ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคลั่งยิง ลูก-เมีย ก่อนจ่อขมับยิงตัวเองในงานวันเกิดเมีย

       วันที่ 17 พ.ย.64 เวลา 01.13 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต พ.ต.ท.อภิรัช ทองฉิม รองผู้กำกับการ (สอบสวน) พร้อมแพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และอาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ้ง รุดไปที่เกิดเหตุที่บ้านพักใน ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช 

 

        ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่ง พบร่องรอยการจัดเลี้ยงฉลองวันเกิดที่ชั้นล่างของบ้าน ส่วนชั้นบนพบร่างของน้องนิชา อายุ 2 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่บนเบาะที่นอน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน เข้าที่เบ้าตาขวา 1 นัด กระสุนทะลุศรีษะด้านหลัง ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 คน ทราบชื่อคือนายเชาวรินทร์ อายุ 31 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ขมับขวา อาการสาหัส ได้รับการช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช พนักงานสอบสวนได้เก็บอาวุธปืนขนาด 9 มม. ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอก ไว้เป็นหลักฐานทางคดี

 

       เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า ในช่วงหัวค่ำนายเชาวรินทร์ได้ขับรถยนต์กระบะ ออกจากบ้านพักที่อำเภอฉวาง พร้อมกับนางวันนิภา ภรรยา และน้องนิชา บุตรสาว เพื่อมาร่วมงานฉลองวันเกิดของภรรยา โดยได้นัดญาติๆ มากินเลี้ยงวันเกิดที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา บรรยากาศงานเลี้ยงวันเกิด เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี มีการสังสรรค์ตามประสาพี่น้อง และคนใกล้ชิด  จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงหลังเที่ยงคืน นางวันนิภาได้พาบุตรสาวขึ้นไปนอนที่ชั้น 2 ของบ้าน 

 

       ญาติให้การกับตำรวจว่า ได้ยินเสียงน้องนิชาร้องขอเล่นโทรศัพท์ จากนั้นมีเสียงโต้เถียงระหว่างนายเชาวรินทร์กับนางวันนิภาเล็กน้อย ไม่รุนแรงอะไร กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน นายเชารินทร์ได้ชักปืนออกมายิงใส่ร่างของบุตรสาว 1 นัด แล้วหันปืนไปยิงใส่ร่างของนางวันนิภาที่นอนอยู่ใกล้กับลูก แต่นางวันนิภาเอี้ยวหลบทัน ไม่ถูกกระสุนจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายเชาวรินทร์ได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกัน จ่อขมับขวาตัวเองแล้วลั่นไกปืน ทรุดลงจมกองเลือด

 

         พ.ต.ท.อภิรัช เผยว่าในชั้นนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่านายเชาวรินทร์ ใช้ปืนยิงลูกเมียและยิงตัวเอง เพราะอารมณ์ชั่ววูบ หรือตั้งใจวางแผนเอาไว้ในใจก่อนหน้า พนักงานสอบสวนได้ขออายัดตัวนายเชาวรินทร์ ที่กำลังถูกนำเข้าห้องผ่าตัดโรงพยาบาล เนื่องจากอาการสาหัสอยู่ในชั้นโคม่า เป็นตายเท่ากัน และจะเร่งสอบปากคำญาติของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งนางวันนิภาซึ่งเป็นเจ้าของงานเลี้ยงวันเกิด เพื่อดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฏหมาย