หนุ่มอุดรฯถูกฟันสยองคอหวิดขาด ปมแบ่งยาบ้าไม่ลงตัว

      หนุ่มอุดรฯถูกฟันสยอง คอเกือบขาด ดับคาหน้าบ้านเพื่อนร่วมวงเหล้า สอบสวนเพื่อนร่วมวงเหล้า พบปมแบ่งยาบ้าไม่ลงตัว ซัดทอดกันไปมา-ไม่มีคนยอมรับ ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอส่งตรวจ-คุมทั้งหมดเค้นสอบต่อโรงพัก-หาตัวคนฆ่า   

 

      วันที่ 21 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี  ได้รับแจ้งจากนายคำแปลง  คนทน กำนันตำบลสร้างแป้น ว่ามีคนถูกฟันคอเสียชีวิต หน้าบ้านเลขที่ 270 หมู่ 3 บ้านทอน ต.สร้างแป้น จึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.เพ็ญ อาสากู้ภัยสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

 

     ที่เกิดเหตุพบศพชาย อายุ 37 ปี  ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี สวมกางเกงขาสั้นลายสก๊อต ไม่สวมเสื้อ นอนหงายอยู่บนกองหินหน้าบ้าน จากการชันสูตรพบถูกฟันด้วยของมีคมบริเวณท้ายทอย เป็นบาดแผลฉกรรจ์คอหวิดขาด บริเวณหน้าบ้านใกล้ที่เกิดเหตุพบขวดเหล้าขาวแตก และมีรอยลากเป็นทางยาว  ตรวจค้นรถยนต์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ขง 1008 อุดรธานี ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน พบมีดพร้ายาวประมาณ 30 เซนติดเมตรเปื้อนเลือด และไม้ตะพดหัวงูซุกอยู่ใต้เบาะหน้าข้างคนขับ ซึ่งรถดังกล่าวเป็นรถของนางพิกุล อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

       นางพิกุล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนตั้งวงดื่มเหล้า 4 คน มีตน นายวรชัยซึ่งเป็นสามี นายสมหมาย และผู้ตาย พอเมาแล้วตนก็ขึ้นไปนอนบนบ้าน  ต่อมาผู้ตายได้เอายาบ้ามา 6 เม็ด มาแบ่งปันกันเสพ แต่แบ่งกันไม่ลงตัว ซึ่งนายวรชัย อายุ 50 ปี สามีได้ขึ้นไปเรียกตนขณะนอนหลับ บอกว่าผู้ตายเอายาบ้าไปหมด ตนจึงลงมาบอกผู้ตายว่า ทำไมไม่แบ่งกัน มีอะไรก็แบ่งปันกัน จากนั้นตนและสามีก็ขึ้นไปนอนบนบ้าน ไม่รู้ว่าใครฟันผู้ตาย  ส่วนนายวรชัย ให้การว่า เมาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ว่าใครฟัน

 

      ส่วนนายสมหมาย อายุ 43 ปี ให้การด้วยการมึนเมาว่า ตนเคยเป็นลูกจ้างมาทำงานกับนางพิกุล ตนเดินเข้ามาก็พบผู้ตายนอนอยู่ที่พื้น มีนางพิกุลถือมีดและทำร้ายร่างกายผู้ตายด้วยการเตะ และให้เท้าเหยียบ ส่วนผู้ตายไม่สู้ ตนจึงบอกให้นางพิกุลพอแล้ว อย่าถึงกับต้องเอาให้ตายเพราะลูกมีพ่อมีแม่ จากนั้นตนก็เดินหนีไป และไม่รู้ว่าใครฆ่า 

 

       จากสอบสวนเบื้องต้น มีผู้ต้องสงสัยเพราะพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุอยู่ในรถนางพิกุล  มีคาบเลือดและมีเส้นผมติดมีด และได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของทั้ง 3 คน และควบคุมตัวนางพิกุล นายวรชัย และนายสมหมาย ไปโรงพัก เพื่อสอบสวนหาฆาตกรที่แท้จริง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป