รวบหนุ่มก่อสร้าง เมาขืนใจสาวใหญ่รุ่นพี่ที่แอบชอบ หลังหนีคดีนาน 18 ปี

        กองปราบรวบหนุ่มก่อสร้างเมาหื่น ใช้มีดจี้บังคับขืนใจสาวรุ่นพี่ อ้างแอบรักข้างเดียวมานาน หลังหลบหนีคดีนาน 18 ปี

 

         วันที่ 5 ต.ค. 64 กองบังคับการปราบปราม รายงานว่า ตำรวจชุดจับกุม กก.5 บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.สุขสิทธิ์  ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.  ร่วมกันจับกุม นายคัมภีร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 1574 / 2546 ลงวันที่ 8 กันยายน 2546 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาของตน”

 

          สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2546 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งจาก น.ส.แอน (นามสมมติ) ว่าเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2546 ขณะที่ น.ส.แอนฯ ไปนั่งดื่มกินที่งานแต่งของพี่สาว ซึ่งจัดอยู่ในหมู่บ้านห่างจากบ้านพักของตนเองประมาณ 5 กิโลเมตร ตนได้พบกับนายคัมภีร์ฯ (ขณะเกิดเหตุ อายุ 29 ปี) เพื่อนบ้านรุ่นน้องซึ่งทำงานก่อสร้างอยู่ในไซต์งานเดียวกัน  โดยนั่งรับประทานอาหารอยู่โต๊ะเดียวกัน

 

        ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม 2546 ขณะที่ น.ส.แอนฯ กำลังจะเดินทางกลับบ้าน นายคัมภีร์ฯ ได้เดินมาหาตนที่รถจักรยานยนต์และบอกว่าจะขออาศัยกลับด้วย และด้วยตนเห็นว่านายคัมภีร์ฯ เป็นรุ่นน้องทำงานก่อสร้างที่เดียวกัน จึงให้นายคัมภีร์ฯ เป็นคนขับและตนเองซ้อนท้าย แต่เมื่อนายคัมภีร์ฯ ขับมาถึงกลางทางซึ่งข้างทางเป็นป่า นายคัมภีร์ฯ ได้จอดรถแล้วใช้อาวุธมีดขู่เพื่อขอมีเพศสัมพันธ์กับตน ด้วยความกลัว น.ส.แอนฯ จึงไม่กล้าขัดขืน นายคัมภีร์ฯ จึงข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.แอนฯ ก่อนจะพาไปส่งที่บ้านพัก

 

          หลังจากนั้น น.ส.แอนฯ จึงได้แจ้งให้ญาติพาเข้าแจ้งความดำเนินคดี จนกระทั่งพนักงานสอบสวนออกหมายจับนายคัมภีร์ฯ ตามหมายจับดังกล่าว  

 

        โดยในวันที่ 4  ตุลาคม 2564  เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายคัมภีร์ฯ ได้หลบหนีมาทำงานในโรงงานอาหารสัตว์ ในพื้นที่ จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่าด้านข้างโรงงาน หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

        จากการสอบถามนายคัมภีร์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่าตนเองแอบชอบผู้เสียหายซึ่งทำงานก่อสร้างที่เดียวกันมานาน  แต่ผู้เสียหายไม่สนใจ  เนื่องจากอายุที่ต่างกันมาก  และในวันก่อเหตุตนมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว