หมอประสิทธิ์ เตือนโควิดไม่หยุดกลายพันธุ์ ยุโรปติดเชื้อเพิ่มขึ้น จับตาช่วงเทศกาลปลายปี
logo ข่าวอัพเดท

หมอประสิทธิ์ เตือนโควิดไม่หยุดกลายพันธุ์ ยุโรปติดเชื้อเพิ่มขึ้น จับตาช่วงเทศกาลปลายปี

ข่าวอัพเดท : วันที่ 25 พ.ย.64 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์สถานการณ์ระบาดระลอกใหม่ในยุโรป ว่า หมอประสิทธิ์,โควิด,ไม่หยุดกลายพันธุ์,ยุโรป,ติดเชื้อ

769 ครั้ง
|
26 พ.ย. 2564
        วันที่ 25 พ.ย.64 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์สถานการณ์ระบาดระลอกใหม่ในยุโรป ว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากประเทศในยุโรปและอเมริกา ซึ่งกราฟผู้ติดเชื้อกำลังไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอากาศที่หนาวเย็น และการคลายล็อก เปิดประเทศหลังสถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่เอเชียการติดเชื้อเป็นขาลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นแต่การเสียชีวิตไม่ขยับตาม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีน ซึ่งทั่วโลกระดมฉีดวัคซีนมากถึง 33 ล้านเข็มต่อวัน
 
       ประเทศสหรัฐฯ ยังมีคนปฏิเสธวัคซีน เป็นผลทำให้โควิดกลับมาระบาด ติดเชื้อวันละ 60,000 คน ถึงกว่าแสนคนต่อวัน ขณะนี้สหรัฐฯ เริ่มให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ส่วนไทยเป็นประเทศต้นๆ ที่เชิญชวนให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยดำเนินการมาตั้งแต่เดือน ก.ย.64 ก่อนโลกตะวันตก เนื่องจากมีประสบการณ์บุคลากรการแพทย์ติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ผ่านมาระยะหนึ่
 
       ขณะที่ประเทศอังกฤษ ฉีดวัคซีนแล้ว 112,277,085 โดส และฉีดวัคซีนเฉลี่ย 4 แสนโดสต่อวัน ประชากร 68.3 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 76% ได้รับวัคซีน 2 เข็ม 69.1% และได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว 19.2%  แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไม่เคยต่ำกว่า 3 หมื่นคนต่อวัน และเสียชีวิตหลักร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนยังไม่ครบ เช่นเดียวกับหลายประเทศในยุโรป วัคซีนจึงมีประโยชน์ในการลดการป่วยหนักลดตาย แต่ไม่ป้องกันการติดเชื้อ
 
         “องค์การอนามัยโลกห่วงยุโรปจะกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดรอบใหม่ ประเทศออสเตรียติดเชื้อสูงจนต้องประกาศล็อกดาวน์ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการระบาดใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนเชื่อมั่นในวัคซีน ทำให้ผ่อนคลายมาตรการ คิดว่าฉีดวัคซีนครบแล้วไปไหนก็ได้ แต่ลืมคิดไปว่าฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 มานานกี่เดือนแล้ว ร่วมกับการกลายพันธุ์ของโควิด เดือน ธ.ค.นี้ เป็นช่วงที่คนทั้งโลกต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากสภาพอากาศเย็นลง และเป็นช่วงเดินที่คนเดินทางท่องเที่ยว กลับไปพบญาติพี่น้อง มีกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้หลายประเทศเริ่มล็อกดาวน์เพื่อคุมการระบาดให้ได้ก่อนเทศกาลวันหยุดยาว”
 
       ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยกตัวอย่างเป็นอุทาหรณ์ การจัดโคโรนาปาร์ตี เป็นกิจกรรมรวมกลุ่มเพื่อให้เกิดการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่ปฏิเสธวัคซีน หวังให้มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องฉีดวัคซีน  ปรากฎว่าผู้ร่วมปาร์ตี้ป่วยแล้ว 4 คน เสียชีวิต 1 คน  จึงเป็นบทเรียนสำคัญ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อติดเชื้อแล้วภูมิต้านทานจะขึ้น หรือจะเสียชีวิต
 
        “ขณะนี้ไวรัสยังไม่หยุดกลายพันธุ์ B.1.1.529 การกลายพันธุ์ในตำแหน่งสไปก์โปรตีน 32 จุด กำลังเร่งติดตามว่ากระทบต่อวัคซีนหรือไม่ โดยถอดรหัสพบ 10 คน แอฟริกาใต้ บอสวานา และฮ่องกง”
 
         ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่าสำหรับประเทศที่เปิดประเทศแล้ว ยังไม่เกิดการแพร่กระจายเชื้อ คือ ญี่ปุ่นและอิสราเอล จุดสำคัญคือ ประชาชนให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะญี่ปุ่นมีการฉีดวัคซีนแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันวัคซีนฉีดแล้ว 90% ร่วมกับการมีวินัย ดังนั้น การที่โควิดจะไม่ระบาดหลังการเปิดประเทศ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร แต่ต้องร่วมมือกันทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ เข้ารับวัคซีนให้มากที่สุด สวมหน้ากากถูกวิธี เว้นระยะห่าง หากสงสัยติดเชื้อให้เข้ารับการตรวจ ทุกคนมีส่วนช่วยให้เปิดประเทศปลอดภัย 
 
        ย้ำเตือนว่า เดือน ธ.ค.นี้ เป็นความเสี่ยง ขอให้หลีกเลี่ยงบุคคลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง และกิจกรรมเสี่ยง ซึ่งเราเคยเผชิญมาแล้วในช่วงสงกรานต์