ไม่เข็ดหลาบ! “เสี่ยน็อตลวงโลก” โผล่อีก หลอกญาติโยมทำบุญ สูญ 2 ล้าน ชาวบ้านบุกด่าถึงห้องขัง

        วันที่ 22 พ.ย.64  พระสนธยา สนฺตมโน หัวหน้าดูแลที่พักสงฆ์บุพราหมณ์แก้วไชยะวนาราม จ.ปราจีนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า นายสมชาติ ภู่เผือก หรือ อดีตพระก็อต ได้มาขอบวชในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งที่พักสงฆ์แห่งนี้มีอาตมาแค่รูปเดียว ก็เลยอยากให้ที่นี่มีพระมากขึ้น วันแรกที่เจอ เขาเหมือนเด็กทั่วไป ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ รองเท้าขาดๆ มาขอบวช ด้วยความที่อาตมาไม่ได้ติดตามข่าวก็เลยไม่รู้พฤติกรรมที่ผ่านมาของเขา ทั้งยังซักประวัติเรียบร้อยแล้ว ก่อนบวชก็มีการดูพฤติกรรมก่อน 15 วัน พฤติกรรมเขาก็ปกติ ไม่ผิดแผกจากคนปกติทั่วไป ช่วยงานวัดทุกอย่าง อาตมาเลยทำการบวชให้ฟรี มีพระที่บวชทั้งหมด 6 รูป เขาก็ปฏิบัติตัวดีมาตลอด หรือมีพฤติกรรมอวดอุตริแต่อย่างใด ซ้ำยังช่วยงานวัดมาโดยดีตลอด กระทั่งช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน เริ่มมาพูดคุยกับอาตมาเสนอว่าจะสร้างยักษ์ทำซุ้มประตูวัดตรงที่ว่างข้างประตู อาตมาเลยอนุญาตและไม่ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าภาพแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่นาน ก็เห็นมีทีมก่อสร้าง ทีมออกแบบ คนงาน วัสดุเหล็ก โครงสร้าง ทยอยนำมาในพื้นที่ 

 

 

       อดีตพระก็อตได้ติดต่อไปยัง คุณนพพล นุชิตประสิทธิชัย ผู้ประกอบการหนึ่งในเหยื่อที่ถูกหลอก โดยคุณนพพล เล่าว่า อดีตพระก็อต ได้ติดต่อไปทางเพจและมีการแอดไลร์คุยกัน เพราะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เขาอ้างว่าทางวัดมีโปรเจกต์ที่ต้องทำมากมาย เลยมีการนัดกันไปคุยที่วัด ได้เจอพระอาจารย์สนธยา เราก็คิดว่ามีตัวตนจริง เห็นกับตาว่าเริ่มมีการก่อสร้างแล้วบางส่วน เราก็ทำใบเสนอราคาทำรายละเอียดตกลงกัน เขาบอกว่ามีเจ้าภาพอีกคนอยากให้ช่วยทำยันต์ ให้ทุนล้านนึง ประกอบกับเราก็อยากช่วยวัดด้วย เราก็โอเคออกแบบให้ โดยทุกโครงการทุกโปรเจกต์ที่เขาให้เราทำ เขาจะอ้างว่ามีเจ้าภาพอยู่แล้ว เราเริ่มเอะใจตรงที่เขาไม่ยอมโอนเงินสักที เลื่อนไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มออกเงินตัวเองไปร่วมแสนบาท อยู่ๆเขาบอกว่าเจ้าภาพหายตัวไป น่าจะโดนอุ้มจากธุรกิจสีเทา เงินโดนอายัด ตอนได้ยินเราก็เป็นห่วง เป็นกำลังใจให้ ตอนหลังเรารู้สึกว่ามันแปลกๆ จนจำได้ว่าเขาเคยหลุดปากพูดชื่อว่าเขาชื่อ สมชาติ ภู่เผือก เลยลองเอาชื่อไปเสิร์ชดูในเน็ต มันก็ขึ้นวีรกรรมเขามาเลย พอเห็นแค่นั้นแหละถึงกับเข่าอ่อน

 

         คุณบุญมา ดีพรม หนึ่งในชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อของเสี่ยน็อต เล่าว่า ผมได้ปรึกษากับเจ้าอาวาสว่าคงต้องมีการจัดงานฉลองท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งปกติวัดบ้านนอก พระสงฆ์ไม่มีต้นทุน ไม่มีบัญชีเงินฝากที่จะใช้จ่ายในแต่ละปี ญาติโยมก็จะร่วมระดมทุนเพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ละอย่าง วัดที่ไม่มีเงินทั่วประเทศก็จะใช้ระบบแบบนี้ เมื่อเหลือจากนั้น เราก็จะเอาเงินไปเก็บเพื่อทำนุบำรุงศาสนา งวดก่อนหน้าเราไม่ได้จ่ายหนักขนาดนี้ อย่างมากก็ 5,000 แต่งานนี้เราเห็นว่างานใหญ่อลังการมาก เราก็อยากจะร่วมบุญใหญ่ เราก็เลยถวายเงิน 65,000 ให้พระอาจารย์ไปบริหารจัดการเอง ซึ่งก็มีญาติโยมร่วมกันทำบุญเป็นจำนวนมาก

 

 

        ขณะที่ คุณพินิจ พันธ์สิงห์ ผู้ประกอบการที่ถูกหลอกให้เข้ามาจัดงานกฐิน เล่าว่า ได้รับการติดต่อมาเรื่องงานกฐิน เขาเสนอราคามาที่ 40,000 บาท เพราะมีทั้งเรื่องของโขน วงปี่พาทย์ วงโยธวาทิต เรารับทำหน้าที่ถ่ายทอดสด บันทึกเทป และไลฟ์ผ่านหน้าเฟซบุ๊กวัด มีการจ้างเราทำสื่อ พอคุยรายละเอียดไปสักระยะ ไปดูโลเคชั่น ดูแล้วมันมีจริง พอถึงวันงาน วันที่ 13-14 พฤศจิกายน 64 และวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 64 วันแรกที่ไปถึงรู้สึกว่างานมันดูกร่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร สรุปทำงานตามปกติ ทุกคนมาหมด มีศิลปินตลกมา เบ็ดเสร็จงานนี้ 90,000 บาท สุดท้ายไม่ได้เงินเลย 

 

          คุณกรานต์ วังสะนา หนึ่งในเหยื่อของเสี่ยน็อต เล่าวีรกรรมของเสี่ยน็อต ในคราบพระก็อต เพิ่มว่า ก่อนจะถึงวันงานพบว่าพระน็อตได้นำเหล็กเส้นออกไปจากวัด ซึ่งในส่วนนั้นเป็นเงินที่ญาติโยมร่วมสมทบทุนจัดซื้อ เขาอ้างว่าจะนำไปเปลี่ยน และจะคืนหลังจากจัดงานทอดกฐินเสร็จ สุดท้ายพอหลังเสร็จสิ้นงานกฐินผ่านไปอาทิตย์นึง ก็พบว่าไม่เป็นไปตามที่พระก็อตบอกแต่แรก ก็เลยโทรไปที่เบอร์รถรับจ้างขนเหล็ก เขาก็บอกว่ามีคนซื้อเหล็กเส้นไปแล้ว  เลยจัดการวางแผนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ซึ่งเขาก็ยอมรับสารภาพทั้งหมด

 

 

         จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่าเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เป็นไปได้ที่จะได้เงินคืน เพราะมีการจับคนร้ายได้และมีความผิดชัดเจน ซึ่งคดีนี้มีอัตราโทษค่อนข้างหนัก จำคุกไม่เกิน 5 ปี ต่างกรรมต่างวาระ คนร้ายจะต้องเอาเงินมาเยียวยาผู้เสียหาย รวมถึงคดีเก่าๆ มันยังมีอายุความอยู่ คดีละประมาณ 10 ปี ผู้ประกอบการสามารถเรียกร้องเอาเงินคืนได้ แนะนำให้ผู้เสียหายทุกคนไปแจ้งความและระบุความเสียหายให้ชัดเจน

 

         สุดท้ายนี้ พระสนธยา สนฺตมโน เผยว่า เรื่องนี้มันเกิดขึ้นในวัด จึงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ อาตมาก็จะพยายามรวบรวมเงินเพื่อชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด สิ่งที่ได้สร้างไว้แล้วก็จะดำเนินการสร้างต่อไป แต่ขอเวลาอาตมาสักหน่อย ส่วนเสื้อที่ได้มีการจอง ก็จะทำการโอนเงินคืนทุกท่าน แต่ต้องใช้เวลานิดนึง เพราะว่าตอนนี้ทางวัดก็ลำบาก ไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ

 

 

สรุปผลโพล  คุณคิดว่า ผู้เสียหายจะได้เงินคืนหรือไม่?

 

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/B1VLgOEiLMg