วันที่ 6 ธ.ค.64 พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความกดอากาศสูงจากจีนคลุมไทย ทำให้สภาพอากาศนิ่ง ลมสงบ และชั้นบรรยากาศผกผันคล้ายฝาชีครอบ ส่งผลให้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากหมอกควันข้ามแดน ไฟไหม้ป่าพรุ โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดหลักจากการจราจร รถยนต์ดีเซล การเผาในที่โล่งและโรงงานอุตสาหกรรม มีการสะสมมากขึ้นและมีแนวโน้มสูงขึ้นในจังหวัดต่างๆ ซึ่งบางพื้นที่เกินค่ามาตรฐาน และมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว
โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ขับเคลื่อนแผนรับมือป้องกันและแก้ปัญหา PM 2.5 ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่จัดทำขึ้นทันที โดยย้ำให้ถอดบทเรียนที่ผ่านมา รับมือกับทั้งปัญหาฝุ่นพิษ ไฟป่าและหมอกควัน และร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ระดับพื้นที่ ให้ความสำคัญครอบคลุมทั้ง การสื่อสาร การป้องกันและการเผชิญเหตุไปพร้อมๆ กัน โดยต้องเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดประสิทธิภาพที่ต้นทาง และการบริหารจัดการมลพิษ และให้เฝ้าระวังให้การช่วยเหลือดูแลกลุ่มเสี่ยงโดยใกล้ชิด
รองนายกรัฐมนตรี ยังย้ำให้ประสานและต้องได้รับความร่วมมือกับหลายส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเพิ่มความเข้มงวด คุมเข้มแหล่งกำเนิดที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดมาตรการ และขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ประชาชน รวมทั้งสร้างเครือข่ายจิตอาสาให้มีส่วนร่วม และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มเป้าหมายไปพร้อมๆ กัน ที่จะไม่ทำให้เกิดวิกฤตค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในส่วนของกระทรวงต่างประเทศ ให้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ลดปัญหาไฟป่าหมอกควันข้ามแดนในช่วงวิกฤตอากาศดังกล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม