ปรากฏการณ์การจับผิดตัวในสังคมไทย หรือ ที่เรียกว่า แพะ ยังคงมีให้เห็นกันบ่อยๆ ล่าสุด ลูกชายของ หนึ่งในคนที่ถูกเรียกว่า แพะ ออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับพ่อ หลังจากพ่อเสียชีวิตไปโดยไร้การเยียวยาช่วยเหลือ
โดยนายกฤษฎี ปรีชา หรือ ซัน ลูกชายของผู้ตกเป็นแพะ ร้องเรียนผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า วันเกิดเหตุในปี 2556 ตนกับพ่อออกไปร่วมงานแต่งงาน ประมาณเวลา 17.00 น. จากนั้นมีคนเดินมาบอกว่าเห็นผู้ตายเสียชีวิตคาดว่าเกิดจากรถล้มช่วงเวลาประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้อะไร พอจบงานแต่งงาน ขณะกำลังจะกลับบ้าน เจอตร.มายืนอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ พ่อก็จอดรถแวะไปคุย ตร.บอกว่ามีคนโดนยิงตาย หลังจากคุยกันเสร็จก็กลับบ้าน ไม่กี่วันผ่านไป ปรากฏว่ามีหมายค้นมาที่บ้าน ถามว่าที่บ้านมีสิ่งผิดกฏหมายไหม ด้วยความที่พ่อมีปืนลูกโม่ .357 ที่บ้าน เพราะพ่อเป็นอาสาตั้งด่าน แต่ปืนของพ่อเป็นปืนเถื่อน ไม่มีทะเบียน พ่อก็ส่งให้ตร.ตรวจ ตร.จึงคุมตัวไปโรงพัก โดนคดีครอบครองปืนไม่มีทะเบียน เสียค่าปรับไป 3,000 บาท หลังจากนั้นไม่นาน ตร.โทรมาเรียกให้พ่อไปโรงพัก สภ.กะปง บอกว่ามีข่าวดีกับข่าวร้ายจะบอก จะฟังข่าวไหนก่อน พ่อเลือกฟังข่าวดี แต่ทางตร.กลับบอกว่าไม่มีหรอกข่าวดี มีแต่ข่าวร้าย จากนั้นก็ยื่นหมายจับให้พ่อ ใส่กุญแจมือ แล้วพาไปสอบสวน คดีฆ่าคนตาย โดยตร.เอาปืนลูกโม่ของพ่อมาให้ดู แล้วบอกว่าเป็นอาวุธปืนที่ใช้ยิงคนมาหลายคนแล้ว ก่อนจะคุมตัวไปฝากขังที่ศาล 14 วัน ระหว่างนั้น ตนก็ดำเนินเรื่องเพื่อขอประกันตัวพ่อออกมา โดยเอาที่ดินไปจำนองกับ ธ.ก.ส. แม่ต้องขายทอง เอาเงินมาจ้างทนาย และพยายามช่วยพ่อออกจากเรือนจำ สุดท้ายประกันตัวออกมาสู้คดีประมาณ 1 ปี ระหว่างนั้นก็ต้องหาเงินมาเพื่อสู้คดีตลอด ตนยืนยันได้ว่าพ่อไม่ได้ทำแน่นอน เพราะตนอยู่กับพ่อตลอดเวลาในวันนั้น
สำหรับข้อพิรุธที่ตนสงสัย คือในวันที่เกิดเหตุ ตนและพ่อออกจากบ้านประมาณ 17.00 น.กว่าๆ ออกไปทางซอยข้าง รร. และไปอยู่ที่งานแต่งงานจนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. จากนั้นคนแถวบ้านถึงมาบอกว่ามีคนรถล้มอยู่แถวบ้านนะ เห็นไหม ตนก็บอกไม่เห็น ขากลับก็กลับเส้นทางเดิม ปรากฏเจอ ตร.ยืนอยู่บอกว่ามีศพผู้เสียชีวิตอยู่เยื้องๆกับบ้านตน แต่ตอนนั้นศพถูกเคลื่อนออกไปแล้ว เหลือเพียงที่กั้นที่เกิดเหตุไว้ ตร.บอกว่าเจอปลอกกระสุน .38 อยู่ในพงหญ้าห่างจากที่เกิดเหตุ 600 เมตร ทั้งที่ปืนของพ่อคือปืนลูกโม่ จะไม่มีปลอกกระสุนตกแน่นอน พ่อตนคงโง่มากถ้ายิงแล้วทิ้งปลอกกระสุนไว้ในบริเวณที่เกิดเหตุ ตนเลยสงสัยว่าเป็นการเจตนาเจาะจงเพื่อเอาผิดพ่อให้ได้ อีกทั้งตอนที่ ตร.ยึดปืนพ่อไป ลูกกระสุนปืนยังอยู่ครบในลูกโม่ทั้ง 6 ลูก นอกจากนี้คนที่บ้านอยู่แถวนั้นบอกว่าเห็นมือปืนยิงเข้ามาทางด้านหลังของผู้เสียชีวิต เขาเป็นพยานปากเอกเลย แต่เขาไม่กล้าพูดออกสื่อเพราะเขากลัวโดนปิดปาก ตนช้ำใจมากจนติดสติ๊กเกอร์คำว่า แพะ สภ.กะพง ที่รถยนต์ จากนั้นไม่นาน ตร.ก็มาบอกว่าให้เอาออกได้ไหม มันทำให้ภาพลักษณ์ของ ตร.ไม่ดี ตนก็คิดว่าแล้วที่ ตร.ทำกับพ่อเรามันดีแล้วเหรอ
และจากการชันสูตรพลิกศพ พบว่าที่ศพมีรูกระสุน 4 รู แต่พยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าได้ยินเสียงปืนยิงแค่นัดเดียว แล้วมือปืนก็ออกไปเลย นอกจากนี้ตอนที่ ตร.ไปค้นบ้านตน ก็ไม่มีตร.พิสูจน์หลักฐานไปเลย มีแต่ตร.ชุดจับกุม พ่อตนบริสุทธิ์ใจก็เปิดลิ้นชักหยิบปืนให้ดูเลย ไม่มีการตรวจคราบเขม่าดินปืนแต่อย่างใดด้วย หลังจากนั้นก็มีการสู้คดีจนศาลพิพากษาว่าหัวกระสุนที่อยู่ในตัวผู้ตายกับปลอกกระสุนที่เจอในที่เกิดเหตุมันไม่ใช่ขนาดเดียวกัน สุดท้ายศาลก็ยกฟ้อง จากนั้นพ่อก็ถูกปล่อยตัวออกมา ตนก็ไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ยุติธรรมจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอการเยียวยา เขาบอกว่าต้องรอ เดือนนั้นเดือนนี้จะได้ ตนก็รอตามที่เขาบอก แต่สุดท้ายเขาบอกว่าไม่ได้ เพราะศาลเขายกความยุติธรรมให้แล้ว ตนอยากได้เงินเยียวยา และอยากให้ตร.ที่ทำคดีออกมารับผิดชอบบ้าง อยากได้ความยุติธรรมกลับคืนมาให้พ่อ ตนกับพ่อเดินเรื่องขอรับเงินเยียวยาตั้งแต่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ผ่านมา 8 ปี จนพ่อเสียชีวิต ก็ยังไม่ได้รับคำตอบรับใดๆ พ่อตนเสียชีวิตจากการโดนยิง โดยพ่อโดนลอบยิงถึง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ในปี 2561 พ่อได้รับบาดเจ็บ และอีกครั้งในปี 2562 พ่อเสียชีวิต ซึ่งตนคิดว่าการที่พ่อโดนยิงน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่ตกเป็นแพะ และตอนนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ด้าน ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยถึงกรณีนี้ว่า หากผู้ที่ได้รับความเสียหายตกเป็นแพะนับตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษาถึงที่สุด เราสามารถยื่นเรื่องขอเงินเยียวยาภายในระยะเวลา 1 ปี และที่ดูจากคำพิพากษาในคดีนี้ ศาลไม่ได้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 ฉะนั้นกรณีนี้เข้าข่ายได้รับเงินเยียวยา แต่หากในคำพิพากษามีการระบุว่า ศาลได้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ในกรณีแบบนี้จะไม่สามารถเรียกร้องการเยียวยาได้
ทั้งนี้ ทนายสงกาญ์ ตั้งข้อสงสัยถึงปืนที่ทางตร.ได้ยึดไปด้วยว่า ตอนนี้ปืนหายไปไหน เนื่องจากในคำที่ศาลพิพากษาไม่เห็นเรื่องของปืน คำพิพากษาต้องสั่งให้ริบเข้าหลวง แต่นี่ปืนหายไป และตัวของผู้เสียหายก็ไม่ได้ปืนคืนด้วย
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงเคสนี้ว่า เบื้องต้นได้เห็นข้อมูลเกี่ยวกับคำพิพากษาแล้ว ตามหลักเกณฑ์ต้องยื่นขอเยียวยาภายในหนึ่งปี ไม่อย่างนั้นจะโดนตัดสิทธิ์ ซึ่งตรงนี้ขอตรวจสอบก่อน ส่วนเรื่องคำพิพากษา ไม่ได้พูดถึงเรื่อง ปวอ.มาตรา 227 ฉะนั้น จำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ปราศจากความผิด สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อเจ้าหน้าที่ได้ หลังจากนี้จะไปตรวจสอบเรื่องการยื่นเอกสาร หากยื่นแล้ว จะต้องได้รับการเยียวยาอย่างน้อยวันละ 200 บาท และค่าขาดประโยชน์ กรณีนี้หากตรวจสอบแล้วมีการยื่นเรื่องจริง ส่วนคณะกรรมการจะพิจารณาอย่างไร จากที่ฟังมาคร่าวๆ คือ เขาไม่พิจารณาให้ ก็อาจจะสามารถอุทธรณ์ได้อีกครั้ง เพราะไม่เข้าข่าย 227 ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแน่นอน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม