logo ถกไม่เถียง

ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางยาในกับข้าว ป่วยหลอนรุนแรง เชื่อหวังฮุบสมบัติ!

ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้ ขอเข้ามาอยู่ในครอบครัว อาสาทำกับข้าวให้กิน ก่อนลอบผสมสารเสพติดในอาหารจนเกิดอาการหลอน บังคับให้ทำธุรก ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,ครอบครัว,พี่ชาย,น้องสะใภ้,วางยา,ฮุบสมบัติ,กับข้าว,ป่วยรุนแรง,ปัญหาครอบครัว,ขบวนการ,พ่อแม่แฟน,พ่อแม่สามี,ฮุบมรดก,มิจฉาชีพ,แม่ทิพย์,ขบวนการแม่ทิพย์,ทนายแก้ว,สารเสพติด,อาการหลอน,ธุรกรรมทางการเงิน,ประกันชีวิต,อาหาร,กับข้าว,ยาบ้า

1,750 ครั้ง
|
07 ธ.ค. 2564

       ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้ ขอเข้ามาอยู่ในครอบครัว อาสาทำกับข้าวให้กิน ก่อนลอบผสมสารเสพติดในอาหารจนเกิดอาการหลอน บังคับให้ทำธุรกรรมทางการเงิน ทำประกันชีวิต เชื่อหวังฮุบสมบัติ

ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางย

       วันที่ 7 ธ.ค.64  นายพงษ์ศา เทพพิชัย พี่ชายคนโต ได้ร้องเรียนผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า นายอริยะ หรือ เบส น้องชายของตน รู้จักกับ แป้ง ผ่านทางเฟซบุ๊ก และมีการพูดคุยสร้างความสนิทสนมจนถึงขั้นคบหากันเป็นแฟน ต่อมา แป้ง อ้างว่าครอบครัวเดือดร้อน จึงขอมาอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านที่ จากนั้น แป้ง พร้อมด้วย นางน้อย หญิงที่อ้างว่าเป็นแม่ ได้ขนย้ายข้าวของมาอยู่ที่บ้านในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ตนก็เริ่มผิดสังเกตที่เขาขนย้ายข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ต่างๆมากมาย ขนมา 1 รถสิบล้อ แล้วยังเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการจัดของ แบ่งห้อง กั้นบ้าน เสร็จสรรพ ตอนนั้นแม่ตนโมโหมากแต่ทำอะไรไม่ได้ หลังจากที่แป้งกับน้อยเข้ามาอยู่ในบ้านก็เข้ามาแย่งหน้าที่ทำกับข้าวที่ปกติพ่อจะเป็นคนทำ แต่ผิดปกติตรงที่ทั้งคู่ไม่ยอมกินอาหารจานเดียวกับที่พวกตนกิน โดยทั้งคู่จะทำกินแยกส่วน และกินก่อนที่พวกตนจะกินหรือบางครั้งก็กินเฉพาะมาม่า และอาหารที่ออกไปซื้อมาจากข้างนอก ผ่านไปประมาณ 1 เดือน ร.ต.อ.สุชีพ ผู้เป็นพ่อ และนางวรรณี ผู้เป็นแม่ของตนก็มีอาการผิดปกติ หวาดระแวง เซื่องซึม ชอบเก็บตัว พูดเยอะมาก นอนไม่หลับ โทรหาตนทั้งคืน เหมือนคนมีอาการดีด โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย ญาติต้องมารับตัวไปดูแลอย่างใกล้ชิดที่ จ.กระบี่ ในระหว่างรอตนเดินทางลงมาจากกรุงเทพฯ
 
          ช่วงนั้น แป้งกับน้อย เสนอตัวมาช่วยเรื่องเงินกับ พ่อแม่ตน บอกว่าจะมีคนมาซื้อบ้าน พยายามหลอกล่อให้ทั้งพ่อและแม่ ทำธุรกรรมทางการเงิน ทำประกันชีวิต มีการบอกให้พ่อและแม่โอนทรัพย์สินให้น้องชายบางส่วน และร้องขอให้น้องชายของตนแต่งงานและจดทะเบียนด้วย หลังจากนั้นพ่อได้ไปบริจาคเลือด ซึ่งปกติจะบริจาคเป็นประจำ แต่ล่าสุดสภากาชาดไทย ได้ติดต่อกลับมา ห้ามไม่ให้พ่อไปบริจาคอีก แต่ไม่ได้แจ้งเหตุผลมาว่าเพราะอะไร หลังจากนั้นตนได้มีการพาพ่อและแม่ไปหาหมอที่ รพ.พัทลุง แพทย์ทักว่าพ่อมีการใช้สารเสพติดอะไรมารึเปล่า และมีการส่งตัวไปตรวจจิตเวช ตนก็เลยรีบพาพ่อและแม่ไปรักษา จนอาการเริ่มดีขึ้น
 
ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางย
 
         โดย อิง (นามสมมติ) ญาติของผู้ที่โดนวางยา เล่าต่อว่า เมื่อตนทราบเรื่องจึงมีการไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ควนขนุน ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ บอกว่าเป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ประกอบกับที่มีเรื่องการเสพยาในบ้าน จึงต้องไปแจ้งความซ้ำอีกทั้งหมดถึง 6 ครั้ง จนครั้งที่ 7 ต้องไปร้องเรียนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขาถึงรับแจ้งความ
 
          นายพงษ์ศา จึงเริ่มตรวจสอบประวัติของ แป้ง แฟนของน้องชาย และ น้อย ผู้ที่อ้างว่าเป็นแม่ พบว่าสาวคนนี้ได้เปลี่ยนชื่อมาหลายรอบ นอกจากนี้ยังสืบจนเจอว่าน้อย รู้จักกับหมอผี ซึ่งหมอผีคนนี้ เคยโทรมาหาพ่อ อ้างว่าพ่อโดนของ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้เชื่อไปทางนั้น ตนจึงได้ประสานตำรวจ สภ.ควนขนุน ขอให้ทำเรื่องถึง รพ.ศิริราช เพื่อส่งอาหารในบ้านไปตรวจ พร้อมร้องขอให้ทาง รพ.ศิริราช ตรวจเส้นผมของพ่อและแม่ ซึ่งผลการตรวจออกมาปรากฏ "พบสารเมตแอมเฟตามีน" ในเส้นผมของทั้ง 2 คน จึงพยายามพูดคุยกับพ่อแม่ ถึงความผิดปกติ และเชื่อว่ามีคนวางยา เอาสารเสพติดผสมให้อาหารให้พ่อแม่ของตนกิน และขณะที่ตนนำ แป้งไปส่ง รพ.พัทลุง เพื่อทำการตรวจรักษาว่าป่วยจิตเวช ตามที่น้อยอ้างหรือไม่ ปรากฏว่า ตัวน้อยก็ได้หนีออกจากบ้านไป ส่วนตัวแป้งตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ระหว่างนั้น พนง.สอบสวนก็ทำหนังสือมาที่ รพ.เพื่อสอบถามอาการของแป้ง ตนเองก็ติดตามมาตลอด รอแค่ตำรวจเข้ามาสอบสวน พอครบ 1 เดือน ทางรพ.ก็ต้องปล่อยตัวแป้งไป เพราะตำรวจบอกว่าไม่สามารถอายัดตัวไว้ได้ ล่าสุด ทั้งคู่ก็ยังหลบหนีลอยนวล
 
ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางย
 
          ด้าน ร.ต.อ.สุชีพ และนางวรรณี สามีภรรยา ผู้ตกเป็นเหยื่อ เล่าว่า หลังแม่ลูกคู่นี้เข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งคู่จะอาสาเป็นคนทำกับข้าวให้คนในครอบครัวกิน แต่ผิดปกติตรงที่ทั้งคู่ไม่ยอมกินอาหารจานเดียวกับที่พวกตนกินเลย ทั้งยังเคยเห็นเขาใส่อะไรบางอย่างลงในกับข้าว คล้ายรสดี แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จนกระทั่งพวกตนเกิดอาการผิดปกติ มีอาการมึนๆ หลอนๆ เหมือนคนเป็นโรคประสาท หูแว่ว ครอบครัวเริ่มมีปัญหา มีความระแวง อาการหนักถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย ทำให้เชื่อว่าทั้งคู่ต้องทำอะไรกับพวกตนอย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็มีการพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งในรถเบนซ์ของทั้งคู่ หลังที่ความแตก ปรากฏว่าเขาได้หนีออกจากบ้านไปพร้อมเอกสารสำคัญของตน เช่น บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา 
 
           ฟาก นายอริยะ หรือ เบส แฟนผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนเองก็ร่วมกินอาหารกับพ่อแม่ด้วย ทำให้มีอาการโดยรวมเหมือนกัน เคยถามเขาว่าทำไมทำแบบนี้ แต่เขาก็ทำมึน ไม่ตอบเรื่องนี้ เขาเคยพูดถึงเรื่องแต่งงาน ให้ตนจดทะเบียนสมรสกับเขา แต่ตนไม่เอาด้วย ยอมรับว่าที่ผ่านมาก็รักเขา แต่ตอนนี้คงไม่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อแป้งได้แล้ว อยากฝากบอกเขาว่าให้มาชดใช้รับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตน
 
ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางย
 
          ทั้งนี้ พ.ต.อ.สการียา ยูโซ๊ะ ผกก.สภ.ควนขนุน เผยถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ในส่วนการสอบสวนเบื้องต้น ยังไม่มีการแจ้งข้อหาอะไร แต่ได้มีการส่งเส้นผมไปตรวจที่ รพ.ศิริราช ซึ่งได้ผลการตรวจมาแล้ว รอผลการสอบปากคำจากแพทย์ที่ตรวจเพื่อมาประกอบสำนวน ซึ่งมันจะมีความสำคัญในข้อกฎหมาย จากนั้น พนง.สอบสวนจะแจ้งข้อหากับผู้ต้องหา หากแพทย์ยืนยันว่า อาหารที่ผู้เสียหายรับประทานเข้าไป มันมีผลต่อชีวิต ก็จะมีการแจ้งข้อหาพยายามฆ่า แต่ถ้าไม่ได้มีผลมาก ก็จะแจ้งข้อหา พ.ร.บ.อาหาร อาหารไม่บริสุทธิ์ โดยตนจะเร่งรัด พนง.สอบสวนให้เร่งดำเนินการต่อไป
 
ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางย
 
         ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความรู้ทางข้อกฎหมายในเรื่องนี้ว่า การให้ยาเสพติดผสมในอาหาร กรณีนี้อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ดูแล้วพฤติกรรมก็ค่อนข้างโหดร้าย ค่อยๆ เติม ค่อยๆ ใส่ยาลงไป ในข้อกฎหมายมันมีเรื่องข้อหาพยายามปลอมปนสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ข้อหาพยายามฆ่า และผมว่าเข้าข่ายทารุณโหดร้าย ซึ่งข้อหานี้โทษอาจถึงขึ้นประหารชีวิตได้เลย ส่วนการที่ผู้ก่อเหตุ อ้างว่าตนเองเป็นคนบ้าขณะกระทำผิด กฎหมายไม่รับฟัง เพราะในสมัยนี้คนชอบอ้างว่าตัวเองไม่มีสติ ผมมองว่าน้อยกับแป้งสร้างสถานการณ์ขึ้นมา
 
ถกไม่เถียง : ครอบครัวร้อง พ่อแม่ถูกน้องสะใภ้วางย
 
สรุปผลโพล คุณคิดว่า หญิงสาวรายนี้ จะได้รับโทษหรือไม่? 
 
ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/k8MvD_anNus