พี่ไปรบ น้องพบคนใหม่! หนุ่มช้ำรัก จับได้เมียซุกชู้คารังรัก สุดแค้นเผาพริกเผาเกลือ เมียขู่ฟ่อจ่อแจ้งจับ

        ธิ (นามสมมติ) หนุ่มทหารเกณฑ์ช้ำรัก เล่าให้ฟังว่าคบกับแฟนสาวมาได้ 2 ปีกว่า ตอนนั้นเขาทำงานอยู่ที่ปากช่อง ผมนัดเจอกับเขาแถวๆ บ้านที่อุบลฯ เพราะเราเป็นคนบ้านเดียวกัน เขาก็มาอยู่กับเรา ตอนแรกพ่อแม่เขาไม่รู้ว่าเขามาอยู่กับเรา พออยู่ด้วยกันมาได้ประมาณ 3 - 4 เดือน เขาถึงได้บอกพ่อแม่เขา ว่าเขามาทำงานกับผม ผมทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พอบอกพ่อกับแม่ฝ่ายหญิง พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็บอกให้กลับไปทำให้ถูกต้องตามประเพณี ตามธรรมเนียมทางอีสาน เรากับแฟนก็พากันไปคุยเรื่องสินสอด ตอนแรกฝ่ายหญิงเรียกมา 3 แสน ฝั่งเราไม่มีเงินก็เลยเจรจาขอต่อเหลือแสนห้า 

 

 

        แม่นา (นามสมมติ) แม่ของธิ เล่าเสริมว่า ฝ่ายหญิงเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา ตอนนั้นก็เห็นเป็นเรื่องที่ดีที่เด็กเขาชอบกัน เราก็ไปกู้เงินมาแสนนึง เพื่อมามัดจำ เพื่อที่จะไปสู่ขอ ไปหมั้นลูกสาวเขา แล้วจากนั้นเอาเงินที่เหลือตามไปสมทบ ซึ่งทางเราก็มองว่านี่คือการหมั้นระหว่างลูกเรากับลูกเขา

 

        ธิ (นามสมมติ) เล่าถึงวันที่จัดงานผูกข้อมือว่า ฝั่งเราวางเงินมัดจำ 1 หมื่น ถัดมาอีก 3-4 เดือน เราก็เอาเงินไปให้เขาอีก 9 หมื่น ในงานก็มีแต่คนในครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย มีการผูกข้อไม้ข้อมือ ทุกคนรับรู้โดยทั่วกันว่าคือการแต่งงานกัน แค่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ก็มีการพูดคุยกันเรื่องจดทะเบียนสมรส

 

        ด้าน นายไวคุณ ศรีจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พยานในเหตุการณ์งานแต่งงาน ยืนยันว่า งานผูกข้อไม้ข้อมือวันนั้นคือการจัดงานแต่ง ในงานมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน มาร่วมเป็นสักขีพยานในงานผูกข้อต่อแขน ทุกคนก็เข้าใจตรงกันว่ามันคือการแต่งงาน ในพิธีก็มีเครื่องรับไหว้ หมอน ผ้าแพร เครื่องของเครื่องใช้ ตรงตามรูปแบบงานแต่งทุกประการ ซึ่งผมก็เห็นด้วยตาตัวเองว่ามีเงินสด 9 หมื่น เป็นสินสอด

 

 

        ธิ (นามสมมติ) หนุ่มทหารเกณฑ์ช้ำรัก เล่าต่อว่า หลังจากพิธีแต่งงาน ต่อมาผมไปจับใบดำใบแดง ได้ไปเป็นทหาร ช่วงที่เราได้พักลา ก็ไปหาฝ่ายหญิงตลอด ทักแชทพูดคุยกันตลอด แต่เริ่มรู้สึกแปลกไป ช่วงก่อนปลดทหาร สักกลางเดือนที่แล้ว เราโทรไปเขาไม่ค่อยรับ ทักแชทไปก็ไม่ค่อยตอบ ไปไหนมาไหนก็ไม่ยอมบอก เราเลยเริ่มเอะใจ จากนั้นเขาก็เริ่มขอห่างกับเรา เราก็ถามเขาว่าเป็นอะไรทำไมต้องขอห่าง เขาก็ไม่ยอมตอบเรา เราทักไปหาเขา พิมพ์หาเขายาวยืดเขาก็ไม่ตอบ มีครั้งนึงโทรไปหาเขา เขาก็รับ ถามเราว่าจะโทรมาทำไม เขาไม่โอเค ไว้หลังวันที่ 11 ก.ย. ค่อยมาคุยกัน พอปลดประจำการ 1 ก.ย. เราก็กลับไปอยู่บ้าน ยังไม่กล้าไปหาเขา พอถึงวันที่ 11 ก.ย. ก็ทักไปหาเขาว่าจะเอายังไง เลิกไม่เลิก เขาก็ไม่ตอบ วันที่ 12 ก.ย. เลยขี่ จยย.ไปหาเขาจากยโสธร ไปอุบลฯ ระหว่างทางก็คิดไปเรื่อย เราก็เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่าอาการแบบนี้ เขามีคนอื่นรึเปล่า พอไปถึงห้อง ก็เจอรองเท้าผู้ชายอยู่หน้าห้อง เคาะประตูแล้วเขาก็ไม่เปิด เลยทักไปหาเพื่อนเขา เพื่อนเขาก็ทักไปหาเขาบอกว่าเราอยู่หน้าห้องนะ แต่เขาก็ยังไม่ยอมเปิดประตู เราเลยเอาหูแนบประตู ได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ด้านใน เราก็เลยตัดสินใจสะเดาะประตูห้องเปิดเข้าไป เปิดเข้าไปปุ๊บเจอคนนอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่มคลุมอยู่ ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นแฟนเรารึเปล่า พอเราดึงผ้าห่มออกปรากฏเป็นผู้ชาย ใครก็ไม่รู้ ก็ตกใจไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับผม ผมก็ถ่ายคลิปเอาไว้ ผมถามเขาว่าได้กี่ครั้งแล้ว เขาบอกได้ 2-3 ครั้งแล้ว ผมถามผู้หญิงอยู่ไหน เขาบอกอยู่ในห้องน้ำ ผมก็เลยถีบประตูเข้าไป ตอนอยู่ในเหตุการณ์ผมพยายามควบคุมอารมณ์อยู่ ก่อนหน้านี้เราก็มีทำใจไว้บ้างแล้วด้วยว่าแฟนเราอาจจะมีคนอื่น ผมเคยสงสัยเขามาก่อนหน้านี้แล้ว เขาสมัครเฟสบุ๊คใหม่ เราเคยขอรหัส เขาก็ไม่ยอมให้ มันก็ระหองระแหงกันมาสักพักแล้ว ค่าห้องเราก็เป็นคนจ่ายให้ทุกเดือน ค่ากินค่าใช้จ่ายเราก็มีโอนให้เขาบ้าง เราก็เอาเงินที่เราได้จากค่ายทหารโอนมาให้แฟนเรา เราคอยซัพพอร์ตเขาทุกอย่าง เราก็เสียใจนะ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้คำตอบด้วย หลังจากที่เรารอคำตอบมานาน ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ยอมบอกเราสักทีว่าจะอยู่หรือไป คลิปที่เราเผาข้าวของคือเราไม่อยากรู้สึกอัไรกับเขาอีกแล้ว ไม่ได้จะเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเขา 

 

        ทางรายการติดต่อไปยัง หมอปลา เพื่อสอบถามประเด็นเผาพริกเผาเกลือว่าเป็นการสาปแช่งหรือไม่ หมอปลา เผยว่า มันเป็นเพียงความเชื่อโบราณ มันไม่มีผลอะไร ถึงแม้เขาจะท่องคาถาด้วยก็ตาม เพราะหากเป็นจริง คงมีหลายคนร้อนๆ หนาวๆ แล้ว ทั้งนี้ หมอปลาเตือนว่า อย่าไปเชื่อเรื่องแบบนี้ มันไม่ได้มีผลให้ชีวิตตกต่ำจริง เอาเงินที่ซื้อพริกซื้อเกลือไปทำอย่างอื่นดีกว่า

 

 

        ธิ (นามสมมติ) เผยว่าสิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือต้องการให้เรื่องนี้จบลงอย่างสันติ ไม่อยากให้มีเรื่องมีราว เพราะเขาบอกว่าเขาไปแจ้งความเราเรื่องที่เราเอาคลิปต้นเหตุไปเผยแพร่ ด้าน แม่ของธิ อยากได้เงินค่าสินสอดคืน ถ้าเขาไม่ถอนฟ้อง ก็จะฟ้องเพื่อเอาสินสอดคืน

 

 

         ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พูดถึงประเด็นการผูกข้อไม้ข้อมือนี้ว่า เงินที่บอกว่าเป็นมัดจำ ในทางกฎหมายเรียกว่าการหมั้น และมีการจัดงานตามพิธี และทั้งคู่ก็เต็มใจ ถือว่าเป็นการแต่งงานแล้ว การแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียน ก็สามารถขอค่าสินสอดคืนได้ เพราะเงิน 9 หมื่นที่เราให้เขาไป เราให้เขาเป็นค่าน้ำนม โดยกฎหมายบอกไว้ชัดเจนว่าถ้าฝ่ายหญิงกระทำการที่ไม่สมควร เราก็สามารถเรียกเงินสินสอดคืนได้ มันต้องดูบริบทด้วยว่าเงินที่เราเอาไปให้เขาในวันนั้นเป็นการให้ด้วยเหตุอะไร การขอขมาก็อาจจะอยู่ร่วมในบริบทงานแต่งด้วย เพราะทั้ง 2 ฝ่ายก็มาร่วมในงานด้วยความเต็มใจ มีผู้ใหญ่เป็นสักขีพยานในงานแต่ง ส่วนการฟ้องชู้ทำไม่ได้ การจะฟ้องชู้ต้องมีการจดทะเบียนสมรส นอกจากจะฟ้องค่าสินสอดคืนได้ด้วยแล้ว เรายังสามารถฟ้องค่าเสียหายอื่นๆได้ด้วย เช่น ค่าจัดงาน 

 

        ส่วนเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีฝ่ายชายนั้น ทางรายการได้ติดต่อสอบถามไปยัง สภ.วารินชำราบ เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งความในกรณีนี้เข้าไป

 

 

       ทนายแก้ว กล่าวเสริมในกรณีที่มีการโพสต์ผ่านโซเชียลว่า ผู้เสียหายอยู่ที่ไหนก็สามารถไปแจ้งความทีนั่นได้ ฉะนั้น สภ.วารินชำราบอาจจะเป็นแค่สับเซตส่วนหนึ่ง เขาอาจจะไปแจ้งความที่ สภ.อื่นก็ได้ ผมนับถือใจเขามาก มีหมัดไม่ต่อย มีไม้ไม่ตี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เขามักจะเรียกว่าบันดาลโทสะ โดยกฎหมายบอกว่าผิดจริง แต่ศาลบอกว่าลดโทษได้ เพราะเราถูกกระทำทางจิตใจ