ชีวิตคนไม่ใช่ผักปลา! หนุ่มถูกลูกหลง กระสุนเจาะหัวเป็นเจ้าชายนิทรา รู้ตัวมือปืน แต่คดีเงียบ

      ครอบครัวร้อง ลูกชายโดนลูกหลง จากวัยรุ่น 2 กลุ่มวิวาทกัน ถูกกระสุนยิงเจาะหัวอาการสาหัส กลายเป็นเจ้าชายนิทรา รู้ตัวผู้กระทำผิดแต่คดียังเงียบ ห่วงไม่ได้รับความเป็นธรรม เบื้องต้นครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มีการเยียวยาให้เพียง 2,000 บาท

 

 

       วันที่ 7 ต.ค.2564  นายโสภณ เกษรบัว พ่อผู้บาดเจ็บ , รัชดาภรณ์ มณีฉาย แม่ของผู้บาดเจ็บ และ สกาว เกษรบัว ผู้เป็นอา ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าถึงอาการล่าสุดของลูกชายว่า ตอนนี้ลูกยังไม่รู้สึกตัว ยังนอนรักษาตัวอยู่ใน รพ. อาการทั่วไปดีขึ้น ร่างกายดีขึ้นเพราะได้เลือดไปแล้ว แต่ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ดวงตาไม่มีการตอบสนองใดๆ คุณหมอแจ้งว่าต้องดูไปตามอาการ เพราะอาการน้องถือว่าหนักมาก และน้องคงไม่มีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก ทางครอบครัวก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ ให้น้องกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ตอนนี้ทางครอบครัวกังวลเรื่องคดี กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ทราบความคืบหน้าทางคดีเลย ก็ได้สื่อช่วยไปทำข่าวตามคดีให้ ตำรวจไม่เคยให้หลักฐานในการแจ้งความ รูปแบบทางคดี ความคืบหน้าทางคดีก็ไม่ทราบเลย ไม่รู้เลยว่าเขารับแจ้งความแล้วรึยัง มีการแจ้งจับคนร้ายแล้วรึยัง เขาบอกแค่ให้รอ ก็ไม่รู้ว่าต้องรออะไร ตอนแรกตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน หลังจากนั้นถึงแจ้งให้เราไปสอบปากคำ แต่ก็ไม่ให้ใบแจ้งความมา

 

 

        โดยปกติ น้องเต (ผู้บาดเจ็บ) เป็นเด็กนิสัยดี ร่าเริง ไม่เคยมีปัญหากับใคร ปกติน้องจะชอบไปนั่งเล่นเกมกับเพื่อนๆ ที่ร้านขายของชำ ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ติดถนนใหญ่ น้องจะชอบออกจากบ้านตอนเย็นๆ ไปซื้อขนมนั่งกินที่ร้านนี้ เพราะร้านเขาจะมี Free Wifi ให้น้องต่อโทรศัพท์เล่นเน็ต หลังเกิดเหตุพี่สาวของผู้ก่อเหตุติดต่อมาขอโทษ และให้เงินเยียวยาเบื้องต้นมา 2,000 บาท แต่ไม่เคยมาเยี่ยมเลย นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังเพิ่งรู้ว่าผู้ก่อเหตุยังมีคดีแทงคนเสียชีวิต แต่คดีไม่คืบหน้าเช่นเดียวกัน ตอนนี้เด็กๆ ในชุมชนไม่มีใครกล้าไปนั่งเล่นที่ร้านชำที่เกิดเหตุอีกเลย

 

 

        นายสันติชัย แก้วลำหัด เจ้าของร้านของชำ พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นตนอยู่หน้าร้าน แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดัง ทุกคนก็วิ่งหมอบ พอดูอีกทีกฌมีคนเจ็บอยู่หน้าร้าน ปกติที่ร้านตนเองจะมีวัยรุ่น มาซื้อขนมที่ร้านและนั่งเล่นโทรศัพท์ เล่นอินเตอร์เน็ตหน้าร้าน กันเป็นประจำ ส่วนตัวรู้จักกับน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่าน้องไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร เขาจะชอบมานั่งเล่น ซื้อขนมที่ร้าน สำหรับผู้ก่อเหตุตนเองไม่เคยเจอ ไม่รู้ว่ากลุ่มนั้นตั้งใจมายิงใคร เพราะน้องนั่งเล่นอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ประมาณ 6 โมงเย็น แต่เกิดเหตุประมาณ 3 ทุ่ม ก็ไม่น่าจะรู้จักกันกับผู้ก่อเหตุ วันรุ่งขึ้นมีตำรวจมาเก็บหลักฐาน และสอบปากคำ เก็บลูกกระสุนไปหนึ่งนัด หลังจากนั้นตนเองเก็บกวาดร้านแล้วเจอกระสุนอีกหนึ่งนัด ซึ่งตอนนี้กระสุนก็ยังอยู่ที่ร้าน เพราะตำรวจมาเก็บหลักฐานครั้งเดียวแล้วก็หายไปเลย 

 

         ทั้งนี้ ทางรายการได้ติดต่อไปยัง แม่หญิง แม่ของผู้เสียชีวิต ที่ถูกผู้ก่อเหตุคนเดียวกันนี้แทง เล่าให้ฟังว่า สำหรับคดีลูกชายเรา ผ่านไปปีนึงไม่มีอะไรคืบหน้าเลย มีแค่ศาลเด็ก ศาลผู้ใหญ่ยังไม่ฟ้องอะไร วันเกิดเหตุ เพื่อนลูกโทรมาบอกว่าลูกเราโดนแทง ซึ่งคนที่แทงลูกเรา เป็นคนเดียวกันกับที่ยิงน้องเต เราไปตามคดีที่ สภ.ตลอด ตำรวจก็บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับไป ให้รอฟังจากศาลอีกทีในชั้นศาล เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเรื่องแทงลูกชายเราเสียชีวิต แต่ผู้ก่อเหตุมีการเยียวยาโดยให้เงินเรามาแสนนึง

 

        ด้านพี่สาวของผู้ก่อเหตุ ชี้แจงว่า ทางฝั่งครอบครัวน้องเต จะขอเงิน 1 ล้านบาท ภายใน 2 วัน ทางนี้ไม่มีให้ เพราะลำพังตัวเราก็มีหนี้สิน จะไปหาเงินมาจากไหน สำหรับเงิน 2,000 บาท ที่ให้ไป เพราะจะช่วยเป็นค่าแพมเพิร์ส ช่วยเหลือเท่าที่จะให้ได้ จริงๆ แล้วเราไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของวัยรุ่นทะเลาะกัน น้องเราก็ไปให้ปากคำกับตำรวจแล้ว และเรื่องก็เพิ่งเกิดขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นนาน ทางครอบครัวผู้บาดเจ็บรีบเอง จะบอกว่าคดีไม่คืบ หรือตำรวจปล่อยปละละเลยไม่ได้หรอก 

 

 

         พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ทุ่งสง เผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า น้องเตอาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่ทะเลาะกัน น้องเตอาจจะโดนลูกหลงจริง วันเกิดเหตุทางตำรวจเก็บกล้องวงจรปิดไปหมดแล้ว คดีมีความคืบหน้าแล้ว ตอนนี้รอสรุปสำนวน ผู้ต้องหาได้มีการเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว 2 คน อายุ 18 ปี และ 19 ปี และได้มีการสอบสวน และปล่อยตัวไปแล้ว แต่ตอนนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ติดโควิด จึงต้องส่งตัวไปรักษาตัวก่อน โดยผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่าไม่ได้ตั้งใจยิง แต่เป็นการยิงกันไปกันมา เป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว เบื้องต้นมีการตั้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต  ส่วนเรื่องปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ ตำรวจเก็บมาได้ทั้งหมด 7 ปลอก สำหรับเรื่องการเยียวยา คงต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายน้องเตกับฝ่ายผู้ต้องหาว่าจะตกลงกันยังไง แต่เรื่องคดีคงต้องว่ากันไป ทั้งนี้ ทางตำรวจขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับพ่อแม่น้องต ขอให้สบายใจได้ 

 

 

        ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุถึงคดีนี้ว่า เมื่อมีการไปแจ้งความ ตามปกติแล้ว ตำรวจต้องเอาสำเนาใบแจ้งความให้กับเรา เพื่อให้เราใช้ในการติดตามคดี และเท่าที่ฟังมา ผู้บาดเจ็บมานั่งอยู่ที่ร้านนาน ก่อนจะมีอีกกลุ่มมายิง คาดการณ์ว่าน้องไม่ได้สมัครใจวิวาท ในกรณีที่สมัครใจทะเลาะวิวาท กฎหมายวางเอาไว้ว่าไม่สามารถเรียกค่าเสียหายซึ่งกันและกันได้ แต่ในกรณีนี้เราเป็นผู้ถูกกระทำ ผู้ก่อเหตุจะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ ส่วนการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่ควรให้เจ้าของสถานที่เข้าไปปรับปรุงเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญ ทางด้านคดีนั้น ผู้ปกครองต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นการกระทำของเด็ก เนื่องจากผู้ก่อเหตุอายุยังไม่ถึง 20 ปี ถือเป็นผู้เยาว์ เท่าที่ฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาได้รัดกุม ครบถ้วนดีแล้ว แต่ในการดำเนินคดีกับเยาวชนอาจจะใช้เวลาหน่อย เพราะมีขั้นตอนเยอะ ต้องมีหลายหน่วยงานมาร่วมกันสอบสวน เรื่องขอค่าเสียหาย สามารถเรียกร้องได้ แต่ต้องแนะนำให้รอคดีอาญาดำเนินไปถึงที่สุดก่อน เพราะคดียังวิ่งอยู่ 

 

 

 

สรุปผลโพล หลังจบรายการ ครอบครัวจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่?

 

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/6eBaQx-R8Kw