วันที่ 11 พ.ย.64 ศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรกและสอบคำให้การจำเลย ในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นร้องว่า น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ สส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีมีพฤติการณ์ยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัตรแสดงตนและลงมติ ในการพิจารณาและลงมติ ร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562
โดยศาล ระบุว่า คดีนี้มีข้อเท็จจริงเดียวกันกับคำร้องในคดีอาญา ที่ทางอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และพยานหลักฐานส่วนใหญ่เป็นพยานเดียวกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการไต่สวนพยาน จึงให้นำคำเบิกความพยานมาเป็นถ้อยคำในการพิจารณาคดีนี้ด้วย และให้นัดพร้อม เพื่อฟังความคืบหน้าของคดีวันที่ 26 เมษายน 2565
น.ส.ธณิกานต์ ชี้แจงว่า การเสียบบัตรแทนกันเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการใช้เครื่องกดลงคะแนนครั้งแรก และบรรยากาศเป็นไปด้วยความโกลาหล จากนั้น ป.ป.ช.ก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดจากการฝากบัตรลงคะแนนแทนกัน โดยที่ไม่ได้มีการไต่สวนข้อเท็จจริง จนเรื่องเข้าสู่กระบวนการของศาล และตนเองต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เสียโอกาสในการร่วมลงมติในกฎหมายสำคัญหลายฉบับ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการนัดพิจารณาคดีในชั้นศาล ก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น เพราะจะได้มีโอกาสในการต่อสู้คดีตามขั้นตอน
สำหรับคดีเสียบบัตรแทนกันของ น.ส.ธนิกานต์ นี้ มีการยื่นฟ้อง 2 ศาล โดยในส่วนของศาลฎีกา เป็นความผิดเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีโทษคือ ต้องพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นความผิดเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะมีโทษจำคุกและปรับ
+ อ่านเพิ่มเติม