จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้ออกมาไลฟ์สดแฉ ผกก.ดังอยุธยา เป็นจอมสร้างภาพเป็นผู้ใหญ่ดี แต่เบื้องหลังใจร้ายใจดำกับลูกเมีย โดยในคลิปหญิงคนดังกล่าวบอกว่าตนเป็นภรรยาของ ผกก. สถานีตำรวจแห่งหนึ่งที่อยุธยา สามีทอดทิ้งเธอและลูกสาว 7 ขวบ อย่างไร้เยื่อใย ทั้งที่ลูกป่วยต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง แถมยังต่อว่าเสียๆหายๆ และข่มขู่ถ้าเอาเรื่องมาแฉมีเรื่องแน่
วันที่ 20 ต.ค.2564 น.ส.ขวัญ (นามสมมติ) อดีตภรรยาที่บิ๊กตำรวจมีลูกด้วย ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า รู้จักกับอีกฝ่ายตั้งแต่อายุ 17 ปี ตอนปี 2550 ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ปวช. ฝ่ายชายหลอกว่าเป็นนักธุรกิจขายโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เป็นพ่อม่ายลูกติด เอาใบหย่ามาโชว์ให้เชื่อใจตอนตนอายุ 18 ปี ก่อนจะหลอกไปโรงแรมบังคับขืนใจ จากนั้นก็คบหากันมา เพราะมาขอขมาครอบครัว ขอรับผิดชอบ เขาอ้างรอให้เรียนจบแล้วจะแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้แต่ง ก่อนจะย้ายไปอยู่ด้วยกันที่แฟลตตำรวจ จนตนเองท้อง พอบอกเขาว่าตั้งท้อง เขาก็ด่าว่า เอาไฟฟ้ามาช็อตท้องเพื่อให้แท้ง ทั้งยังไล่ให้ออกจากบ้านภายใน 10 นาที ตนก็ต้องออกจากบ้าน จากนั้นก็ไม่ได้อยู่กับเขาเลยจนคลอดลูก เขาก็ไม่มาดูแล
ตนเจอเขาครั้งล่าสุด วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงพัก โดยพาลูกและเพื่อนไปด้วย เพราะลูกไม่สบาย เขาขู่ว่ามาทำไม เดี๋ยวจะแจ้งจับเข้าคุกข้อหาบุกรุก แล้วเขาก็ให้เงินมา 10,000 บาท ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ดูแลลูกเหมือนพ่อคนอื่นทั่วไป เหมือนให้แค่เศษเงิน ที่เขาให้ข่าวว่ามีการเซ็นรับรองบุตรนั้นก็ไม่จริง ถ้าตนโกหกยอมติดคุกเลย เรื่องที่ว่าเขาลงทุนสร้างปั๊มน้ำมันให้ โดยให้เงิน 80,000 บาท นั้นก็ไม่จริง แต่เป็นการซ่อมปั๊มเก่าให้ ส่วนที่ว่า ซื้อ จยย.ให้นั้น ก็เป็นการให้รถเก่ามาซ่อมใช้ทั้งนั้น เรื่องติดแอร์กั้นห้องให้ลูกนั้น ยอมรับว่าเขาติดแอร์ให้จริง แต่คนที่กั้นห้องคือตนเอง และตนไม่เคยหึงหวงอย่างที่เขากล่าวอ้าง ตนอยากรู้ชีวิตต่อจากนี้ จะเดินยังไงต่อ เขาห้ามลูกไม่ให้ไปหาที่โรงพัก ตนอยากให้เขาชดใช้ในสิ่งที่เขาทำกับตนเองและลูก
หลังจากที่ตนไลฟ์สดแฉเรื่องราวออกไป ก็มีน้องอายุ 14 ปี ติดต่อมาหาตน บอกว่า ผกก.คนนี้เคยให้น้องถ่ายคลิปช่วยตัวเองแล้วส่งไปให้ ผกก.ดู ตั้งแต่อายุ 11 ปี และข่มขู่ว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูดจะเอาคลิปไปประจาน ซึ่งน้องบอกว่าน้องกลัวมาก กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย อีกเคสนึงคือมีเด็ก ม.4 ชื่อ ก้อย (นามสมมติ) ทักมาด่า แล้วอ้างว่าเป็นเมียของ ผกก.คนนี้
ขณะที่ คุณแอน (นามสมมติ) อดีตภรรยาที่บิ๊กตำรวจพาออกหน้าออกตา เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนเขากระทำเหมือนกัน ก่อนหน้านี้คบกับเขามา 7-8 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ตอนแรกไปเจอเขาอยู่กับผู้หญิงคนนี้ เขาก็โวยวายว่าจะแจ้งคนมาจับ ข่มขู่ต่างๆ นาๆ ตนจึงพิมพ์ข้อความเรื่องราวที่เกิดขึ้นเข้าไปในกลุ่มของสภ. ตนคิดว่าคงไม่ปลอดภัย จึงบอกว่าหากเป็นอะไรไปให้ทุกคนทวงความเป็นธรรมให้ด้วย เพราะตนก็ติดต่อบิ๊กตร.คนนี้ไม่ได้เลย เพราะเขาบล็อกทุกทาง พยายามติดต่อเขา จนต้องซื้อซิมมาใหม่เพื่อขอเลิกกับเขาดีๆ โดย ขอคืนของมีค่าต่างๆ ตอนแรกเขาไม่ยอมคืน แต่สุดท้ายก็ยอมคืนแต่โดยดี ตนกำลังจะออกจากชีวิตของเขา แต่น้องขวัญมาขอให้ช่วย ก็เลยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ยอมรับว่าตนกับขวัญรู้จักกัน รับรู้มาตลอดว่าขวัญมีความสัมพันธ์ยังไงกับผู้ชายคนนี้ และตนก็ยอมรับได้ แต่เหมือนว่าเขาไม่อยากให้ตนกับขวัญติดต่อกัน ตัว ผกก.คนนี้ ไม่เคยขู่ตนเอง เพราะด้วยฐานะ หน้าที่การงานของตน และทราบว่ามีผุู้ใหญ่ท่านนึงคอยปกป้องตนอยู่ ผกก.คนนี้จึงไม่เคยขู่อะไรแรงๆ มีอย่างมากก็แค่บอกว่าไม่คุยด้วยแล้ว ไม่กลับบ้านละ แต่ตนก็ไม่สนใจเพราะไปหาที่โรงพักได้ตลอดเวลา
แอน เล่าย้อนกลับไปถึงตอนที่เจอกับ ผกก.คนนี้ครั้งแรกว่า ช่วง 7-8 ปีที่แล้ว ตนได้โพสต์รูปโปรไฟล์ ก็มีผู้ชายคนนึงเข้ามากดไลค์ตลอด ตนเลยไปส่องเขา ถึงได้รู้ว่าเขาเป็นรอง ผกก.โปรไฟล์ดี น่ารัก ดูแลคุณแม่ ตนก็เลยลองคุยๆกับเขา จากนั้นก็คบหาดูใจกัน ซึ่งก่อนจะคบกันเขาก็โชว์ใบหย่าให้ดู จึงตกลงคบหากับเขา หลังจากคบกันพอปีที่ 3 ก็ย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกัน จากนั้นก็เห็นภาพนึง เป็นภาพเขาป้อนข้าวเด็กตัวเล็กๆ คนนึง ตนก็ส่งรูปไปให้เขาดูถามเขาว่านี่คืออะไร เขาก็ยอมรับนะว่าลูกสาวเขาเอง เป็นลูกกับแฟนเก่า วันนั้นก็ไปดูเด็กคนนั้นที่เขาบอกว่าเป็นลูกสาว ก็เห็นว่ามีเด็กคนนั้นอยู่จริง ปรากฏว่าตอนนั้นเด็กไข้ขึ้น ตนเลยโทรไปหา ผกก.บอกเขาว่าเด็กไม่สบายนะ เขาก็บอกว่าไปทำไม ไปเยี่ยมเด็กทำไม ตนก็เลยตัดสินใจให้เงินยายไว้ 1,000 บาท ให้เขาพาหลานไป รพ.เพราะตอนนั้นแม่ของเด็กไปทำงานอยู่ต่างประเทศ นั่นคือตอนที่ตนได้รู้จักกับขวัญ หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงอีกคนโผล่มา ชื่อ ธาริน (นามสมมติ ) เขาติดต่อเรามา ตอนนั้นตนขายสินค้าออนไลน์ เขาก็ทักตนมาสารภาพว่าเคยนอนกับผกก. เล่าให้ฟังว่า ผกก.เป็นคนพาเขาเข้าโรงแรม ทั้งที่เขามีสามีอยู่แล้ว สำหรับเรื่อง เด็ก ม.4 ที่ชื่อ ก้อย ( นามสมมติ) หลังจากรู้เรื่องจากขวัญ ตนก็ได้สอบถาม ผกก. ท่านปฏิเสธเรื่องเลี้ยงเด็ก โดยบอกว่าเด็กคนนี้เป็นเพียงเอฟซีที่ชื่นชอบเฉยๆ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ ได้เขียนจดหมายชี้แจง ระบุว่า เรียนด้วยความเคารพยิ่งครับ เรื่องนี้ตามประเด็นแรกที่แม่ของลูกออกมาโพสต์ไลฟ์เรียกร้องบอกผมไม่ได้แล และไม่ได้รับผิดชอบ ผมได้อธิบายและตอบทุกประเด็นแล้ว พร้อมกับหลักฐานต่างๆ ส่วนประเด็นใหม่ที่เพิ่มขึ้น เริ่มเบี่ยงเบนไม่ตรงกับข้อเรียกร้องเรื่องลูก ซึ่งเรื่องลูกของผม ผมเคยขอและเรียกร้องขอมารับเลี้ยงเองตั้งแต่แม่เด็กหนีไปเกาหลี ประเด็นใหม่ที่ออกมาจะเห็นว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของการรับผิดชอบดูแลลูก ซึ่งผมรับผิดชอบและดูแล มีหลักฐานตามที่ชี้แจงไปเบื้องต้นแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้มีสิ่งสงสัย คือเหตุใดเพ่ิงออกมาเรียกร้องตอนนี้ ทั้งที่มันผ่านมานานแล้ว หรือกลับมาจากเกาหลีก็ระยะหนึ่งแล้ว เหตุใดออกมาเรียกร้องและระดมสื่อ เหตุใดต้องเป็นช่วงนี้ ช่วงแต่งตั้ง ผมอยากให้ดูว่าผมบกพร่องเรื่องของการทำงาน เรื่องของการดูแลความสงบสุขของพี่น้องประชาชนตรงไหน ผลของการปฏิบัติงานดูย้อนหลังได้ที่เพจ สภ.ภาชี ก่อนที่มา ท่าเรือ และเพจ สภ.ท่าเรือ ส่วนบุคคลใด กลุ่มคนใดชักใยอยู่เบื้องหลัง เสียผลประโยชน์ หรือเจ็บแค้นใจจากการที่ตนเองกระทำผิดและรับโทษทัณฑ์ ซึ่งเป็นการพิจารณาของหน่วยเหนือ แต่มาโกรธแค้นผม อันนี้ผมห้ามใครไม่ได้ ส่วนผู้ที่ออกมาสมทบและแสดงตัว เดิมอยู่เบื้องหลังและคอยยุยง ผมเรียนว่าไม่เคยหลอกลวง หรือทำอะไรให้เสียหาย พร้อมตอบข้อเท็จจริงได้ ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนคนในชุมชนที่ผมทำงานต่างรู้ดี ตรงกันข้ามผมเองกลับตกเป็นผู้เสียหายตลอด แต่ผมขอไม่อธิบาย เพราะผมเป็นผู้ชาย หากพูดอะไร วิพากย์อะไร โดยเฉพาะสุภาพสตรี จะเป็นการไม่เหมาะสม สังคมจะมองว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย ขอเรียนว่าข้อเท็จจริงทั้งหมด ผมขอนุญาตนำเรียนและรายงานผู้บังคับบัญชาอย่างละเอียดต่อไป มีหลายฝ่ายรวมทั้งกฎระเบียบขอให้ผมอดทนและยุติการให้ข้อมูลหรือโต้แย้งใดๆ นอกจากผู้บังคับบัญชาในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อหน้าที่
อีกประการหนึ่งใคร่ขอเรียนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวในครอบครัว กลัวมีผลกระทบกับเด็ก ซึ่งเป็นลูกสาวผมมากพอแล้ว จึงไม่อยากให้มีผลกระทบต่อจิตใจของลูกต่อไปในระยะยาวแบบไม่มีจบสิ้น หากแม่ของลูกหรือผู้ร้อง เห็นว่าผมทำผิดกฎ ผิดระเบียบวินัย หรือผิดกฎหมายข้อใด ทำไมไม่ไปร้องหรือใช้สิทธิ์ตามช่องทางของหน่วยงานที่มี (ขอให้เป็นข้อสังเกต) ผมพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง เป็นหลักฐานทางหนังสือต่อหน่วยงานผู้บังคับบัญชาทุกประเด็น หากผมมีความบกพร่องเรื่องใด และผู้บังคับบัญชามีความเห็นผมพร้อมยินดีรับโทษทัณฑ์ตามความเห็นของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด หรือยินดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามกฎหมายทุกขั้นตอน ผมต้องกราบขอโทษจริง ๆ ที่ไม่สามารถออกมาโต้เถียงหรือตอบโต้ใดๆได้ ผมเป็นข้าราชการ มีระเบียบวินัย มีกรอบจำกัด และไม่เป็นการดีกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะเด็กซึ่งเป็นลูกสาวของผมครับ ขอบคุณมากครับ
ปล.ช่วงนี้ผมลา เพราะคุณแม่ผมเข้าโรงพยาบาล ขอโทษอีกครั้งครับ
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย มาร้องที่กระทรวงยุติธรรม เพราะน้องเขากลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย ถ้าน้องไปร้องทุกข์เอาไว้แล้ว หากมีเรื่องของพรากผู้เยาว์ กระทรวงยุติธรรมสามารถจัดชุดคุ้มครองพยานเพื่อดูแลความปลอดภัยของพยานให้ได้ และทางกระทรวงยุติธรรมอาจมีการส่งหนังสือไปถามที่หน่วยงานโดยตรงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเท็จอย่างไร ทีนี้หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด อย่างเรื่องที่คุณขวัญ ไปที่โรงพักแล้วถูกขู่ว่าจะแจ้งข้อหาบุกรุกนั้น ตอบได้เลยว่าทำไม่ได้ เพราะสถานีตำรวจเปิด 24 ชม. ประชาชนสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา และที่คุณขวัญบอกว่าคบหากับ ผกก.ตั้งแต่อายุ 17 ปี ก็ต้องไปดูอายุความว่าสามารถดำเนินคดีฐานพรากผู้เยาว์ได้หรือไม่ สำหรับกรณีเด็กอายุ 11 ปี โดนข่มขู่ อันนี้เข้าข่ายคดีอาญา สำหรับเรื่องจริยธรรม มีโทษทางวินัย ถ้ากรณีคุณธาริน มีสามีอยู่แล้ว และเกิดจดทะเบียนกันด้วย แล้วนายตำรวจคนดังกล่าวเข้าไปมีความสัมพันธ์ด้วย อันนี้โทษร้ายแรง ถึงขั้นไล่ออก กรณีรับรองบุตร จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ เขายอมรับในส่วนนี้ว่าเด็กคือลูกของเขา เพราะมีการโอนเงินส่งเสียเลี้ยงบุตร ถ้าวันนี้มีการดำเนินการร้องทุกข์เป็นคดีความแล้ว ก็เอาเรื่องมายื่นกับตนได้เลย ตนจะส่งต่อให้กรมคุ้มครองสิทธิ์ส่งชุดคุ้มครองพยานไปดูแล และถึงแม้น้องจะยังไม่ได้ร้องทุกข์ ก็ขอยืนยันผ่านรายการนี้ว่า น้องจะได้รับความปลอดภัยแน่นอน เราต้องดูแลพี่น้องประชาชน อย่างตรงไปตรงมา
สรุปผลโพล หากเรื่องนี้เป็นจริง บิ๊กตำรวจรายนี้ ควรได้รับโทษหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com