ไม่ไหวก็ลาออกไปซะ!! ครูสาว วอนทั้งน้ำตา ลาป่วยจน โดนผอ.บีบให้ออกจากงาน : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ขาด ลา มาสาย เป็นเรื่องปกติในชีวิตการทำงานที่ทุกคนต้องพบเจอทั้งคนที่เป็นลูกน้องและหัวหน้า ต่างก็ต้องมีมาตรการในการดูแลเรื่องนี้เพื่อให้งานสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างเป็นระบบ โดยในแต่ละงานก็จะมีเงื่อนไขว่าสามารถลาหยุด ลาป่วย ลากิจ ได้กี่ครั้งรวมถึงมีกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานคุ้มครองอยู่ด้วย ล่าสุด มีประเด็นเกี่ยวกับอาชีพครูขาดงานหลายวัน เนื่องจากไปรักษาอาการป่วยนับเดือน แต่กลับโดนผู้บังคับบัญชาบีบให้ลาออก และครูท่านนี้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และโดนกลั่นแกล้ง จึงได้ร้องเรียนเข้ามาที่รายการถกไม่เถียง

ญานิศา เกตุรัตนสมบูรณ์ (ครูบีม) อดีตครูอัตราจ้าง ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เริ่มงานคุณครูที่โรงเรียนแห่งนี้ในปี 2560 ซึ่งโรงเรียนตั้งอยู่บนดอยที่หนทางเข้าลำบาก ต้องลุยน้ำ ฝ่าป่า ฝ่าดง จากในตัวเมืองเข้าไปในพื้นที่ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยในโรงเรียน มี ครูจำนวน 8 ท่าน สอนนักเรียน 60 คน ไม่ได้แค่สอนแค่ห้องเดียว วิชาเดียว แต่ต้องดูแลนักเรียนหลายห้อง หลายวิชา เพราะคุณครูไม่พอ ต้องทำหน้าที่ทุกอย่างเลย รวมถึงต้องรับผิดชอบวิชาการและงานเอกสารด้วย ไม่ใช่แค่สอนในเวลาเรียนแต่นอกเวลาก็ยังสอน หาความรู้ใหม่ๆมาให้เด็กในโรงเรียนเสมอ

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ตนเกิดอาการปวดท้องหนัก ท้องนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจึงไลน์แจ้งในกลุ่มครู ให้ประสานรถมารับ ต้องผ่านเส้นทางที่ยากลำบากกว่าจะเดินทางถึงโรงพยาบาล ซึ่งหมอตรวจพบก้อนเนื้อต้องผ่าตัดออก แต่ต้องรอผลตรวจเลือดก่อน ระหว่างนั้น จึงได้กลับบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อน และได้มีการแจ้งครูในกลุ่มไลน์ทราบแล้ว ส่วนผู้อำนวยการไม่สามารถติดต่อได้ทั้งไลน์ส่วนตัวและโทรหาไม่ได้ ต่อมาพบว่าผลเลือดมีมะเร็งค่าสูง แต่กลับได้รับข้อความจากผู้อำนวยการว่า “ครูมาแก้วิกฤต ไม่ใช่มาสร้างวิกฤติ ถ้าทำงานไม่ไหวก็ลาออกไปซะ” ความรู้สึกในวันนั้นเสียใจมากเพราะว่ามันพังไปทุกอย่างทั้งสภาพร่างกายและหน้าที่การงาน ซึ่งตนไม่ได้แกล้งป่วย แต่ต้องรักษาตัวเพราะอาการป่วยจริงๆ

ต่อมา ตนได้ยื่นหนังสือลาออก ตามที่ผู้อำนวยการได้แจ้ง แต่ทางผอ.ไม่ได้เซ็นต์ใบลาออกให้แต่กลับเซ็นต์ใบลาป่วยและใบลากิจให้แทน ซึ่งตนไม่ได้กรอกใบลานั้น หลังผ่าตัดได้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านจนถึงเดือนสิงหาคม ไม่ได้กลับขึ้นไปที่โรงเรียนเนื่องจากหนทางลำบากและกลัวว่าจะเป็นอะไรไปอีก ระหว่างนั้นก็ได้แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบเป็นระยะๆ

พอเดือนกันยายน มีการประเมินครู ทางผอ.ขอประเมินตนเป็นคนสุดท้าย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เซ็นต์ประเมิน ครั้งที่ 1 ต่อมาได้ ประเมินครั้งที่ 2 และนำคะแนนไปส่งที่เขต ผลออกมาคือประเมินให้ตกและไม่มีการจ้างงานต่อ โดยในการประเมินครั้งแรกผลประเมินคะแนนสูงมากและมีผลการจ้างต่อ แต่ข้องใจว่าทำไมครั้งที่ 2 คะแนนถึงตก จึงเชื่อแล้วว่าเหตุการณ์นี้โดนกลั่นแกล้งแน่นอน จากสาเหตุไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยผอ.อ้างว่าเป็นการขาดงานแบบไม่บอกไม่กล่าว โดยมีหลักฐานทั้งหมดเป็นแชทในไลน์กลุ่ม