อุทาหรณ์ แม่โพสต์เตือน ลูกเล่นมือถือ-เรียนออนไลน์ เกินวันละ 8 ชม. จนพบก้อนเลือดและมีเลือดไหลจากตา

      แม่โพสต์เฟซบุ๊ก ลูกเล่นโทรศัพท์มากเกินไป วันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายพบก้อนเลือดและมีเลือดไหลออกจากตาจำนวนมาก จนคนในครอบครัวกังวล สุดท้ายแพทย์บอกว่าเส้นเลือดในตาผิดปกติ ต้องผ่าตัด  

 

       ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวเพื่อเป็นเตือนภัยผู้ปกครองที่มีบุตรหลาน ให้ระมัดระวังการใช้โทรศัพท์ของบุตรหลาน เนื่องจากส่งผลกระทบรุนแรงต่อดวงตา โดยมีการโพสต์รูปภาพลูกของสาวอายุ 12 ปี ที่ต้องเข้ารับการรักษาดวงตา เนื่องจากพบก้อนเนื้ออยู่ในดวงตา พร้อมระบุข้อความว่า “แชร์ความรู้ เผื่อเป็นอุทาหรณ์ ลูกสาว 12 ปี ปกติจะได้เล่นโทรศัพท์แค่วันละ   1-2 ชั่วโมงต่อวัน แต่ตั้งแต่เรียนออนไลน์โรงเรียนไม่เปิด จะเล่นเยอะขึ้นและรวมกับเรียนออนไลน์ด้วย เท่ากับใช้โทรศัพท์เกินวัน 8 ชั่วโมง และช่วง 10 วันนี้ แม่ติดขายของช่วงเทศกาลกินเจ น้องเล่นเยอะเข้าไปอีก เพราะแม่ไม่ค่อยได้ดูน้อง

 

         จนสองวันก่อนน้องบ่นว่าเคืองตา ก็เลยให้ใช้โทรศัพท์น้อยลง แต่น้องยังมีสอบ จนเช้านี้น้องตื่นมา และเคืองตาเลยใช้มือขยี้ จากนั้นมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวน มากจนแม่ไม่กล้าดู มากกว่าในรูปที่เห็นเยอะมาก จึงรีบพาน้องไปหาหมอ หมอบอกว่าน้องเส้นเลือดในตาผิดปกติ จึงทำให้อุดตันและเกิดเป็นก้อนเลือดขึ้นที่ในตา สาเหตุที่ทำให้เกิด ไม่แน่ชัดอาจเกิดได้หลายสาเหตุ แต่ที่แน่คือการจ้องโทรศัพท์เยอะคือสาเหตุสำคัญแน่ๆ เลยอยากออกมาแชร์เหตุการณ์ให้แม่เป็นประสบการณ์ค่ะ เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ป้องกันดูเเลเรื่องการใช้โทรศัพท์ของลูกแล้วแต่ก็ยังเกิดขึ้นได้ การรักษาคือต้องผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเนื้ออก(ผ่าตัดเล็ก) รอหมอตรวจละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งวันอังคารค่ะ  #เราดูเเลลูกเรื่องการใช้โทรศัพท์แล้วไม่ได้ละเลย”

 

         ซึ่งหลังมีการโพสต์ข้อความและแชร์ประสบการณ์ดังกล่าวก็ทำให้มีผู้แชร์ต่อเป็นจำนวนมาก พร้อมแสดงความคิดว่า การเล่นโทรศัพท์ของเด็ก ถือว่ามีผลเสียต่อเด็กมาก ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมกับขอให้หนูน้อยคนนี้หายจากกอาการป่วยโดยเร็ว

 

        จากการสอบถามคุณแม่ ผู้โพสต์เฟซบุ๊กเรื่องราวดังกล่าว ได้เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้ตาข้างขวาของลูกที่พบก้อนเนื้อ ยังมีเลือดไหลอยู่ และค่าสายตาผิดปกติ คล้ายกับคนสายตาสั้น แต่สั้นแค่ข้างเดียว อีกข้างปกติ มองเห็นชัดเจน ตอนนี้ต้องรอหมอตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง หวังให้ลูกหายเป็นปกติโดยเร็ว อยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์

 

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Jureeporn Y.Ple