ศาลไม่ให้ประกัน 'พิยดา' หวั่นหลบหนี เหยื่อเข้าแจ้งความแล้ว 53 ราย
logo ข่าวอัพเดท

ศาลไม่ให้ประกัน 'พิยดา' หวั่นหลบหนี เหยื่อเข้าแจ้งความแล้ว 53 ราย

ข่าวอัพเดท : ศาลไม่ให้ประกัน พิยดา ตัวการใหญ่หลอกขายมือถือเด็ก 14 ปี เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต หวั่นหลบหนี ตำรวจเตรียมสรุปสำนวนส่งอัยกา พิยดา,หลอกขายมือถือ,แจ้งความ,เหยื่อ,ไม่ให้ประกันตัว

3,110 ครั้ง
|
01 ต.ค. 2564
      ศาลไม่ให้ประกัน พิยดา ตัวการใหญ่หลอกขายมือถือเด็ก 14 ปี เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต หวั่นหลบหนี ตำรวจเตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า ขณะที่เหยื่อเข้าแจ้งความแล้ว 53 ราย
 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหาย 53 คนแล้วที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวพิยดา หลังจากที่พบว่าเป็นตัวการสำคัญหลอกขายโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ยอมส่งสินค้าให้
 
        หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้ น้องก้อง อายุ 14 ปี ที่ทำให้เกิดอาการเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.นาหวาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
 
        พลตำรวจตรี กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 หรือ บก.สอท. 2 หรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในระบบ พบว่าตอนนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวพิยดาแล้ว 53 ราย กระจายอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ส่วนผลการสอบสวนผู้ต้องหาและครอบครัว พบว่ามีการให้การกล่าวอ้างข้อมูลขัดแย้งกันไปมา ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาในการสอบสวนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นอุปสรรคในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง และจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ก็เชื่อว่าเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า นางสาวพิยดา คือผู้บงการในการหลอกขายสินค้าทั้งหมด
 
       ส่วนการขยายผลหาพยานหลักฐานทางคดี เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ตำรวจไซเบอร์ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่พ่อและแม่เลี้ยงของนางสาวพิยดาไปเปิดพักระหว่างรอทำเรื่องยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข้อมูลการสืบสวนที่คาดว่า ทั้ง 2 คนจะเป็นคนให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ก่อนจะพบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อไอโฟน 4 เครื่อง ในจำนวนนี้มี 1 เครื่องเป็นโทรศัพท์ของนางสาวพิยดา และยังพบเงินสดประมาณ 700,000 บาท จึงได้อายัดของกลาง พร้อมกับพาตัวพ่อและแม่ไปสอบสวนขยายผลว่า มีความเกี่ยวข้องตามข้อมูลทางการสืบสวนหรือไม่
 
        ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 ก.ย. พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผกก.สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นก็มีการดำเนินการจับกุมตัวผู้ต้องหา ตามที่หลักฐานการกระทำความผิดสาวไปถึงแล้วตอนนี้ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนการสรุปสำนวนเสนอให้อัยการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนการขยายผลว่า มีบุคคลร่วมมือกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ สอท. ดำเนินการสืบสวนขยายผล หากพบผู้กระทำผิดเพิ่มก็จะส่งตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.นาหวาย ต่อไป ซึ่งเชื่อว่าภายในอาทิตย์หน้าก็จะสรุปสำนวนเสนอให้อัยการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้
 
        ด้าน นายวิเชียร อินเรน ทนายความ กล่าวว่า เมื่อเย็นวานนี้ (29 ก.ย.) ได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยตนเองได้นำหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 4 แสนบาท เพื่อขอยื่นประกันตัว น.ส.พิยดา แต่ทางศาลจังหวัดเชียงใหม่ไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากทางพนักงานสอบสวนของ สภ.นาหวาย คัดค้านเกรงว่าจะมีพฤติการณ์หลบหนี หลังจากนี้ทางตนเอง ก็จะขอยื่นประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง