ปัจจุบัน การหลอกลวงและการฉ้อโกงจากมิจฉาชีพมีมาให้เห็นสารพัดรูปแบบ ทั้ง หลอกเอาเงิน , หลอกเอาข้อมูล และ หลอกเอาทรัพย์สิน ล่าสุด รายการถกไม่เถียง ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ว่าถูกผัวเมียสุดแสบ หลอกซื้อดาวน์รถ อ้างจะนำไปผ่อนต่อ สุดท้ายกลับเบี้ยว รถหาย ก่อนพบถูกแยกชิ้นส่วนขาย สงสัยทำเป็นขบวนการ
ล่าสุด นายสมพร ปิ่นสกุล และ สุวรรณา ผาดจันทร ผู้เสียหาย ได้ร้องเรียนผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ตนเองมีรถพ่วงซื้อมือสองมาจาก จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่ปี 62 ตอนนั้นซื้อมา 2.6 ล้าน ผ่อนเดือนละ 6 หมื่น เอามาวิ่งงาน แต่ต่อมาเจอวิกฤตโควิด ก็เริ่มแย่ผ่อนต่อไม่ไหว ตอนแรกจะคืนไฟแนนซ์ แต่เต็นท์รถบอกมีคนติดต่อจะซื้อรถ เขาบอกว่าจะเอาไปเปลี่ยนสัญญาให้ แต่เจ้าของเต็นท์เอารถไปให้ลูกค้าใหม่โดยไม่ได้เปลี่ยนสัญญา เขาโพสต์ด้วยว่าขายรถได้แล้ว เต็นท์รับเงินดาวน์มา 2 แสนบาท แต่ 2 แสนนั้นไม่ได้ตกมาถึงเรา แต่เราก็ไม่ได้คุยกับเจ๊เจ้าของเต็นท์ เพราะเป็นหนี้เขาอยู่ เราต้องไปกู้เงินมาซ่อมรถ ตอนซื้อรถมาเราไม่รู้สภาพว่ามันไม่ดี เสียค่าซ่อมไปประมาณแสนกว่า แล้วอีกคันที่จอดอยู่ก็เป็นหมื่นกว่า ตอนนี้ไม่ได้เปลี่ยนสัญญา ไฟแนนซ์ก็มาตามแล้ว เราก็ท้อไม่มีเงินจะให้ ต้องมาผ่อนลมแบบนี้ บัตรที่ส่งค่างวดรถ เจ๊เจ้าของเต็นท์รถก็เอาไปแล้ว เขาไม่ออกมารับผิดชอบเลย จากทีแรกที่เขาจะมาช่วยปลดภาระ แต่แม้แต่เงินที่ลูกค้าดาวน์มาเราก็ไม่ได้รับ
แล้วเมื่อวันที่ 21 ต.ค. อยู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่โทรมาตามว่า เราได้จ่ายค่างวด GPS หรือเปล่า เราก็เริ่มสงสัย เจ๊เจ้าของเต็นท์ก็โทรมาถามว่ารถอยู่ไหน เราก็ไปเช็คพบว่าวันที่เขาเอารถไป เขาก็ตัด GPS ทิ้งเลย หลังจากนั้นจบเลย รถไปไหนไม่รู้ สุดท้ายเราต้องมาเสียเวลาไปตามหารถเป็นเดือนๆ เราไปตามหาตามเชียงกง ที่เขาขายรถเก่า ไปเดินดูตามแหล่งที่เขาขายรถมือสองด้วย เราไปเจอชิ้นส่วนรถส่วนหนึ่งโพสต์ขายอยู่ที่ จ.สุโขทัย มันมีตำหนิอยู่ด้านซ้ายจากบนลงล่าง และเจอภาพรถตัวเองประกาศขายอีกที่หนึ่ง เราก็ไปแจ้งความ แต่ ตร.ก็ยังไม่ออกหมายจับซะที โทรไปขอความคืบหน้า ตร.ก็บอกว่ากำลังดำเนินการ จนจะมาออกรายการ ถกไม่เถียง ตร.เพิ่งออกหมายจับก่อนที่จะเข้ารายการนี่เอง ตอนนี้เครียดมาก เพราะต้องเป็นหนี้ 2 ล้านกว่า ไม่รวมดอกเบี้ย ทุกวันนี้เราขาดรายได้ เราอยากให้จับเขาให้ได้ เพราะคนอื่นเขาเดือดร้อน คนค้ำประกันให้เราก็เดือดร้อน ถ้าเราติดคุกขึ้นมาเราไม่มีเงินใช้หนี้ ในเมื่อมันไม่มีทางออก ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเป็นหนี้ขนาดนี้เลย หนี้ที่เราไม่ได้ก่อ
ฟาก นายอำนาจ สถิตย์พงษ์ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเสียหายกว่า 6.1 ล้านบาท โดนหลอกซื้อรถพ่วงเหมือนกัน โดยช่วงนั้น ตนเองผ่อนรถต่อไม่ไหว เพราะมีโควิด งานน้อยลง ก็เลยโพสต์ขายรถไปในกลุ่มเฟซบุ๊ค ขายดาวน์เปลี่ยนสัญญา วันหนึ่งมีนายหน้าโทรมาบอกว่ามีคนสนใจ แต่เขาขอรถไปก่อน 2-3 เดือน ค่อยผ่อนต่อ เราก็ถามว่ามันชัวร์ไหม เขาบอกว่าชัวร์เพราะเขาจดทะเบียนบริษัทเป็น หจก. ด้วย เราก็รู้จักเขาบ้างแต่ไม่ถึงกับสนิท ก็นอนคิด 1 คืน ว่ามันชัวร์รึเปล่า สุดท้ายตัดสินใจขายไป คนที่มาเอารถคือ 2 คนผัวเมียคนที่ซื้อรถจากคุณสมพรไปเหมือนกัน วันนั้นมี 4 คน มาเอารถ เราได้แค่ 4.5 แสนบาท มีการทำสัญญาว่าระหว่างที่ยังไม่เปลี่ยนสัญญาเราสามารถเช็ค GPS ตามรถได้ แต่ผ่านไปแค่ 10 กิโลเมตร เขาดึง GPS ออก วันแรกเรายังไม่รู้ มารู้เอาวันที่ 2 ว่าโดนดึงออก เราก็ถามเขา เขาบอกว่าช่างน่าจะตัดสัญญาณออก เราก็ถามว่าจะติดเมื่อไหร่ เขาว่าจะติดภายใน 2-3 วัน แต่ก็ไม่ได้ติด และสุดท้ายเขาก็ไม่ผ่อนค่างวด หลายคนบอกว่า โง่จัง ยังไม่ได้เปลี่ยนสัญญาจะให้รถเขาไปทำไม ตอนนั้นเราเดือดร้อน มีคนมาปลดภาระไปเราก็ต้องคว้าไว้ ตอนหลังไฟแนนซ์ก็มาตามค่างวด จนเราทนไม่ไหวก็โพสต์ว่าใครเจอ 2 ผัวเมีย คนนี้จับได้เรามีรางวัลให้ เขาก็ติดต่อมาว่าเรา ขู่ว่าจะแจ้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เราก็ไม่รู้ว่าเขาแจ้งรึเปล่า แต่ตอนนี้ติดต่อเขาไม่ได้แล้ว มารู้ตอนหลังว่ามีผู้เสียหายเยอะมาก เคยไปเจอเขาทั้งคู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอยุธยา เขาใช้รถเช่า เพราะไม่มีรถส่วนตัว ตอนนั้นโทรหา 191 แล้ว แต่ไม่มีหมายจับก็ทำอะไรไม่ได้
ขณะที่ เจ๊ ส.(นามสมมติ) เจ้าของเต็นท์รถ เผยว่า เบื้องต้น ตนเองได้ไปแจ้งความร่วมกับคุณสมพรไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักคนที่มาซื้อมาก่อน ตอนแรกลูกค้าตกลงว่ารับรถไปแล้ว ไม่เกิน 3 วัน จะรวบรวมเอกสารให้บริษัทไปเปลี่ยนสัญญาที่บ้าน เขารับปากไว้แบบนี้ หลังจากนั้น 3 วัน เราได้โทรกลับไปหาเขา เราไปประสานกับไฟแนนซ์เพื่อเปลี่ยนสัญญา แต่ทางภรรยาเขาบอกว่าเขาติดโควิด ไม่สามารถที่จะเตรียมเอกสารได้เนื่องจากต้องรักษาตัวในรพ. เราก็โทรตามตลอด หลังจากออกจากรพ.เขาก็บอกว่าเขาต้องไปอยู่โรงพยาบาลสนามอีก 14 วัน จนถึงวันที่ต้องจ่ายค่างวดครั้งที่หนึ่ง และสองเขาก็บ่ายเบี่ยง จนครั้งที่สามก็เขาไม่จ่าย เราต้องจ่ายค่างวดแทนเขาด้วย ส่วนเงินดาวน์ 2 แสน เราเก็บไว้ให้เปลี่ยนสัญญา ถ้ามีการเปลี่ยนสัญญา 3 เดือนยอดจะอยู่ที่ประมาณ 2 แสนลูกค้าจะต้องจ่ายในวันที่เปลี่ยนสัญญา แต่เราต้องเอามาจ่ายค่างวดแทนก่อนตอนนี้ ตั้งแต่วันนั้นจนป่านนี้เราไม่เคยนิ่งนอนใจ เราตามเรื่องที่โรงพักกับร้อยเวรตามตลอดเวลา ก็เป็นทุกข์เหมือนกัน คุณสมพรเป็นทุกข์ขนาดไหนเราก็ทุกข์ขนาดนั้น ตั้งแต่ที่ไปให้การลงบันทึกประจำวันเราก็ไปกับคุณสมพรทุกครั้ง
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม