กอนช. เตือน 8 จังหวัด รวม กทม. เตรียมรับมือน้ำท่วม  2 เขื่อนใหญ่ระบายน้ำเพิ่ม 1-5 ต.ค.นี้
logo ข่าวอัพเดท

กอนช. เตือน 8 จังหวัด รวม กทม. เตรียมรับมือน้ำท่วม 2 เขื่อนใหญ่ระบายน้ำเพิ่ม 1-5 ต.ค.นี้

ข่าวอัพเดท : เตือน 8 จังหวัดรับมือน้ำท่วม ระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.64 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ( กอนช.) เผยแพร่ประกาศ ฉบับที่ 16/2564 เรื่อง เฝ้าระวัง กอนช.,น้ำท่วม,รับมือ,เขื่อน,ปล่อยน้ำ,เจ้าพระยา,ป่าสัก

4,385 ครั้ง
|
30 ก.ย. 2564
        เตือน 8 จังหวัดรับมือน้ำท่วม ระหว่างวันที่ 1-5 ต.ค.64 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ( กอนช.) เผยแพร่ประกาศ ฉบับที่ 16/2564 เรื่อง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยระบุว่า กอนช. ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่า มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากลุ่มน้ำปิงจากบริเวณคลองสวนหมาก อ.เมืองกำแพงเพชร จำนวน 438 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร จำนวน 267 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
 
        คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในอัตราประมาณ 2,750-2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีปริมาณน้ำหลากจากแม่น้ำสะแกกรังไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดอุทัยธานี (Ct.19) อยู่ในอัตรา 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประเมินปริมาณน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
 
         กอนช. ได้มอบหมายให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ร่วมกับการตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งสองฝั่ง และพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา (C.29A) อยู่ในอัตราประมาณ 3,000-3,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
 
          ส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1.20-2.40 เมตร และท้ายเขื่อนพระรามหกเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 2.30-2.80 เมตร ในช่วงวันที่ 1-5 ต.ค.2564  ดังนี้
 
1.จ.ชัยนาท แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตำบลโพนางดำออก และตำบลโพนางดำตก อำเภอสรรพยา
 
2.จ.สิงห์บุรี แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดเสือข้าม วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี
 
3.จ.อ่างทอง คลองโผงเผง และแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดไชโย อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมก
 
4.จ.ลพบุรี ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก บริเวณอำเภอพัฒนานิคม
 
5.จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณคลองบางบาล และริมแม่น้ำน้อย บริเวณตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอหักไผ่ และริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก อำเภอท่าเรือ และอำเภอนครหลวง อำเภอพระนครศรีอยุธยาจรดแม่น้ำเจ้าพระยา
 
6.จ.สระบุรี ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย อำเภอเมือง อำเภอเสาไห้ และอำเภอบ้านหมอ
 
7.จ.ปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
 
8.กรุงเทพฯ แนวคันกั้นน้ำบริเวณพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
 
      ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมลำน้ำ ปรับแผนบริหารจัดการเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ โดยพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและเร่งระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำ รองรับน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน เพื่อลดผลกระทบความรุนแรงของอุทกภัยและให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประกาศ ณ วันที่ 29 ก.ย.2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง