แจ๊ส ชวนชื่น พา ภรรยา ร้อง ปอท. ถูกมือดีนำภาพ ไปตัดต่อใส่คลิปโป๊
logo ข่าวอัพเดท

แจ๊ส ชวนชื่น พา ภรรยา ร้อง ปอท. ถูกมือดีนำภาพ ไปตัดต่อใส่คลิปโป๊

ข่าวอัพเดท : เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 64 ที่กองบัญชาการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. นายผดุง ทรงแสง หรือแจ๊ส ช แจ๊ส ชวนชื่น,แจง,ตัดต่อ,ภาพ,คลิปโป๊,ทนายตั้ม,ปอท

1,527 ครั้ง
|
21 ธ.ค. 2564
      เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 64 ที่กองบัญชาการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. นายผดุง ทรงแสง หรือแจ๊ส ชวนชื่น ศิลปินชื่อดัง พร้อมด้วย น.ส.ปุณณาสา พรหมยศ หรือแจง ภรรยา และ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ฐานันดร สาสูงเนิน รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์ @pokhip และบัญชีแอพพลิเคชั่น VK “ช็อตเด็ดดาราไทย” ที่นำภาพนางสาวปุณณาสา ไปตัดต่อใส่คลิปวิดิโอลามก ในความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์
 
        น.ส.ปุณณาสา เปิดเผยว่าตนทราบมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ว่ามีการนำภาพของตนไปใช้ในทางที่ไม่ดี เนื่องจากแฟนคลับติดต่อมาหลายคน ซึ่งช่วงแรกตนไม่ได้คิดที่จะดำเนินการอะไร แต่เมื่อเห็นว่ามีการนำภาพจากช่องยูทูปของตน และภาพจากการถ่ายเอ็มวีเพลง 24 พฤษภาคม ไปตัดต่อใส่คลิปวิดิโอลามกลงในเว็บไซต์ประมาณ 5 เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์ทวิตเตอร์ ที่มีข้อความค่อนข้างรุนแรง รวมถึงมีศิลปินอีกหลายคนที่โดนกระทำแบบตน จึงต้องการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเป็นตัวอย่าง
 
        นายผดุง เปิดเผยว่า เนื่องจากมีผู้ที่โดนกระทำแบบเดียวกันหลายคน จึงเห็นว่าต้องทำให้เป็นตัวอย่างส่วนผู้ก่อเหตุถ้ากล้าทำก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนตัวช่วงแรกไม่ได้ต้องการแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากมองว่าเสียเวลา แต่ต้องการทำให้เป็นตัวอย่าง เพราะการกระทำดังกล่าว “สกปรก” เกินไป และอยากพบกับผู้ก่อเหตุอีกด้วย
 
        ด้าน นายษิทรา หรือ ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ต้องการให้ดำเนินความผิดฐานพรบ.คอมพิวเตอร์กับผู้ที่ตัดต่อและเผยแพร่ภาพในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี และในส่วนของผู้ที่เผยแพร่เพิ่มเติม ก็ถือว่ามีความผิดด้วย เนื่องจากน.ส.ปุณณาสาได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบตัวผู้ก่อเหตุ แต่คาดว่าน่าจะอยู่ในประเทศไทย และเป็นคนเดียวกัน ขณะนี้บัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าวยังคงมีอยู่
 
        น.ส.ปุณณาสา กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้สึกหวาดระแวง เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้นำภาพของตนไปใช้นับสิบภาพ เช่น ภาพจากคลิปวิดิโอวันเกิดของลูกสาว แม้ว่าตนจะแต่งกายมิดชิดก็ตาม เสมือนถูกตามติดในสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ไม่มีการติดตามในชีวิตจริงแต่อย่างใด
 
        เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้พร้อมเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง