รวบแม่วัย 22 ใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวทารกแรกเกิด ก่อนนำไปทิ้งพงหญ้าข้างทาง ตำรวจตามรวบคาบ้านพัก อ้างไม่รู้ตั้งท้อง เข้าห้องน้ำแล้วเด็กหลุดออกมา ตกใจจึงนำใส่ถุงไปทิ้ง ไม่ได้ตรวจสอบว่าตายหรือยัง ยันไม่ต้องการฆ่าลูก
วันที่ 23 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.ลำผักชี และฝ่ายสืบสวน ร่วมกันสอบปากคำ น.ส.มาย (นามสมมุติ) อายุ อายุ 22 ปี สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรมีนบุรี ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเด็กทารกแรกเกิดถูกนำมาทิ้งไว้ในป่าใกล้สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุวินทวงศ์ 15 เขตหนองจอก กทม.
จากการตรวจสอบพบเด็กทารกแรกเกิดเป็นเพศหญิง อยู่ในสภาพร่างกายไม่สวมเสื้อผ้า ส่งเสียงร้องอยู่ภายในพงหญ้า ที่บริเวณศีรษะมีถุงพลาสติกใสคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยเหลือนำเด็กออกมาทำการปฐมพยาบาล โดยให้ออกซิเจนและทำความสะอาดร่างกายเด็ก ก่อนประสานรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี มารับตัวเด็กทารกไปส่ง สน.ลำผักชี เพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นนำเด็กทารกส่งไปยังโรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์หนองจอก เบื้องต้นจากการตรวจสอบของแพทย์พบว่าเด็กปลอดภัยดีไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
ต่อมาชุดสืบสวน สน.ลำผักชี จึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ กระทั่งพบหญิงต้องสงสัยคนหนึ่ง มีลักษณะคล้ายนำเด็กทารกลงไปยังจุดดังกล่าว จึงทำการสืบสวนและควบคุมตัว น.ส.มาย ไว้ได้
สอบสวน น.ส.มาย ให้การรับสารภาพว่า เป็นแม่ของเด็กทารกแรกเกิดคนดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านี้ได้เลิกรากับแฟนหนุ่มได้พักหนึ่งแล้ว โดยไม่ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ และคนในบ้านก็ไม่ทราบว่าตั้งครรภ์เช่นกัน จนกระทั่งในช่วงเที่ยงที่ผ่านมามีอาการปวดท้องอย่างหนักจึงไปเข้าห้องน้ำและเบ่งอุจจาระแรง แต่กลายเป็นคลอดเด็กทารกหลุดออกมา ด้วยความตกใจจึงนำถุงพลาสติกมาใส่ตัวลูก และรีบนำไปทิ้งไว้ในป่าหญ้าข้างทางก่อนจะหลบหนีไป โดยไม่ได้ตรวจสอบว่าเสียชีวิตแล้วหรือยัง แต่ยืนยันว่าการที่ใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะของลูกไว้ไม่ได้ต้องการจะฆ่า ซึ่งทำไปเพราะความตกใจเท่านั้น
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ลำผักชี แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, และทอดทิ้งเด็กนั้นไปพ้นเสียจาก ตนเองโดยทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล หลังจากนี้จะสอบปากคำแม่เด็กทารกแรกเกิดคนดังกล่าวอย่างละเอียด และจะเรียกสมาชิกภายในบ้านมาสอบปากคำเพิ่มเติม ว่ามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีในชั้นศาลต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม