แม่สุดช้ำพาลูกสาวแจ้งจับ น้าเขยหื่น บุกข่มขืนหลานสาววัย 15 นานนับปี บังคับเสพยา ขู่ฆ่าหากบอกใคร

      เด็กสาววัย 15 ถูกน้าเขยข่มขืนนานข้ามปี บังคับเสพยาบ้า แถมขู่ฆ่าหากบอกคนอื่น แต่มาโป๊ะแตกเพราะเมียโทรตาม เสียงมือถือดังมาจากในห้องหลาน

 

        วันที่ 22 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ชายอายุ 58 ปี มีศักดิ์เป็นน้าเขย ก่อเหตุข่มขืนหลานสาวอายุแค่ 15 ปี ข่มขืนมานานกว่า 1 ปี ที่สำคัญยังบังคับให้หลานสาวเสพยา และขู่จะฆ่า หากนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกคนอื่น

 

        เรื่องนี้มาแดงขึ้นเมื่อหญิงอายุ 36 ปี ผู้เป็นแม่กลับมาที่บ้านพักกลางดึก หลังจากไปสังสรรค์กับเพื่อน เธอเข้ามาในบ้านเห็นประตูห้องลูกสาวเปิดอยู่ ด้วยความสงสัยจึงเข้าไปดู ก็เห็นลูกสาวอายุ 15 ปี อยู่ในห้อง พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ตอนนั้นมีสายโทร.เข้ามาพอดี จึงกดรับก็พบว่าเป็นสายของหญิงอายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน โทรศัพท์มาตามสามี จังหวะนั้นเหลือบไปเห็นชายอายุ 58 ปี มีศักดิ์เป็นน้าเขย และสามีของหญิงอายุ 48 ปี เขาซ่อนตัวอยู่หลังราวตากผ้า พอเจอหน้าเธอก็ทำท่าตกใจ ลุกลี้ลุกลนรีบวิ่งออกจากห้องหลบหนีไป

 

       เธอพยายามถามลูกสาวว่าชายอายุ 58 ปี เข้ามาอยู่ในห้องได้อย่างไร แต่ลูกสาวไม่ยอมบอกปิดปากเงียบ จนเธอไปเห็นคราบอสุจิบนที่นอน ตอนนั้นหัวใจคนเป็นแม่แทบแตกสลาย จึงเค้นถามจนลูกสาวยอมบอกว่า ถูกชายอายุ 58 ปี ข่มขืนมานานกว่า 1 ปีแล้ว ที่ช้ำใจไปกว่านั้น ผู้ก่อเหตุมีศักดิ์เป็นน้าเขย แถมบ้านก็อยู่ติดกัน และครั้งนี้ชายอายุ 58 ปี ยังบังคับให้ลูกสาวเสพยาบ้าด้วย ส่วนที่ไม่ยอมบอกใคร เพราะถูกชายอายุ 58 ปี ข่มขู่ทุกครั้งว่า "ถ้านำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นจะฆ่าให้ตาย" ด้วยความกลัวจึงปิดปากเงียบ หลังรู้เรื่อง คนเป็นแม่พาลูกสาวไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เชียงคาน เพื่อให้ช่วยจับกุมชายคนดังกล่าวไปดำเนินคดี

 

         ด้านหญิงอายุ 48 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า เธอเพิ่งรู้ความจริงว่าที่สามีบอกมาตลอดว่าไปดื่มสุราบ้านเพื่อน แท้จริงแล้วเข้าไปก่อเหตุข่มขืนหลานสาว เพราะวันนั้นเธอโทรศัพท์ไปหาสามี แต่เสียงโทรศัพท์ดังมาจากห้องนอนหลานสาว พอถามสามีว่าเข้าไปทำอะไรในห้องหลานสาวก็ไม่ยอมบอก แต่พอเกิดเรื่องขึ้น สุดท้ายสามีก็ยอมรับว่าเข้าไปข่มขืนและบังคับให้หลานสาวเสพยา ตอนนี้สามีไม่ได้พักอยู่ที่บ้าน ไปอาศัยอยู่บ้านญาติ จะกลับมาก็ต่อเมื่อพนักงานสอบสวนเรียกตัวมาสอบสวน ส่วนเรื่องคดีก็ต้องปล่อยไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

 

         ด้านตำรวจ สภ.เชียงคาน ระบุ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และรอทีมสหวิชาชีพมาสอบปากคำเด็ก และรอผลการตรวจร่างกายของโรงพยาบาล จากนั้นก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาตามนัดก็จะออกหมายจับ ยืนยันพนักงานสอบสวนเร่งรัดทำคดี ไม่นิ่งนอนใจ พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย