จากกรณีที่ ครอบครัวน้องฟิล์ม วัย 15 ปี ได้ออกมาร้องเรียนในรายการถกไม่เถียง ว่าลูกชาย ถูกรถเบียดจยย.ล้ม ก่อนโดนรถใหญ่เหยียบซ้ำเสียชีวิต คนขับหลบหนี ผ่านมาหลายเดือนตร.ยังจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งที่มีพยานหลักฐานเพียบ ทั้งยังพบพิรุธถึงผลชันสูตรที่ไม่ตรงกัน และข้อกังขาของการทำงานของตร. (แบบนี้ได้เหรอ? พ่อร้อง รถชนลูกตาย ตำรวจจับคนร้ายไม่ได้ แต่พ่อเด็กหาเจอ!)
วันที่ 23 พ.ย.64 นายเทพกานต์ คุ้มศรีษะ และ สุจิตรา กาดี พ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงความคืบหน้าของคดี หลังจากที่มาออกรายการ ถกไม่เถียง ไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่ออกรายการไป ก็ไปยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือที่ สตช. เพื่อให้ลงมาดูและเปลี่ยนพนักงานสอบสวนในการทำคดี และไปยื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม และได้มีการไปพูดคุยกับตร.บ้าง แต่ไม่ได้ลงไปยังพื้นที่ ซึ่ง ณ วันนี้ ยังไม่ได้ใบชันสูตรศพเลย ลักษณะเหมือนโยนกันไปมา ญาติก็ไม่รู้จะไปเอาจากตรงไหน ส่วนเรื่องไทม์ไลน์ผลการชันสูตรครั้งแรกที่มีการสับสนอยู่นั้น ขอชี้แจงว่า หลังน้องเสียชีวิต ที่แรกที่นำศพน้องไปคือ รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น ได้ทำการชันสูตรโดยการผ่าศพ โดยตนเป็นคนพาร่างน้องไปเอง และทางรพ.ได้มีการส่งผลชันสูตรไปให้ทางตร.
ขณะที่ นายธีรวัฒน์ วีระวัฒน์ ทนายความในคดีนี้ ได้เผยความคืบหน้าทางด้านคดีว่า ทางพ่อกับแม่ของผู้เสียชีวิต ได้มีการไปยื่นเรื่องถึง สตช. ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการทางวินัยหากพบการทำกระผิด และขอให้ ตร.และผู้บังคับบัญชาย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงกลัวว่าพยานจะโดนข่มขู่ ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และขอให้แจ้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดภายใน 7 วัน นอกจากนี้ยังมีการไปยื่นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอความช่วยเหลือเรื่องเงินค่าตอบแทน สิทธิค่าตอบแทนที่จะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย
สำหรับข้อสงสัยเรื่องใบชันสูตรที่มีมากกว่า 1 ใบนั้น รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เผยว่า การชันสูตรแบ่งเป็น 2 แบบ มันจะมีการชันสูตรศพ ณ ที่เกิดเหตุ แล้วพอส่งชันสูตรเรียบร้อยก็จะมีการทำรายงาน อันนี้จะยังไม่มีการผ่า จากนั้นจะส่งศพไปที่ รพ.เพื่อรอญาติมา และจะมีการฉีดฟอร์มาลีนทิ้งเอาไว้ก่อน อันนี้จะเป็นใบชันสูตร ณ ที่เกิดเหตุ สำหรับการผ่าชันสูตรศพตามกฎหมาย จะมีการผ่าแยกร่าง เปิดดูด้านใน กรณีนี้จะต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ สถานที่นั้นจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำได้และถูกต้องตามกฎหมายด้วย ซึ่งตามปกติจะยึดการชันสูตรแยกร่างเป็นหลัก ส่วนชันสูตร ณ ที่เกิดเหตุเป็นแค่องค์ประกอบเท่านั้น เพราะในที่เกิดเหตุจะต้องมีหมอด้วย เพื่อนำองค์ประกอบมาใช้พิสูจน์การเสียชีวิต จากข้อมูล ณ ปัจจุบัน รพ.นครพนม ยังไม่มีหมอนิติเวชผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าชันสูตร จึงน่าจะเป็นการชันสูตร ณ ที่เกิดเหตุ ก่อนที่ญาติผู้เสียชีวิตจะส่งศพไปผ่าชันสูตรยัง รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น
ส่วนเรื่องที่มีการอ้างว่ารถของน้องล้มเองนั้น เรื่องความเร็ว ความแรงเป็นแค่ส่วนประกอบ แต่ในกรณีที่ล้มลงไปแล้วศีรษะกระแทกพื้น นั่นคือจุดที่จะทำให้บาดเจ็บหนักที่สุด ถ้าฟาดรุนแรงอาจจะทำให้เกิดการฉีกขาด ซึ่งลักษณะจะต่างจากการถูกของหนักกดทับ การถดทับ จะเป็นการบีบแตกออก ซึ่งมันแยกจากการที่บอกว่าน้องรถล้มได้ หากเกิดการบดทับ ถ้าทับไม่รุนแรง มันจะพอเห็นร่องรอยการทับ แต่ถ้าแหลกละเอียดนั้นยากจะพิสูจน์ ซึ่งเรื่องนี้ภาพถ่ายในที่เกิดเหตุมันพิสูจน์ได้ ส่วนกรณีสมองที่ไหลออกมา ถ้าบาดเจ็บรุนแรง สมองก็อาจจะไหลออกมาได้
ด้าน นายศราวุฒิ บุญรอดดิษฐ์ อาสากู้ภัยที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าถึงวันที่เกิดเหตุให้ฟังว่า วันนั้น เห็นรถ จยย.ล้มอยู่ และน้องฟิล์มนอนอยู่ข้างๆ มีกองเลือด ลักษณะของศพ ร่ายกายผิดรูป และมีรอยตรงหน้าผาก มีสมองไหลออกมา ซึ่งถ้ารถล้มเองสมองไม่น่าจะไหลออกมาได้ คาดว่าจะโดนของแข็งทับ ซึ่งน่าจะเป็นรอยของล้อรถ ต่อมาก็มีพลเมืองดีมาแจ้งให้ไปถ่ายรูปรถสองแถวไว้ ก็ได้ไปถ่ายหน้ารถและด้านข้างรถเอาไว้ ตอนนั้นก็ไม่ได้สังเกตร่องรอยอะไร จากนั้นก็เดินกลับมาจุดเกิดเหตุเพื่อรอแพทย์เวรและตร.มา
ซึ่งในประเด็นนี้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เผยว่า ผลชันสูตรจากรพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น พบว่ากะโหลกศีรษะแตก แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าถูกล้อทับหรือไม่ เพราะว่าไม่มีรอยล้อรถทับ ซึ่งทาง จนท.ได้มีการสอบถามไปยังแพทย์ผู้ชันสูตรแล้วว่ามีร่องรอยของการถูกรถทับหรือไม่ ซึ่งทางแพทย์ยืนยันว่าไม่สามารถระบุได้ ส่วนที่พยานยืนยันว่ามีรถสองแถวเหยียบศีรษะน้องจนถึงแก่ความตายนั้น จนท.ได้มีการสอบถามพยานว่าเหตุเกิดตรงไหน แต่พยานบอกว่าเหตุเกิดในช่องทางที่ 1 แต่ที่จริงแล้วเหตุเกิดบนไหล่ทาง นอกจากนี้ยังได้มีการนำรถ จยย.ไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดก็ปรากฎว่าไม่มีร่องรอยการชนแต่อย่างใด ถ้ารถสองแถวเหยียบจริงก็ต้องจอดที่ไหล่ทางรึเปล่า ตอนนี้ในสำนวนสรุปว่าน้องรถล้มเสียชีวิต ซึ่งได้มีการส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว แต่ในกระบวนการยังมีรายละเอียดอีกเยอะ ซึ่งทางจนท.สามารถเรียกมาสอบเพิ่มเติมได้ ผมพร้อมที่จะให้ความยุติธรรมกับพ่อแม่ผู้เสียชีวิตอยู่แล้ว สิ่งที่ทางพ่อแม่ติดใจอยู่ ตร.ยังไม่สามารถแก้ความสงสัยได้ อยากให้พ่อแม่เข้าใจทางตร.ว่า ตร.ต้องมีหลักฐานจริงที่เอามาใช้ในชั้นศาลได้ เพื่อทางจนท.จะได้ดำเนินการเต็มที่ หากทางพ่อแม่มีหลักฐานก็สามารถส่งมาให้ทางตร.ได้
ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยถึงเคสนี้ว่า ในเรื่องการเสียชีวิต ต้องใช้การฟ้องคดี ต้องดำเนินการโดย ตร.แต่ไม่ได้ตัดสิทธิห้ามไม่ให้ผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรงได้ ซึ่งถ้าผู้เสียหายมีหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม สามารถส่งต่อให้อัยการสอบเพิ่มเติมได้ ผมให้ความสบายใจเพิ่มขึ้น เราสามารถยื่นให้ยุติธรรมจังหวัดได้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างในทุกประเด็นที่เราตั้งข้อสงสัย สำหรับเรื่องการเยียวยา ทางกระทรวงยุติธรรมมีเงินทดแทนที่จะสามารถมอบให้จำนวนหนึ่ง แต่อาจจะไม่ถึงจำนวน 5 แสนบาท ก็สามารถไปร้องได้ กรณีที่การพิสูจน์เรื่องนิติวิทยาศาสตร์ เพราะมีข้อสงสัยหรือพบว่ามีการส่งตรวจหลายที่ สามารถไปที่กระทรวงยุติธรรมได้ เพราะเรามีการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ ก็สามารถยื่นไปให้ตรวจสอบได้ อยากฝากทางจนท. หรือ หน่วยงานราชการ เราต้องมีความคิดว่าเราต้องทำบุญกับปชช.อยากให้มีความคิดว่าพี่น้อง ปชช.คือครอบครัวของเรา
สุดท้าย ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม อยากฝากถึงอัยการสูงสุด ดำเนินการตรวจสำนวนคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวนี้ด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา คดีนี้มันผิดปกติ
สรุปผลโพล คุณคิดว่า เรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com