วันที่ 27 ต.ค.64 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางไปยื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอตรวจสอบและวินิจฉัย กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกรัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งล้วนเป็นกรรมกรบริหารพรรคพลังประชารัฐ 6 คน เข้าพบหารือเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมืองหรือไม่นั้น
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นเพียงการหารือเรื่องการทำงาน การบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ เท่านั้น แต่ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลภายนอกพรรค พปรช. ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ทว่าเหตุการณ์หลังจากวันดังกล่าวเป็นต้นมา ก็เกิดการเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ จนกระทั่งมีการลาออกของกรรมการบริหารของพรรคถึง 9 คน และจะมีการประชุมพรรคกัน เพื่อปรับโครงสร้างพรรคกันในเร็วๆ นี้ อันเป็นการตอกย้ำว่า มีผลมาจากการเรียกหารือของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 หรือไม่
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน ม.28 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ได้ เพราะกฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” และพรรคพลังประชารัฐอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.29 ที่ว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
“การกระทำดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรคพลังประชารัฐ จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 หรือไม่นั้น จะต้องร้องให้ กกต. วินิจฉัยเพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานของพรรคการเมืองต่อไป หาก กกต.วินิจฉัยว่าฝ่าฝืนจริง พรรคการเมืองนั้นๆ ก็อาจมีความผิดตาม ม.92(3) ของกฎหมายดังกล่าวและ กกต. มีหน้าที่ที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นได้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม