ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายพิสูจน์ อายุ 28 ปี เจ้าของร้านทำป้าย ที่อำเภอปราณบุรีว่า รถยนต์กระบะ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนเพชรบุรี ได้หายไปจากข้างร้านของตน ที่บ้านตำหรุ ม.1 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบนายพิสูจน์ เจ้าของรถ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า รถยนต์กระบะ 4 ประตูของตน ได้ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยออกจากบ้านไปเมื่อเวลา 01.52 น.ของวันที่ 22 พฤศจิกายน 64 ซึ่งตนทราบว่าหายตอนประมาณตีสองเศษ จึงไปแจ้งความที่ สภ.ปราณบุรี และนำภาพรถคันที่หายโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก โดยใส่เลขทะเบียนรถและเบอร์โทรของตนไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้คนที่พบเห็นรถได้แจ้งข้อมูลมา เพราะหวังอยากได้รถคืน ซึ่งก็มีการแชร์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊กหลายๆกลุ่ม ต่อมาเมื่อเวลาประมาณเก้าโมงเช้าเศษ ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาที่เบอร์ของตน แจ้งว่ามีคนเอารถกระบะของตนไปจำนำไว้ ถ้าอยากได้รถคืนให้เอาเงินมาไถ่จำนวน 50,000 บาท โดยบอกว่ารถอยู่ที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
นายพิสูจน์เล่าต่อว่า ตนเองก็พยายามสอบถามว่าต้องทำอย่างไร โดยคนร้ายได้บอกว่าให้มาที่แถวห้างหนึ่ง สาขาอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จะนำรถไปส่ง เมื่อตนเองไปถึงแล้ว โทรติดต่อคนร้ายก็บอกว่า ให้โอนเงินมาก่อน จึงจะเอารถไปให้ ตนเองพยามบอกว่าของเห็นรถก่อนได้ไหม กลับโดนคนร้ายตะคอกกลับมาว่า ไม่อยากได้รถคืนใช่ไหม ให้รีบโอนมา ด้วยความที่ตนเองอยากได้รถคืน จึงยอมเสี่ยงโอนเงิน 50,000 บาทไปให้คนร้าย และรอติดต่อกลับ แต่เมื่อโอนเงินไปสักพัก คนร้ายก็ปิดเครื่องหนี ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเชื่อว่า ตนเองน่าจะถูกมิจฉาชีพหลอก จึงมาแจ้งความอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สภ.ปราณบุรี แจ้งว่าในเรื่องนี้ แบ่งเป็น 2 คดี คือคดีลักทรัพย์ และคดีฉ้อโกง ซึ่งทางตนเองได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบทั้งจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมต่างๆ ขอยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจมีผลต่อรูปคดี
+ อ่านเพิ่มเติม