ครอบครัวคาใจ ลูกประสบอุบัติเหตุไร้แผล ถูกตร.ใส่กุญแจมือคุมไปโรงพัก ยึดโทรศัพท์ติดต่อใครไม่ได้ สุดท้ายตายปริศนา เลือดออกปาก-จมูก แพทย์ระบุสมองกระทบกระเทือนอย่างหนัก
วันที่ 1 ธ.ค.64 ครอบครัวของ นายธนวัชร์ กลัดเสนาะ ผู้เสียชีวิต ได้ร้องเรียนผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวคาใจ หลังลูกชายเสียชีวิต ว่า มีคนโทรมาแจ้งมาว่าน้องเสียชีวิต หมอปั๊มหัวใจไปแล้ว 4 ครั้ง น้องพยายามหายใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว ตอนนั้นยังสงสัยว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร เขาเล่าว่าน้องประสบอุบัติเหตุรถชน โดยน้องเป็นคนไปชนเขา แม่ฝั่งคู่กรณีก็มาร้องห่มร้องไห้ขอโทษ เราก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ เราเลยให้ตำรวจบอกกับเราตรงๆ เขาบอกว่ามีรถชน แล้วจากนั้นก็พาน้องไปตรวจแอลกอฮอล์ที่โรงพัก เราก็ถามว่าพาคู่กรณีไปด้วยไหม ปรากฎว่าคู่กรณีได้ไปโรงพยาบาล เราเลยสงสัยว่าแล้วทำไมไม่ส่งน้องไปโรงพยาบาล เขาบอกว่าไม่มีเอกสารของน้อง ซึ่งมันก็มีหลายวิธีที่จะพิสูจน์ได้ว่าคนนี้คือใคร ลายนิ้วมือ หรือทะเบียนรถก็ได้ ถ้าคุณไม่มืออาชีพขนาดนั้นอย่ามารับใช้ประชาชนเลย
จนเรามาเห็นจากกล้องวงจรปิด เห็นว่าคู่กรณีขี่จยย.ข้ามยูเทิร์นมาตัดหน้ารถน้อง ซึ่งมาในทางตรง จนเกิดการเฉี่ยวชนกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เดินทางมาช่วยเหลือพาคู่กรณีส่งโรงพยาบาล ตอนเกิดอุบัติเหตุน้องสลบไปชั่วครู่ก่อนจะฟื้นมา แต่น้องไม่มีบาดแผลจึงไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แล้วตำรวจบอกว่าเขาดูไม่เป็นอะไร ดูเบลอๆ เหมือนคนเมา พยานบอกว่าเขานั่งนิ่งๆ อยู่ประมาณ 40 นาที ไม่พูดอะไร คือตอนนั้นเขาพูดอะไรไม่ได้แล้ว ก่อนที่ตำรวจจะจับเขาใส่กุญแจมือไพล่หลังไปโรงพัก ภาพที่เห็นจากในคลิปทำให้รู้สึกสะเทือนใจมาก น้องไม่ใช่นักโทษ ไม่มีประวัติอาชญากร ทำไมต้องจับใส่กุญแจมือขนาดนั้น คนประสบอุบัติเหตุเป็นอาชญากรเหรอ เราพยายามติดต่อเขาไป ทั้งโทร ทั้งแชตไลน์ แต่ไม่มีใครรับสาย ไม่มีใครตอบ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน สุดท้ายมารู้ว่าทรัพย์สิน เอกสารทั้งหมด โทรศัพท์มือถือ โดนยึดไว้ ทำให้เขาติดต่อญาติไม่ได้เลย
พอตรวจสอบแอลกอฮอล์ ตรวจสารเสพติดแล้วไม่พบอะไร ทำไมต้องกักตัวเขาเอาไว้บนรถกระบะนานตั้ง 3-4 ชม. ถ้าคนเมาจริงก็ต้องมีอาการ มีกลิ่นออกมาจากตัว ไม่รู้จะตรวจอะไรหนักหนา ถ้าไม่แน่ใจก็ส่งไปโรงพยาบาลสิ ตอนนั้นเราก็พยายามใช้โทรศัพท์อีกเครื่องตามหาสัญญาณมือถือของเคา ปรากฎว่ามันขึ้นว่าอยู่ที่โรงพัก แต่ตำรวจบอกว่าไม่รู้ว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหน จนเวลาผ่านไปนาน ตำรวจสงสัยว่าทำไมเขายังไม่ฟื้น เลยเอาไฟฉายไปส่องเห็นว่าเขามีเลือดออกทางปากทางจมูกจึงพาไปโรงพยาบาล ตำรวจพาไปโรงพยาบาลโรงพยาบาลแรกบอกว่าน้องอาการหนัก ต้องส่งตัวไปอีกที่ ซึ่งต้องใช้เอกสาร แต่เอกสารอยู่กับตำรวจ น้องรอประสานเรื่องนี้อยู่ 4-5 ชั่วโมงโดยที่ไม่ได้รับการรักษาอะไรเลย จนทางโรงพยาบาลต้องไปค้นประวัติเพื่อหาเบอร์ญาติ จริงๆน้องมีประกันอย่างดี อยู่ในกระเป๋า ถ้า ตำรวจเพียงที่จะหาเอกสารในกระเป๋าเขา เขาอาจจะได้เข้า โรงพยาบาลดีๆ เลยก็ได้ ซึ่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากที่เกิดเหุตเพียงแค่ 600 เมตร ถ้าพาไปส่งโรงพยาบาลตั้งแต่แรก เขาก็คงยังมีชีวิตอยู่
หลังจากน้องเสียชีวิต เราขับรถอยู่ดีๆ รถก็มาหยุดตรงที่ๆ นึง เราคิดว่ารถเสียรึเปล่าก็พยายามจั๊มพ์รถ แต่ก็ยังไม่ติด เลยภาวนาขอให้เจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยให้น้องมาบอกเราหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น สักพักเราเหลือบไปเห็นป้ายมิตซูบิชิ เราเลยเอะใจขึ้นมาว่าตรงนี้มันที่เกิดเหตุน้องเรารึเปล่า ปรากฏว่าใช่ เราก็ไปที่บริเวณนั้นก็เจอกล้องวงจรปิด แถมเจอพยานปากเอกด้วย คือมันเหลือเชื่อมากจริงๆ
ในกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ล้มหัวฟาดพื้นนั้น รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เปิดเผยว่า โดยปกติแล้ว ถ้ามีการบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ แล้วไม่แน่ใจว่าบาดเจ็บที่สมองด้วยหรือไม่ หากส่งตัวไปโรงพยาบาล แพทย์ฉุกเฉินที่เข้ามาตรวจ สิ่งแรกคือต้องทำซีทีสแกน ตรวจคอมพิวเตอร์บริเวณสมอง ว่ามีการบาดเจ็บที่บริเวณสมองหรือไม่ หากไม่มีอาการบาดเจ็บ จะต้องรอสังเกตอาการ อาจจะสังเกตอาการที่โรงพยาบาล หรือถ้าไม่รุนแรงมากก็กลับไปสังเกตอาการที่บ้าน ถ้ากลับไปที่บ้าน ญาติต้องคอยดูแลตลอดเวลาอย่างใกล้ชิด หากมีอาการอาเจียน อาเจียนพุ่ง ต้องรีบพาไปโรงพยาบาล และที่สำคัญ ถ้าเขาเกิดอาการซึม ปลุกไม่ตื่น ต้องรีบพากลับไปที่โรงพยาบาล โดยปกติจะสังเกตอาการ 24 ชม.หากเกินไปมากกว่านี้ ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรง ถ้าเกิดว่าไปเจอในกรณีแบบนี้จริงๆ อาจจะเกิดเหตุที่ไม่คาดหวังเกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้นต้องรีบไปโรงพยาบาลก่อน
สำหรับในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เผยว่า ทางญาติได้มีการมาร้องเรียนกับภูธรจังหวัดแล้ว และได้มีการขอรายละเอียดต่างๆ จากญาติแล้ว ในส่วนนี้ ทางตำรวจได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ส่วนเรื่องคดีจราจร ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อจาก สภ.บางละมุง เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ ส่วนการใส่กุญแจมือ ผมว่าไม่ปกติ เพราะปกติแล้วต้องเป็นผู้ต้องหาถึงจะใส่กุญแจมือ ซึ่งกรรมการจะตรวจสอบข้อเท็จจริงส่วนนี้ด้วย ในกรณีเกิดเหตุ ถ้าพบว่าผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้รับอาการบาดเจ็บ จะต้องพาไปโรงพยาบาล เป็นมาตรฐานของตำรวจ ส่วนเรื่องการเก็บทรัพย์สินของผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ประสบเหตุ เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเขารู้ตัวดี มีสติ จะต้องคืนทรัพย์สินให้เขา ในกรณีนี้อาจจะเข้าข่ายประพฤติหน้าที่มิชอบ ต้องรอคณะกรรมการสอบสวน ใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ในการรายงานผล
ส่วนในแง่ความรู้ทางด้านคดีความ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า ในกรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของผู้เสียหายที่เสียชีวิตจากการคุมตัวของตำรวจ และอีกส่วนคือ ส่วนของคู่กรณีที่กลับรถตัดหน้าจนเกิดอุบัติเหตุ อันนี้ต้องได้รับข้อหาประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ภรรยาสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้และเรียกร้องค่าใช้จ่ายในงานศพได้ ส่วนกรณีการคุมตัวของตำรวจ คดีนี้เป็นแค่คดีจราจร การกระทำของ จนท.อาจจะลุต่ออำนาจไปนิดนึง ยิ่งเห็นว่าเขามีอาการซึมๆ ไม่พูดไม่จา ตามหลักของวิญญูชน ตำรวจน่าจะยุติการสอบสวน พาไปโรงพยาบาลก่อน ครอบครัวมีสิทธิฟ้องร้อง ตำรวจได้ ถ้าตำรวจมีส่วนทำให้ผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตาย ในความเห็นผม ผมว่าเข้าข่าย มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
สรุปผลโพล คุณคิดว่า เรื่องนี้มีเงื่อนงำหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม