หมอปลา ร้อง DSI ตรวจสอบศูนย์บำบัด เข้าข่ายค้ามนุษย์ เล็งแจ้งความกลับคนฟ้องหมิ่น

        หมอปลา นำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับขบวนการส่งผู้ติดยาเสพติดไปบำบัดที่ศูนย์บำบัดฯ ผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง จังหวัดกาญจนบุรี ไปร้องทุกข์ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตรวจสอบความไม่ชอบพามากล พร้อมยืนยันจะแจ้งความกลับผู้ที่แจ้งความหมิ่นประมาทตนเองด้วย

 

        นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ "หมอปลา" พร้อมทนายความ ไปร้องทุกข์กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพิ่มอีกหน่วยงาน เพื่อขอให้ตรวจสอบพิจารณาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด และขบวนการส่งผู้ป่วยไปบำบัดแลกกับการเรียกรับผลประโยชน์ โดยมีหลักฐานเป็นสลิปเงินโอน, ภาพถ่าย, คำให้การของเจ้าหน้าที่ และการให้ถ้อยคำของผู้เสียหายที่เคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ที่ศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี แล้วถูกบังคับทรมานต่าง ๆ นานา ไปมอบให้ DSI รับไปพิจารณาด้วย

 

         มารดาหนึ่งในผู้บำบัดที่ไปให้ปากคำในฐานะพยาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ได้ไปที่ค่ายศูนย์ฝึก รด.เขาชนไก่ เพื่อตามหาลูก แต่ไม่พบ สอบถามทราบว่าลูกของตนเองไม่ได้ถูกช่วยออกมาพร้อมกับผู้บำบัดคนอื่น ๆ เนื่องจากมีพระรูปหนึ่งพูดข่มขู่ว่า ไม่ให้ขึ้นรถไปกับทหารและนำผู้บำบัดจำนวน 11 คน ไปขังไว้หลังวัด จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ เมื่อได้เจอหน้าลูก ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากการถูกทุบตี มั่นใจว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือ พระ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดสีส้ม

 

         ขณะที่ หมอปลา ตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ยังไม่ทันมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ปรากฏว่าไม่กี่วันต่อมา หน่วยงานในพื้นที่ก็รีบแถลงข่าวชี้แจง และต่อมาก็มีการดำเนินคดีกับตนฐานหมิ่นประมาท ยืนยันว่าที่ออกมาเปิดโปง เพราะต้องการช่วยเหลือคนในศูนย์บำบัดฯ ที่ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมเท่านั้น

 

         นอกจากนี้หมอปลายังได้พา นางไพบูลย์ กรีนวู๊ด ยายของหลานสาวอายุ 11 ขวบ ที่ถูกพลทหารนายหนึ่งข่มขืน เหตุเกิดในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ DSI ด้วย เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้มีการแจ้งความไว้ตั้งแต่วันแรกที่เด็กหญิงหายตัวไป แต่ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ไม่รับแจ้งความ ซ้ำยังพูดจาไม่ดี และวันต่อมาที่พบหลานสาวมีสภาพถูกกระทำชำเรา ได้พาไปตรวจยืนยันสภาพร่างกายกับแพทย์ แต่ตำรวจก็ยังไม่รับทำคดี ซ้ำยังมีคนอ้างตัวเป็นผู้กองเข้ามาไกล่เกลี่ยให้ไม่เอาเรื่อง แถมยังข่มขู่ว่าสามารถเคลียร์คดีได้ ทำให้เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

       เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ DSI ก็ได้รับคำร้องทุกข์ทั้ง 2 เรื่องไว้ตรวจสอบ ว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ก่อนดำเนินการต่อไป