ปัญหาที่ดิน เป็นอีกปัญหาการฟ้องร้องที่พบเห็นบ่อยครั้งในสังคมไทย บ้างขอความเห็นใจว่าถูกไล่ที่ทั้งที่อยู่ตรงนั้นมานานนับหลายชั่วอายุคนแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แม้จะมีการขึ้นโรงขึ้นศาลกันแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทางออกและเราต้องแบ่งแยกระหว่างความถูกต้องของกฎหมาย ช่องโหว่ของกฎหมายและเรื่องของความเห็นอกเห็นใจ
ล่าสุดรายการถกไม่เถียงได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณยายท่านหนึ่งที่อ้างว่าตนได้อ้างว่าตนได้ถูกผู้มีอิทธิพลไล่ที่ วิลัย นาคสนิท ยายวัย 60 ปีและครอบครัวที่ถูกผู้มีอิทธิพลไล่ที่ เผยว่า พักอาศัยและทำมาค้าขายในที่ดินแห่งนี้มาสามสิบกว่าปี มีทะเบียนบ้านและมีขอน้ำและไฟฟ้าชัดเจน เข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านตั้งแต่ปี 2542 มีการขายอาหารตามสั่งให้คนในพื้นที่ซึ่งคนแถวนั้นก็รู้ดี ไม่มีปัญหาอะไร ต่อมา มีคนมาไล่ที่อ้างว่าเขามีนส.3 มีกรรมสิทธิ์ที่ดินและมาไล่ตนออกจากที่ ถ้าไม่ออกจะเอารถแทรคเตอร์มาโละที่ดิน
มีการยื่นฟ้องศาลแล้ว โดยศาลชั้นต้น ตนชนะ ต่อมาพอถึงชั้นศาลอุทธรณ์ ทนายที่รับผิดชอบช่วยเหลือคดีกลับไม่ช่วยเหลืออะไรเลย ทำให้แพ้คดี ระหว่างนั้นได้มีการข่มขู่มีเหตุยิงปืนที่หน้าบ้าน โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง มีการแจ้งความที่โรงพัก แต่คดีก็เงียบ ทั้งที่ครอบครัวไม่เคยมีคู่อริศัตรูกับใคร บริเวณตรงนั้นมีกล้องวงจรปิดแต่กล้องวงจรปิดเสีย
ทั้งนี้คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ได้มีการขีดเส้นตายให้ย้ายออกภายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ จึงได้มาร้องเรียนขอความเป็นธรรมและอยากได้รับการช่วยเหลือให้ได้อยู่ในที่ดินที่อยู่อาศัยมานาน รวมถึงมีข้อสงสัยด้วยว่าในเอกสารสิทธิ์นส.3 นั้น มันเป็นที่อยู่คนละหมู่กัน ที่ตนอยู่ หมู่ 3 แต่ในเอกสารเป็นหมู่ 7