แม่คาใจ ร้องลูกสาวอาชีพพริตตี้ ประสบอุบัติเหตุขี่ จยย.ชนราวสะพานพระสังฆราชฯ เสียชีวิต พบพิรุธการตาย เชื่อเกิดจากอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ไม่ใช่รถล้มเอง วอนช่วยตรวจสอบ เผยคลิปวงจรปิดมีรถต้องสงสัยวิ่งในเวลาประสบเหตุ
วันที่ 13 ธ.ค.64 น.ส.ญาณี วัฒนา แม่ผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ในคืนเกิดเหตุ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 04.25 น. คืนนั้นลูกสาวไปส่งเพื่อนกลับบ้านที่บ้านลิ้นช้าง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เมื่อส่งเพื่อนเสร็จก็ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะกลับบ้าน และได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกลางถนนบนสะพานสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร ซึ่งคืนนั้น พี่สาวพยายามโทรติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้ กลายเป็นมีตำรวจรับสาย แล้วแจ้งว่า กุ๊บกิ๊บ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว ทำให้รู้สึกช็อกไปเลย ตอนที่ไปแสดงหลักฐานว่าเป็นญาติ ก็เอาบัตรประชาชนไปแสดงตน และด้วยความที่ทุกคนยังช็อกอยู่ เมื่อตำรวจถามว่าติดใจสาเหตุการเสียชีวิตไหม ญาติๆ ก็เลยตอบว่าไม่ติดใจกัน แต่พอได้ดูที่เกิดเหตุ ได้เห็นสภาพศพของลูกสาว ทำให้แน่ใจเลยว่าไม่ได้เกิดจากรถล้มเอง เพราะศพมีเลือดออกจมูก ออกปาก ตรงคอมีรอยช้ำ รอยไหม้ ซึ่งร่องรอยมันเยอะกว่าที่จะเกิดจากรถล้มเอง แต่จนท.แจ้งว่า เป็นอุบัติเหตุเสียชีวิตเอง ทั้งยังบอกว่าไม่มีรถอะไรผ่านที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยเฉี่ยวชน ทางครอบครัวจึงต้องไปตระเวนหาหลักฐานเอง โดยเดินไปดูตามจุดใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อหากล้องวงจรปิด ขอร้องประธานชุมชนให้ช่วยหาหลักฐาน เขาก็ช่วยเหลือเพราะสงสาร ที่ต้องมาวิ่งหาหลักฐานทวงความยุติธรรมเอง
และภาพจากกล้องวงจรปิด ผู้เสียชีวิตไม่ได้ขี่รถเร็วเลย ในกล้องจะเห็นว่ามีรถยนต์ขับตามมาด้วย ซึ่งอาจจะเกิดการเฉี่ยวชนกันก็ได้ ที่น่าสงสัยคือ ผู้เสียชีวิตกำลังขี่รถขึ้นสะพาน แต่ทำไมตำแหน่งรถที่ล้ม ไปอยู่ตรงกลางสะพาน แต่ร่างกลับไปอยู่จุดตรงด้่านล่างของสะพาน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตร นอกจากนี้พยานในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นยามของสวนสาธารณะก็พูดว่าได้ยินเสียงรถล้มก็เดินไปดูยังพบว่าลูกสาวลุกมานั่ง แต่พอผ่านไปสัพัก ก็ได้ยินเสียง ตึ้ม จากนั้นหันมาดูก็พบว่ามีรถกระบะขับผ่านไป ซึ่งต่อมายามที่เป็นพยานคนนี้ได้ลาออกจากงานไปแล้ว ตอนนี้ครอบครัวคาใจ เพราะจากภาพวงจรปิด เห็นรถกระบะต้องสงสัยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวนมาในเวลาเดียวกันกับตอนเกิดเหตุ ซึ่งช่วงเวลานั้น ถนนโล่งมาก มีรถแค่ 3 คันวิ่งอยู่ ซึ่งอีก 2 คัน ทางครอบครัวไม่ติดใจเลย เพราะคันหนึ่ง ขับชะลอและ ส่งสัญญาณไฟเตือนว่ามีอุบัติเหตุ ส่วนคันที่ 3 เขาจอดรถขวางไว้ให้ เพื่อไม่ให้รถที่ตามมาทับร่าง พร้อมลงมาให้ความช่วยเหลือ
ตอนแรก พลเมืองดีมาตามหาเราที่วัด ซึ่งเขาเป็นคนที่ลงไปทำ CPR ให้ลูกสาว แล้วแจ้งว่าได้เอาเมมโมรี่การ์ด คลิปกล้องหน้ารถไปให้ตำรวจแล้ว เราจึงตามไปเพื่อขอดู กลายเป็นว่าไฟล์เสีย ภาพเหมือนโดนตัดไปบางส่วน ตนจังได้ขอให้ผู้เชี่ยวชาญมากู้คืนจนสำเร็จ และได้เห็นว่ามีภาพรถกระบะคันแรกอยู่จริง ทั้งนี้ ตนก็อยากจะเรียกร้องให้กระบะคันดังกล่าวออกมายืนยันความบริสุทธิ์ หากไม่ได้กระทำผิดจริง ตนอยากทราบเหตุการณ์ทั้งหมด
ฟาก บี (นามสมมติ) พลเมืองดีในเหตุการณ์ เล่าว่า วันนั้นตนขับรถสวนขึ้นไป รถคันที่ 2 ซึ่งขับมาอีกทางส่งสัญญาณไฟกะพริบมา เหมือนเขาจะสื่อสารว่ารถคันก่อนหน้าเป็นคนชนน้อง ตนก็ลงไปช่วย CPR ตอนนั้นอาการน้องสาหัสมาก สุดท้ายก็เสียชีวิต สภาพศพดูเหมือนกระดูกหักแทบทุกส่วน ซึ่งถ้ารถล้มเองคงไม่สาหัสขนาดนั้น ตนคาดว่ารถคันแรกที่ขับไปน่าจะเป็นคันที่ชน ซึ่งภาพจากกล้องหน้ารถ ตนได้นำไปให้ตำรวจตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ซึ่งในภาพจะเห็นตัวรถแต่อาจจะไม่เห็นป้ายทะเบียนชัดมากนัก
ด้าน ทนายเจมส์ หรือ นิติธร แก้วโต ทนายความชื่อดัง เผยว่า จากกรณีนี้ ถ้ามีคนตายหรือมีเหตุอาญาเกิดขึ้นคนที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องเป็นพนักงานสอบสวน ต้องพิสูจน์ทราบว่า คนตายคือใคร ตายด้วยสาเหตุอะไร การที่ญาติผู้ตายจะไปแสวงหาหลักฐานเองก็ทำได้ แต่อำนาจโดยตรงอยู่ที่พนักงานสอบสวน ซึ่งการหาหลักฐานที่ถูกต้อง จำเป็นต้องขอเมมโมรี่การ์ดเจ้าของกล้องมา การถ่ายหลักฐานกล้องวงจรปิดจากหน้าจอทีวีใช้ได้บางส่วน แต่ทางที่ดีควรจะต้องขอเซฟใส่เมมโมรี่การ์ดหรือว่าไลท์ใส่แผ่นซีดี เพื่อใช้เป็นหลักฐานในอนาคต ที่น่าสงสัยก็คือ วันนั้น จนท.ยังไม่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ แต่ทำไมถึงแจ้งว่ารถล้มเสียชีวิตเอง อยากถามว่ามีการสอบสวนพยานแล้วรึยัง ประชาชนตาดำๆ ต้องมาเสียใจที่ลูกเสียชีวิตไม่พอ ยังต้องมาวิ่งหาหลักฐานเองอีกเหรอ การที่ญาติสงสัยกระบะคันดังกล่าว มันเป็นสิทธิที่สามารถสงสัยได้ เพราะเขาอยู่ในที่เกิดเหตุ ในวันและเวลาเดียวกันกับผู้เสียชีวิต ณ ตอนนี้ เป็นหน้าที่ของพนง.สอบสวนที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ในกรณีที่เราไม่ไว้ใจ พนง.สอบสวน ก็สามารถร้องไปที่ผู้กำกับ เพื่อขอเปลี่ยนตัวพนง.สอบสวนได้ แต่ถ้าผู้กำกับไม่เปลี่ยนให้ ก็สามารถร้องไปที่จังหวัดได้
ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เปิดเผยว่า จากการดูภาพบาดแผลของผู้เสียชีวิตแล้วว่า จากบาดแผลที่เห็น บริเวณใบหน้า ลำคอด้านซ้าย ลักษณะแบบนี้ ถลอก ช้ำ ไม่ได้เกิดจากการล้มและไถลครูดไป แต่เป็นลักษณะของการโดนประทับ เช่น มีของแข็งไม่มีคมวิ่งมาชนใส่ จนเกิดรอยกประทับให้เห็น แต่จะเกิดจากอะไรนั้น ก็ต้องหาข้อมูลอีกครั้งเป็นส่วนประกอบหลักฐาน
สรุปผลโพล คุณคิดว่า ครอบครัวจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม