ลูกสาวร้องขอความเป็นธรรม พ่อวัย 70 ปี ถูกอดีตลูกเขย ซึ่งเป็น อดีต นายก อบต. ยกพวกรุมกระทืบ รัดคออาการปางตาย หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความ ผ่านมา 101 วัน แต่คดีไม่คืบ
วันที่ 12 ต.ค.2564 นางภัทราพร บุญสิทธิ์ ลูกสาวของผู้เสียหาย เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พ่อเข้าไปทำสวนตามปกติ แล้วตอนบ่ายๆ อดีต นายก อบต.เข้ามา ซึ่งวันที่เกิดเหตุเขายังดำรงตำแหน่ง นายก อบต. สวนดังกล่าวเป็นสวนของน้องชายตนเอง ที่ปลูกทุเรียนเพื่อที่จะเอาไว้ทำกิน โดยสวนนี้มีพ่อ ตนเองและน้องชายดูแล ทั้งนี้ ตนกับอดีตนายก อบต. เคยคบหากัน โดยวันนั้น อดีตนายก อบต.และพวกเข้ามา หยิบปืนยาวมาจี้ที่ท้องพ่อ ลั่นไกยิง แต่ยิงไม่ได้ เหมือนปืนจะด้าน พอยิงไม่ได้ ก็เอาปืนฟาดไปที่พ่อ จนพ่อล้มลง ก่อนลากพ่อเข้าไปในบ้านพักคนงาน จากนั้นก็เอาปืนฟาดไปที่พ่อ มีประโยคพูดออกมาว่า "เอาให้ตาย สาระแนดีนัก"
จากนั้น เขาสั่งลูกน้องบอกให้เอาเชือกรัดคอเลย แล้วเอาแขวนไว้ เจตนาคงกะฆ่าให้ตาย หรือคงจะอำพรางว่าพ่อผูกคอตาย ตอนนั้นพ่อแกล้งสลบ เลยรอดมาได้ ถ้าไม่ทำอย่างนั้นอาจไม่รอด พอเขาเห็นพ่อแน่นิ่งเขาก็พยายามฉุดกระชาก แต่บังเอิญว่ามีคนผ่านมาพอดีพวกเขาก็เลยหนีไป ที่ตนทราบเรื่อง เพราะมีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาบอกว่าคุณพ่อถูกทำร้าย เลยโทรไปถาม รพ. ว่ามีคนชื่อทวีมารักษาตัวไหม เขาก็ตอบว่ามี ตอนนั้นถึงได้รู้ว่าคุณพ่อโดนทำร้ายอาการสาหัส ตนพยายามจะแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าให้คนเจ็บมาแจ้งความเอง ทั้งที่พ่ออยู่ในห้องฉุกเฉินไม่สามารถเดินทางไปได้ จนตนต้องเดินทางไปแจ้งความเองที่โรงพักในวันถัดไป ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น แถมได้คำตอบจากตร.ที่ทำให้รู้สึกสะเทือนใจคือ ไม่ว่าง คดีมีตั้งเยอะแยะ จะไปทำคดีพ่อตนอย่างเดียวได้ยังไง ตนจึงอยากจะขอความเป็นธรรม
ทางด้าน นายทวี อุ่นใจ ผู้เสียหายที่ถูกอดีตลูกเขยทำร้าย เปิดเผยถึงอาการตอนนี้ว่า อาการตอนนี้เริ่มดีขึ้น แต่สุขภาพเริ่มแย่ลง วันนี้ก็เข้า รพ. ส่วนบาดแผลเจ็บหนักๆ ไม่มีแล้ว แค่หัวไหล่หลุด ข้อศอกหลุด หมอต่อให้แล้ว แต่อาการยังไม่เหมือนเดิม ขาเริ่มอ่อนแรง เดินได้ไม่ไกล กล้ามเนื้ออ่อนแรง ส่วนวันที่เกิดเหตุ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน วันนั้นตนกำลังติดตั้งคัตเอาท์เตรียมตั้งปั๊มน้ำ อยู่ดีๆ เขาก็เอาปืนจากรถเขา สไลด์ลูกเลื่อนแล้วก็เดินเข้ามาหา ส่วนลูกน้องเขาก็กระโดดมาล็อกคอ แล้วอดีตนายก อบต.ก็เอาปืนมาจ่อที่หน้าผม จ่อยิงนี่แหละ แต่ลูกกระสุนมันไม่ลั่น เขาก็เอาด้ามปืนตี จนตนเองล้มลงไป ตนร้องขอชีวิต บอก "ผมกลัวแล้ว อย่าทำพ่อเลย" เขาก็ไม่หยุด ก่อนที่ลูกน้องเขาจะขึ้นคร่อมตน แล้วเขาก็กระทืบขาตน เอาปืนกระแทกขา จนกระดูกข้อขาหลุด ต้องไปต่อกระดูก กระดูกมันไม่ได้หักก็จริงแต่มันหลุด และตั้งแต่เข้ารพ.ไม่มีตำรวจ มาดูเลย ไม่มีใครมาตรวจสอบบาดแผลที่ รพ. มีแต่คุณหมอมาดูแผลทุกวัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีเลย ตนต้องไป สภ.เอง โดยให้ลูกหลานพยุงไป ส่วนเรื่องที่ อดีต นายก อบต. อ้างว่าตนเองมีปืนนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะถ้าตนมีปืนจริง คงยิงป้องกันตัวเองไปแล้ว
ฟาก นายยูร(นามสมมติ) อดีตนายก อบต. และอดีตลูกเขยผู้บาดเจ็บ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ ข้อเท็จจริงวันเกิดเหตุ ตนแวะไปที่สวน ซึ่งปกติก็เข้าไปดูแลสวน รดน้ำต้นไม้ ฉีดยาใส่ปุ๋ย ได้เจอคุณทวีประมาณ 2-3 ครั้ง เห็นลูกน้องกำลังทะเลาะกับคุณทวีอยู่ จึงเข้าไปห้าม ลูกน้องล็อกตัวคุณทวีไว้บอกว่า แกมีปืนให้แจ้งตำรวจหน่อย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเขามีปืนจริงหรือไม่ เพราะไม่เห็น วันนั้นตนเป็นคนโทรแจ้งตร.เอง ลูกน้องปล่อยตัวคุณทวี ตอนที่สายตรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว ตนไม่เห็นร่องรอยบาดแผลของคุณทวี เห็นแค่รอยถลอก คนที่พาไปส่ง รพ.ก็เป็น ตร. แล้วตนก็ไปรอที่ สภ.สวี ตร.ก็ไม่ได้จับ เรื่องนี้หลักๆ มันมาจากเรื่องที่ดิน เดิมที่ดินนี้เป็นของแม่ตน สวนนี้ตนเป็นคนดูแลเป็นหลัก พ่อเข้ามาแค่ 2-3 ครั้งเอง ยืนยันว่า ไม่มีการเอาปืนฟาดหน้าผาก ตนไม่ได้ทำ และลูกน้องได้ไปมอบตัว ยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายจริง แต่ไม่มีการใช้อาวุธปืน
สำหรับความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี ระบุว่า ตร.รวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างทั้ง 2 ฝ่าย แต่ที่ช้าคือ คดีที่มีการบาดเจ็บต้องมีใบพิสูจน์บาดแผลจากแพทย์ ซึ่งทางตร.ก็ไปติดตามที่ รพ.เป็นระยะ และตอนนี้ พนักงานสอบสวนติดโควิด โดนกักตัว เรื่องเลยล่าช้า เรื่องนี้มูลเหตุไม่ใช่ประสงค์ต่อชีวิต แค่อยากได้แปลงที่ดิน เนื้อที่ 29 ไร่ ส่วนปฐมเหตุของเรื่องนี้คือ คู่กรณีเคยเป็นสามีภรรยากัน แต่งงานกันถูกต้องตามประเพณี ขณะอยู่กินด้วยกัน เดิมที่ดินมีชื่อมารดาของฝ่ายสามี ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงชื่อหลายมือ ล่าสุดเป็นชื่อของน้องชายฝ่ายภรรยา ตอนนี้ตำรวจสรุปสำนวนฟ้องอัยการแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ยืนยันว่าคู่กรณีไม่ใช่คนมีอิทธิพล และตนเองก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่ประการใด
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยถึงกรณีนี้ว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ต้องแจ้งรายงานความคืบหน้าให้ผู้แจ้งกล่าวหาทราบเป็นระยะ แต่นี่เว้นระยะเวลา 90 -100 วันมันนานเกินควร
ทั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีการสั่งการให้ดีเอสไอ และเจ้าหน้ายุติธรรมจังหวัดลงพื้นที่เพื่อสอบสวนเรื่องนี้แล้ว ยืนยันว่า ไม่ว่าคู่กรณีจะเป็นมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพล ก็จะทำให้คดีนี้ดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา คาดว่าในเร็วๆนี้น่าจะมีการส่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ทันที
สรุปผลโพล สรุปผลโพล คุณคิดว่าหลังจบรายการคดีจะคืบหน้าหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม