logo ถกไม่เถียง

แม่น้ำตาตก ยกสมบัติทั้งชีวิตให้ลูก สุดท้าย ลูกชายไล่ไปอยู่กระต๊อบ ไม่แยแส ปล่อยแม่ใช้หนี้แทน

ถกไม่เถียง : แม่ร่ำไห้ร้องสื่อ ยกที่ดินให้ลูกชายด้วยความรัก ก่อนหน้านี้ลูกดูแลอย่างดี แต่หลังคบหาแฟนคนใหม่ ลูกกลับเปลี่ยนไป ไล่ให้แม่ไปอยู่กระต๊อ ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,กด35,แม่,ลูกชาย,สมบัติ,ทรัพย์สมบัติ,เงินทอง,กระต๊อบ,หนี้,ใช้หนี้แทน,อกตัญญู,ไล่ไปอยู่กระต๊อบ,ไม่แยแส,ไม่เลี้ยงดู,ทนายสงกาญ์

2,426 ครั้ง
|
25 ต.ค. 2564
         แม่ร่ำไห้ร้องสื่อ ยกที่ดินให้ลูกชายด้วยความรัก ก่อนหน้านี้ลูกดูแลอย่างดี แต่หลังคบหาแฟนคนใหม่ ลูกกลับเปลี่ยนไป ไล่ให้แม่ไปอยู่กระต๊อบ แถมยังต้องมาคอยใช้หนี้สินแทน ฟากลูกโต้ไม่เคยไล่ ยันที่ดินไม่ใช่ของแม่ แถมแม่ยังเคยพาผู้ชายใหม่เข้าบ้านจนเกิดปัญหา
 
ถกไม่เถียง : แม่น้ำตาตก ยกสมบัติทั้งชีวิตให้ลูก
 
         วันที่ 25 ต.ค.2564 นางรัชนีกร เส็งสว่าง หรือ คำปุ่น ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ตนเองได้ยกที่ดินให้ลูกชายด้วยความรัก หลังจากยกที่ดินให้ แรกๆ ลูกก็ดูแลอย่างดี แต่มันเกิดจุดเปลี่ยนเมื่อลูกชายไปคบหาแฟนคนใหม่ กลับไล่ตนเองออกจากบ้าน โดยลูกบอกว่า "ที่มันเป็นของฉัน ไม่ใช่ของคุณแล้ว คุณจะอยู่อีกทำไม" ลูกบอกกับตนแบบนี้ ซึ่งที่ดินที่มีปัญหานี้ มีทั้งหมด 37 ไร่ เดิมเป็นชื่อของตน แต่พี่สาวตนไปเล่าให้แม่ฟังว่า ตนเองตายแล้ว ให้เอาที่ดินไปให้พี่สาวก่อน โดยพี่สาวอ้างว่าเดี๋ยวเขาจะแบ่งให้ลูกของตนเอง หลังจากนั้นตนก็ไปจ้างทนายเพื่อจะเอาที่ดินคืน แต่ปรากฏว่ามีการฟ้องว่าตนเนรคุณ ทำให้มีการเวนคืนที่ดินที่เป็นชื่อตน กลับไปเป็นชื่อของแม่ จากนั้นก็มีการโอนย้ายให้เป็นของพี่สาว พอพี่สาวเสียชีวิตก็ตกเป็นของลูกสาว ซึ่งถือว่าเป็นหลานตน หลานก็แบ่งให้ 17 ไร่ แต่คนที่รับมาเป็นลูกชายตน เป็นการโอนแบบซื้อ-ขาย ทำให้ราคาที่ดินมันแพงขึ้น ลูกชายพาตนไปกู้เงินสหกรณ์ 5.5 แสนบาท แบ่งให้ตนไปทำบ้าน แล้วอีกส่วนก็แบ่งให้เขาไปทำงานที่ญี่ปุ่น
 
            ต่อมามีจดหมายจากสหกรณ์ เป็นจดหหมายทวงหนี้ ซึ่งตนไม่ได้จ่ายมาตั้งแต่ มีนาคม 2564 เพราะตนไม่มีเงิน ตนทำไร่ทำนา ไม่มีเงินพอไปจ่าย ตนก็บอกสหกรณ์ว่าไม่มีเงิน ขอผ่อนไปก่อนได้มั้ย เขาก็ยอม พอถึงคราวจ่ายรอบต่อไป ตนก็ยังไม่มีจ่ายอยู่ดี 
 
ถกไม่เถียง : แม่น้ำตาตก ยกสมบัติทั้งชีวิตให้ลูก
 
            อยู่ๆ ลูกชายก็เปลี่ยนไป หลังจากมีแฟน บ้านเก่าที่ลูกตนเคยอยู่ ปล่อยไว้เฉยๆ ไม่มีใครทำความสะอาด ทีนี้ลูกสาวตนก็บอกว่าเอากุญแจบ้านมาเดี๋ยวหนูเข้าไปทำความสะอาดให้ ตนก็บอกลูกชายว่าให้เอากุญแจมา เดี๋ยวเข้าไปทำความสะอาดให้ แต่ลูกชายกลับบอกว่า แม่จะเอากุญแจไปทำไม บ้านก็ไม่ใช่บ้านแม่สักหน่อย ตนก็ถามลูกว่าทำไมก้าวร้าวกับแม่อย่างนี้ ลูกชายก็บอกว่าจะพูดอย่างนี้ จะทำไม แล้วก็ไล่เราบอกออกไปจากบ้านเลยไป ตนไม่เคยพูดร้ายกับลูกชาย พูดดีกับลูกทุกอย่าง ลูกไม่มีเงินส่งงวดรถ ตนก็ช่วยเขา ตนทำไร่ทำนา มีเงินมาก็เอาไปให้ลูกเดือนละหมื่น ตนคิดว่าลูกชายอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าตนรักลูกสาวมากกว่า จะเอากุญแจบ้านไปให้ลูกสาวรึเปล่า ที่ออกมาร้อง เพราะอยากได้ที่คืน อยากให้ลูกชายกลับมารักแม่เหมือนเดิม ตอนนี้ลูกไม่รักตนเหมือนเดิมแล้ว ยอมรับว่าน้อยใจลูก แล้วเมียของเขาก็ไปโพสต์ขายที่ 2 แปลง แถมมีคนเคยมาดูที่ด้วย
 
           ด้าน บอย (นามสมมติ) ลูกชาย ยืนยันว่า ไม่เคยไล่แม่ออกจากที่ ยอมรับว่าเรื่องกุญแจบ้านเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเพราะแม่เคยพาแฟนใหม่มาอยู่ที่บ้าน แล้วพ่อไม่พอใจจนเกิดการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นจนต้องไปขึ้นศาลมาแล้ว ก็เลยไม่อยากให้มีปัญหาอีก บ้านหลังนี้เป็นชื่อของพ่อ ตนดูแลแม่อย่างดีมาโดยตลอด โอนเงินให้ทุกเดือน เดือนละ 2-3 หมื่น ก่อนหน้านี้ตนส่งเงินให้พ่อเป็นประจำ แล้วพอพ่อไล่แม่ออกจากบ้าน ตนก็สงสารแม่ เลยเปลี่ยนจากส่งเงินให้พ่อมาเป็นส่งเงินให้แม่แทน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแฟนตนแต่อย่างใด เวลาแฟนไปเจอแม่ก็ไม่เคยทะเลาะอะไรกันนะ เรื่องที่กู้สหกรณ์ มันเป็นชื่อของตน ถึงแม่ไม่จ่าย ยังไงก็ตนก็ต้องจ่าย และตนก็ไม่รับทราบหนี้สินเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องไล่ออกจากบ้าน ยืนยันว่าไม่ได้ไล่ออกจากบ้าน ทุกวันนี้ แม่ก็ยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปอยู่ที่กระต๊อบอย่างที่กล่าวอ้าง เรื่องที่ว่าไปฉุดกระชากลากถูแม่ออกจากบ้านก็ไม่จริง 
 
          เรื่องไปทุบ จยย. ยอมรับว่าทุบจริง แต่เพราะความโมโห เพราะตนอยากให้แม่เปลี่ยนชื่อรถเก๋งที่เคยออกเป็นชื่อของเขา มาเป็นชื่อของตนได้ไหม แต่เขาบอกอยากได้ก็ให้ไปฟ้องเอา ทั้งที่รถคันนั้น ตนออกเงินสร้างเครดิตแล้วก็ให้แม่ไปรับรถแทน รถก็เลยเป็นชื่อของแม่ ส่วนเรื่องที่เมียโพสต์ขายที่เป็นเรื่องจริง เพราะตอนไปทำงานที่เกาหลี ตนโดนยึดรถไป ไฟแนนซ์ก็บอกว่าจะให้ยึดที่ 5 ไร่แทนไหม ตนเลยปรึกษากับแฟนว่าหรือจะขายที่ดิน 5 ไร่เอาเงินมาใช้หนี้ตรงนี้แทน แต่ตนไม่เคยบอกเรื่องนี้กับแม่ และเรื่องที่ติดอยู่ในใจตนคือ แม่ตนเคยหายไป 10 กว่าปี ไม่ติตต่อกลับมาเลย เขาไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น ส่วนเรื่องที่ดิน ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ของแม่ มันเป็นที่ที่ลูกพี่ลูกน้องตนโอนให้ แต่ก่อนที่นี้เป็นชื่อของแม่อำนวย เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ พอเขาเสียชีวิต ที่ก็ตกเป็นของลูกพี่ลูกน้อง แล้วเขาก็แบ่งให้ตน
 
           ฟาก จุ๋ม (นามสมมติ) ญาติที่รู้เห็นเหตุการณ์ พูดถึงเรื่องที่ดินว่า เราทำหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดก ก่อนแม่ตาย แม่ไม่ได้สั่งว่าให้โอนที่ให้ใคร เราเป็นผู้แลพื้นที่ 37 ไร่ ที่เราโอนที่ให้บอย เพราะเห็นว่าน้องเป็นลูกกตัญญู สงสารที่น้องไม่มีที่ทำกิน จึงแบ่งสรรให้บอยไว้ใช้ทำกิน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการแบ่งที่ตามเครือญาติกันเรียบร้อย ก่อนที่จะมีการแบ่งที่ให้บอย
 
ถกไม่เถียง : แม่น้ำตาตก ยกสมบัติทั้งชีวิตให้ลูก
 
         ขณะที่ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่า เรื่องนี้ ถ้าต่างคนต่างลดทิฐิ หันหน้ามาคุยกัน ก็สามารถยอมกันได้ เพราะทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน สำหรับเรื่องที่ดิน การเป็นผู้จัดการมรดก จะแบ่งตามใจชอบไม่ได้ ต้องแบ่งตามบัญชีเครือญาติ ที่มีการยื่นให้ต่อศาล ก็ต้องไปดูก่อนว่าคุณจุ๋มทำหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลหรือไม่ ถ้ามีชื่อแม่อยู่ในบัญชีเครือญาติ แต่ว่าคุณจุ๋มกลับไปโอนให้บอย อันนี้ก็เสี่ยงติดคุกได้ 
 
 
ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/Ck1dM0TkC74

ข่าวที่เกี่ยวข้อง