กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรองรับน้ำเหนือ เตือนปชช.ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด
logo ข่าวอัพเดท

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรองรับน้ำเหนือ เตือนปชช.ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

ข่าวอัพเดท : ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้วันที่ 28 ก.ย. กรมชลประทาน,เขื่อนเจ้าพระยา,รองรับน้ำเหนือ,น้ำท่วม,ระบายน้ำ

678 ครั้ง
|
29 ก.ย. 2564
         ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทำให้วันที่ 28 ก.ย. 64  กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เร่งระบายน้ำเพื่อรองรับน้ำเหนือ 
 
        โดยนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (28 ก.ย.64) ที่สถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,521 ลบ.ม./วินาที ต่ำกว่าตลิ่ง 1.88 เมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก่อนไหลไปรวมกับน้ำที่มาจากแม่น้ำสะแกกรัง และไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาตามลำดับ กรมชลประทาน ได้รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง รวม 306 ลบ.ม./วินาที และปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 2,631 ลบ.ม./วินาที  จะส่งผลกระทบต่อบริเวณที่อยู่อาศัยริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่นอกคั้นกันน้ำ เพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ บ้านท่าทราย และตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท, วัดเสือข้าม วัดสิงห์ ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี อำเภอพรหมบุรี และอำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี, คลองโผงเผง วัดไชโย ตำบลเทวราช อำเภอไชโย และอำเภอป่าโมกข์ จังหวัดอ่างทอง, คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ (แม่น้ำน้อย) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น กรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบต่อไป
 
          ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและเร่งระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบนที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง