WHO ชื่นชมระบบสาธารณสุขไทย อนุทิน โวเพราะมีระบบ 3 หมอ ช่วยดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึง
logo ข่าวอัพเดท

WHO ชื่นชมระบบสาธารณสุขไทย อนุทิน โวเพราะมีระบบ 3 หมอ ช่วยดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึง

ข่าวอัพเดท : ไตรศุลี เผย ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ชื่นชมระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า และระบบสุขภาพปฐมภูมิของไทย อนุทิน เผยไทยสนใจร่วมบริจาควัคซีนแก่แอฟริก อนุทิน,ระบบสาธารณสุข,3หมอ,ระบบ,who,องค์การอนามัยโลก,ผู้ป่วย,ดูแล,ทั่วถึง,บริจาค,วัคซีน

487 ครั้ง
|
02 ธ.ค. 2564
      ไตรศุลี เผย ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ชื่นชมระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า และระบบสุขภาพปฐมภูมิของไทย อนุทิน เผยไทยสนใจร่วมบริจาควัคซีนแก่แอฟริกา ผ่านโครงการ AVAT
 
         วันที่ 1 ธ.ค.64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 เวลา 18.00 น . ตามเวลาท้องถิ่น นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส หลังการเข้าร่วมประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยพิเศษ ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) นครเจนีวา เป็นวันที่ 2 โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข ได้พบหารือทวิภาคีกับนาย Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ในประเด็นที่ให้ประเทศไทยเข้าร่วม BioHub System ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบสากลในการแบ่งปันเชื้อไวรัส สำหรับการพัฒนามาตรการป้องกันการระบาดของโรคต่างๆ ที่รวดเร็ว มีการตอบสนองทางการแพทย์อย่างทันท่วงที 
 
          นอกจากนี้ การหารือยังรวมถึงการที่ไทยจะเข้าร่วมโครงการนำร่องการทบทวนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและความมั่นคงทางสุขภาพด้านการเตรียมความพร้อมและการตอบสนอง (Universal Health Preparedness and Response, UHPR) เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข 
 
        “ในการหารือผู้อำนวยการใหญ่ WHO ได้ชื่นชมที่ประเทศไทยมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบสุขภาพปฐมภูมิ หรือ Primary Health Care ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข ได้ใช้โอกาสนี้ในการแชร์ประสบการณ์ด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ว่าการมีระบบสุขภาพ 3 หมอ ตั้งแต่ อสม. พยาบาลวิชาชีพประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ก่อนจะส่งต่อผู้ป่วยมายังโรงพยาบาล ได้ช่วยให้ไทยสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึง และเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว 
 
        รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการหารือนายอนุทิน ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบไขว้ในประเทศไทย ซึ่งช่วยลดระยะเวลาและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้เป็นอย่างดี พร้อมกับแจ้งให้ทาง WHO ทราบถึงนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงกลาโหม ว่าเนื่องจากขณะนี้ไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวนที่เพียงพอ และมีหลายแพลตฟอร์มและยังอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนภายในประเทศเอง ก็มีความสนในที่จะบริจาคให้กับประเทศที่ยังเข้าถึงวัคซีนน้อย เพราะก่อนหน้านี้ที่ประเทศไทยมีการระบาดหนัก และวัคซีนมีจำกัดนั้นก็ได้รับการช่วยเหลือ ได้รับบริจาคจากหลายประเทศ จนผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาได้ 
 
        ทั้งนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ได้เสนอว่าหากไทยมีความสนใจในการแบ่งปันวัคซีนแก่ประเทศที่ยังเข้าถึงวัคซีนน้อย อาจจะเลือกเข้าร่วมโครงการ African Vaccine Association Trust หรือ AVAT ซึ่งเป็นโครงการบริจาควัคซีนต่อจาก COVAX แต่เป็นการบริจาคให้กับประเทศในทวีปแอฟริกาโดยตรง 
 
        “รองนายกรัฐมนตรีแสดงความสนใจ ที่ประเทศไทยจะให้ความช่วยเหลือแบ่งปันวัคซีนแก่ประเทศในแอฟริกา ที่ขณะนี้เผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และขณะนี้ประชาชนยังเข้าถึงวัคซีนน้อย ซึ่งได้แจ้งกับ WHO ว่านำประเด็นนี้กลับมาหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ และแจ้งแนวทางร่วมโครงการของประเทศไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว 
 
         น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในตอนท้ายการหารือ รองนายกรัฐมนตรีได้ร่วมแสดงความยินดีกับโอกาสที่ นาย Tedros Adhanom Ghebreyesus จะได้รับการรับรองจากประเทศสมาชิก ให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่ WHO อีกสมัย เนื่องจากการเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า สมาชิกจากกว่า 20 ประเทศ ได้เสนอชื่อผู้อำนวยการใหญ่ WHO คนปัจจุบันเพียงรายเดียว จึงรอเพียงการประชุมเพื่อรับรองเท่านั้น