็ปล่อยให้ดำเนินไปครับ แต่ทนายเชื่อว่ากฎแห่งกรรม ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น 
 
          สิ่งที่ ทนายสงกาญ์ เป็นห่วงตอนนี้ก็คือ ทางคุณแม่เก่ง ป่วยเป็นมะเร็งในจุดสำคัญ แล้วน้องจูนก็ยังไม่มีแฟน ต้องอยู่ในความดูแลของคุณแม่ ทั้งยังต้องรักษาอาการตัวเองไปตลอดชีวิต และหัวหน้างานของน้องจูนตอนนี้ ก็คือหัวหย้าของหมวดแบงค์ในอดีต ก็เป็นห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อการทำงานของน้องต่อไปหรือไม่
 
ถกไม่เถียง : ย้อนรอยโศกนาฎกรรมรัก
 
        แม่เก่ง ยังเผยอีกด้วยว่า ตอนนี้มีหนี้สินอยู่ประมาณ 7 แสนบาท เป็นหนี้ที่น้องกู้เงินมาเพื่อให้แม่ทำธุรกิจส่วนหนึ่ง แล้วก็มีส่วนหนึ่งที่น้องจูนไปช่วยค้ำประกันให้เพื่อน แล้วเพื่อนหนีราชการไป น้องจูนเลยต้องมารับใช้หนี้แทน ทุกเดือนต้องจ่ายประมาณ 8,000 - 9,000 บาท ตอนนี้แม่ก็เปิดร้านกาแฟอยู่ที่ปราณบุรี ชื่อ ร้านปังปังCoffee1365 ขายขนมปัง กาแฟสด น้ำหวาน เราทำเองทั้งหมด เพราะไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปจ้างพนักงาน ร้านแม่สามารถสั่งออนไลน์ได้ แต่อาจจะตอบช้าหน่อย เพราะแม่ก็ต้องทำงานไม่มีเวลาตอบเท่าไหร่ ส่วนน้องจูนก็จะมาช่วยตอนหลังเลิกงาน หากใครอยากช่วยเหลือน้องจูน ก็ช่วยอุดหนุนสินค้าในเฟซบุ๊กแฟนเพจ "ปังปัง coffee1365" ที่แม่อยากฝากคือ อยากจะฝากเรื่องอนาคตของน้องจูน ฝากกองทัพบกช่วยดูแล
 
          ทั้งนี้ น้องจูน เผยว่า คุณแม่เครียดมาก เพราะขายของไม่ค่อยดี แต่ก็ยังต้องหาเงินมาจ่ายหนี้ ส่วนตัวเอง ก็ไม่รู้จะร้องไห้ไปทำไม มันก็มีบางทีที่เศร้า แต่ร้องไห้ไปก้ไม่ได้อะไร สู้เอาเวลาไปขายของให้ดีที่สุด เอาเงินมาช่วยแม่ ช่วยกันปลดหนี้กันดีกว่า 
 
       ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/z6dszKx7LOM