สาวพิการร่ำไห้ ผัวนอกใจไม่แยแสลูก โอนเงินบำเรอหญิง สุดช้ำชู้ส่งรูปคู่เย้ย!

1,100 ครั้ง

05 ต.ค. 2564

แชร์ข่าวไปที่

สาวพิการร่ำไห้ ร้องขอความเป็นธรรม ถูกสามีนอกใจ ทิ้งลูกทิ้งเมียที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ไปอยู่กับสาวใหม่ โอนเงินไปบำเรอ ทั้งที่ยังไม่ได้หย่า มิหน้ำซ้ำยังต้องช้ำหนัก เมื่อลูกน้อยร้องเรียกหาพ่อ แถมชู้รักส่งรูปคู่มาเย้ย

วันที่ 5 ต.ค.2564 สุดา นันตาวงค์ สาวพิการ เปิดใจให้สัมภาษณ์ ในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกสามีนอกใจทั้งที่มีใบทะเบียนสมรสถืออยู่ในมือ

ถกไม่เถียง : สาวพิการร่ำไห้ ผัวนอกใจไม่แยแสลูก โ

สุดา นันตาวงค์ เปิดเผยให้ฟังว่า ตนเองเป็นต้อกระจก มองเห็นไม่ชัด มีบัตรประจำตัวผู้พิการ ลูกของตนเองก็พิการมองไม่เห็น ก่อนหน้านี้ทำงานนวดทั่วไปตามร้าน แล้วได้ไปเจอกับแฟนเลยตัดสินใจคบกัน ต่างคนต่างทำงาน เขาอยู่สุโขทัย ส่วนตัวเองอยู่ระยอง ตอนทำงานก็ได้รายได้ดี ตอนนั้นยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เราแยกกันทำงาน แต่สักพักก็ได้ข่าวว่าเขานอกใจ ตนจึงตัดสินใจลาออกจากงานกลับมาอยู่ด้วยกัน ต่อมามีคนแนะนำงานให้ เป็นงานดูแลผู้สูงอายุในกรุงเทพ เขาอยู่สุโขทัยเขาก็ไม่มีงาน เขาก็ย้ายตามมาอยู่กรุงเทพ มาเป็นช่างเชื่อม เขาก็ชวนให้ไปทำงานกับเขา ตนจึงตัดสินใจลาออกจากงานไปอยู่ด้วยกัน ทำงานกับเขาได้ไม่กี่สัปดาห์ ก็พบว่าตนเองตั้งครรภ์ มีอาการแพ้ท้อง ทำงานนี้ไม่ไหวจึงตัดสินใจออกจากงาน มาเป็นแม่บ้านให้เขา จนใกล้คลอด ก็กลับไปสุโขทัยด้วยกัน เพื่อไปคลอดลูก ซึ่งเขาก็ดูแลดีมาตลอดในช่วงตั้งครรภ์ หลังจากนั้น ฝ่ายชายได้งานขับรถ ก็ย้ายไปอยู่ จ.นครศรีธรรมราช ด้วยกัน ยอมรับว่าที่ผ่านมาเขามีปัญหาเรื่องมือที่สามมาตลอด ครั้งแรกเราจับได้ เขาก็สารภาพ ตนเองก็ให้อภัยเขาเพราะรักเขามาก ครั้งที่ 2 ที่จับได้นั้น ฝ่ายหญิงเป็นอดีตภรรยาเก่าของเขา ตนเองเค้นถามจนเขารับสารภาพ ตอนนั้นก็จะเอาลูกกลับบ้านที่สุโขทัย เขาก็ตามง้อ ตนเองจึงเสนอให้จดทะเบียนสมรส ฝ่ายชายก็ยอมจดทะเบียนสมรส ที่ให้อภัยเพราะเห็นว่าเขาเป็นพ่อของลูก ตอนที่ลูกอ่อนเขาดูแลดีมาก มีก็กินด้วยกัน อดก็อดด้วยกัน เขาบอกว่า จะไม่ให้เราลำบาก พอจดทะเบียนสมรส ก็ทำให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ทอดทิ้ง พอมาถึงวันนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาคบกันมาก่อนหรือเปล่า ช่วงที่มีปากเสียงกัน แล้วเขาต้องวิ่งงานทางภาคใต้ เขาก็ไม่กลับมาหาตนเองเลย ตนจึงถามเขาว่ามีคนอื่นรึเปล่า เขาบอกว่าแล้วแต่จะคิด ถ้าคิดว่ามีก็มี ถ้าคิดว่าไม่มีก็ไม่มี แต่ตนเองมารู้ทีหลังว่าเขามีคนอื่น เพราะแอบเล่นเฟสบุ๊กของเขา เห็นว่ามีการโทรคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง จึงได้แชทไปคุยกับฝ่ายหญิง แล้วฝ่ายหญิงยอมรับว่าคุยกันมาได้ 2 วันแล้ว โดยเขาอ้างว่าแฟนตนเองไปขอยืมเงินผู้หญิงคนนั้นมา ตนเลยถามผู้หญิงคนนั้นว่ารู้ไหมว่าเขามีภรรยาแล้ว ผู้หญิงคนนั้นยอมรับว่าคบกับสามีเรา แต่ไม่ยอมรับว่า รู้เรื่องที่เขามีเมียแล้ว หลังจากนั้นแฟนตนเองก็มาขอหย่า จะไปใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนั้น แล้วก็พูดทำนองว่าขอของทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านไว้ จะเอาไปอยู่กับผู้หญิงอีกคน

สุดา เล่าเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนั้น ตนเองก็ไปคอมเม้นต์ใต้โพสต์ผู้หญิงคนนั้นว่าทำไมต้องมาทำให้ครอบครัวเราแตกแยก เขามาตอบว่า "กูไม่กินข้าวชามเดียวกับหมาหรอก กูไม่เอา" แล้วเขาก็ส่งรูปสลิปโอนเงินมาให้ดู เป็นสลิปที่สามีตนโอนเงินให้เขา และมีรูปคู่เขาส่งมา ซึ่งสามีตนเองบอกว่าตอนนั้นเขาหลับอยู่ฝ่ายหญิงหยิบมือถือของเขาไปส่ง นอกจากนี้ทางสามีตนเองก็ยอมรับว่ามีอะไรกันแล้ว และตัดสินใจจะไปใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องนี้ตนเองยืนยันว่าจะเอาเรื่องฝ่ายชู้ให้ถึงที่สุด

ด้าน รุ่ง (นามสมมติ) สาวที่ถูกอ้างว่าเป็นมือที่สาม ปฏิเสธว่าไม่ได้คบกับฝ่ายชาย เรื่องที่เขาโอนเงินให้ เป็นการใช้หนี้ เป็นการยืมกันไปยืมกันมา ส่วนเรื่องที่มีการโพสต์เยาะเย้ยไหมนั้น เพราะผู้หญิงคนนี้เขาระราน ตอนรู้จักกับฝ่ายชายแรกๆ ไม่รู้ว่าเขามีภรรยาเพราะเขาไม่เคยพูดถึง เราแค่ไปกินข้าว คุยกันตามประสาผู้หญิงโสด แต่ตอนหลังพอรู้ว่าเขามีภรรยาแล้วก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอีก ยอมรับว่ามีการส่งรูปคู่ไป แต่ส่งไปก่อนจะรู้ว่าเขามีภรรยา เราเพิ่งมารู้ว่าเขามีภรรยาก็คือตอนที่เมียเขาทักมาบอก ซึ่งก็ไม่นานมากหลังจากที่เรารู้จักกับเขา จากวันนั้นที่เรารู้ เราก็ไม่ติดต่อกับฝ่ายชายอีกเลย ที่ติดต่อกันอันนั้นคือธุรกิจ ติดต่อเขาล่าสุดก็คือโอนเงินคืนหมดแล้ว อยากจะบอกคุณสุดาให้ออกไปจากชีวิตของเรา

ฟาก พงศกร สามีคุณสุดา เปิดเผยว่า ไม่ได้เชิงว่าคบกับคุณรุ่ง แค่คุยกันเฉยๆ ตอนนี้ไม่ได้มีผู้หญิงคนอื่น แต่ถ้าอยู่กันนานกว่านี้ มีแน่นอน เพราะเขาเอาแต่ใจ ส่วนเรื่องลูกยืนยันว่าไม่ทิ้งแน่ เรื่องเมียไม่จำเป็นต้องไปตาม เพราะรู้ว่าเขาอยู่กับลูกยังไง ถามว่ายังรักผู้หญิงคนนี้ไหม ตอนนี้มีแต่ความผูกพันธ์ ความเป็นห่วง เราเอาแต่ลูกเราตอนนี้ ถามว่าจะกลับไปเป็นพ่อแม่ลูกกันไหม มันก็มีสิทธิ แต่ถ้าเขายังนิสัยแบบนี้ ก็คงอยู่กันไม่ได้ เขาจะเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้ สู้เราจบกันดีๆ ต่างคนต่างไปใช้ชีวิตที่ดีขึ้นมันดีกว่าไหม

ทางด้าน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยถึงกรณีนี้ว่า เรื่องที่ทางฝั่งผู้ชายจะคิดว่าแม่น่ารักหรือไม่น่ารัก มันก็เป็นสิทธิของเขา แต่เขามีหน้าที่ที่จะต้องดูแลออุปการะเลี้ยงดูลูก กรณีที่จะเอาลูกไป ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องไปว่ากันที่ศาลว่าใครมีสิทธิ มีอำนาจปกครองลูก ตามกฎหมายให้สิทธิทั้งพ่อและแม่ดูแลลูกคนละครึ่งอยู่แล้ว ในส่วนเรื่องของการที่จะตัดสินใจหย่าหรือไม่หย่าก็อีกเรื่องนึง แต่เรื่องค่าเลี้ยงดูลูก พ่อกับแม่มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูลูก พ่อต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูลูก ถ้าฝ่ายหญิงมองว่าพ่อเขาเพิกเฉย ไม่เลี้ยงดู สามารถฟ้องเอาค่าเลี้ยงดูได้ ศาลจะมองเด็กเป็นสำคัญ ซึ่งจะให้พ่อกับแม่ร่วมกันเลี้ยง แต่ฝั่งคุณสุดา จะมองว่าฝ่ายพ่อไม่มีสิทธิเลี้ยงลูกก็ไม่ได้ ส่วนเรื่องการฟ้องหย่าคุณสุดามีสิทธิฟ้องหย่า เรียกร้องค่าเลี้ยงดูได้ รวมถึงฟ้องชู้และการเรียกค่าทดแทนได้

สรุปผลโพล ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบสาวพิการ คุณจะ...?

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com