สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ดร.การัน ราจ ศัลยแพทย์ประจำระบบสุขภาพแห่งชาติ เของอังกฤษ ผู้ที่ได้รับความนิยมใน TikTok ออกมาเตือนเกี่ยวกับเทรนด์ประจำเดือน พ.ย.ที่พูดถึง No Nut November หรือ NNN ที่เป็นการท้าทายผู้ชายและผู้หญิงทั่วโลกให้งดการสำเร็จความใคร่ หลีกเลี่ยงการหลั่ง มีเพศสัมพันธ์ และเลิกอาการติดสื่อผู้ใหญ่เป็นระยะเวลา 30 วันว่า มีผลข้างเคียงมากกว่าที่คิด
ดร.การัน อธิบายถึงผลข้างเคียงว่า หากเปรียบเทียบง่ายๆ ร่างกายต้องมีการรีไซเคิลสเปิร์ม ที่ถ้ามีแล้วใช้ไม่หมดก็จะถูกสลาย และดูดซึมกลับไปยังร่างกาย ถ้าร่างกายของคุณไม่ดูดซับสเปิร์มจะทำให้ลูกอัณฑะบวมขึ้น ขณะที่การฝันเปียกเป็นหนึ่งในวิธีที่ร่างกายจะกำจัดสเปิร์ม
ด้าน ดร.ลอเรน โรสวาร์น อาจารย์อาวุโสของวิทยาลัยสังคมศาสตร์และรัฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น กล่าวว่า จริงๆ แล้วมีเหตุผลด้านสุขภาพที่ผู้ชายควรช่วยตัวเองคือ เพื่อกำจัดอสุจิออกจากต่อมลูกหมาก โดยงานงานวิจัยใน European urology เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปี 2553 ทีมผู้เชี่ยวชาญจากฮาร์วาร์ดทำการศึกษาผู้ชายทั้งหมด 31,925 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป พบว่าผู้ชายที่มีการหลั่งอสุจิบ่อยครั้งมีความเสี่ยงต่ำที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 12 ครั้งต่อเดือน
แถมยังเผยหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจในเชิงบวก รวมถึงลดความเครียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และการส่งเสริมสุขภาพหัวใจ ควบคู่ไปการทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย
ขณะที่ คำว่า No Nut November ได้รับการบันทึกครั้งแรกใน Urban Dictionary ในปี 2554 บางกลุ่มเชื่อว่าการละเว้นดังกล่าวไม่มีประโยชน์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว แต่ผู้ชายบางคนคิดว่ามันช่วยเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ฝึกจิตใจให้ต่อต้านสิ่งล่อใจ สามารถจดจ่อกับงานต่าง ๆ และช่วยลดการพึ่งพาสื่อผู้ใหญ่ได้ยิ่งขึ้น
+ อ่านเพิ่มเติม