เปิดผลชันสูตร เหยื่อ ผู้กำกับโจ้ ตายเพราะขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่จากยาเสพติด
logo ข่าวอัพเดท

เปิดผลชันสูตร เหยื่อ ผู้กำกับโจ้ ตายเพราะขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่จากยาเสพติด

ข่าวอัพเดท : เปิดผลชันสูตรเหยื่อ ผกก.โจ้ พบตายจากการขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่เสพแอมเฟตามีนเกินขนาดตามใบมรณบัตร อัยการลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุร่วมพนัก ผลชันสูตร,ผู้กำกับโจ้,ขาดอากาศหายใจ,เหยื่อ,ยาเสพติด

852 ครั้ง
|
31 ส.ค. 2564
        เปิดผลชันสูตรเหยื่อ ผกก.โจ้ พบตายจากการขาดอากาศหายใจ  ไม่ใช่เสพแอมเฟตามีนเกินขนาดตามใบมรณบัตร อัยการลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุร่วมพนักงานสอบสวน เตรียมโอนคดีเข้ากองปราบ
 
          วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี ผกก.โจ้ ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในคดีนี้ ได้มีการนำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ของ สภ.เมืองนครสวรรค์ อีก 6 นาย มาสอบปากคำอย่างละเอียด ในการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีด้วยหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการออกหมายจับเพิ่มใครในทั้ง 6 รายนี้ เนื่องจากการสอบปากคำ พบว่า ตำรวจชุด 05 ทั้ง 6 ราย ได้มีการไปร่วมล่อซื้อยาเสพติดและจับกุมจริง แต่เมื่อควบคุมผู้ต้องหามาที่ห้องที่เกิดเหตุ แล้วรู้สึกไม่ดี จึงได้พากันออกจากห้อง พร้อมกับไปทำการลงบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐานที่ห้องร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ เพราะรู้ดีว่าหากมีเหตุไม่คาดฝันหลังจากนี้ จะได้ไว้ใช้เป็นหลักฐานในการกันตัวออกจากคดี แต่ในส่วนของการสอบสวนนั้น ก็ต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียดให้ครบทุกมิติ หากพบว่ามีส่วนไหนเกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการเอาผิด
 
          ส่วนที่สำนักงานอัยการ จ.นครสวรรค์ นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พร้อมคณะ และ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ รอง ผบก.ภ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ทีมพนักงานสอบสวนในคดี แพทย์ผู้ชันสูตรศพ และฝ่ายปกครองโดยนายอำเภอเมืองนครสวรรค์ ได้ร่วมประชุมหารือวางแนวทางในการทำสำนวนคดี เพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยจะมีการนำสำนวนในคดี พร้อมกับผลการชันสูตรที่ได้รับผลมาจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มาประกอบสำนวนเพื่อวางแนวทางร่วมกัน โดยใช้เวลานานกว่า 40 นาที จากนั้นคณะรองอธิบดีอัยการภาค 6 ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุยังบ้านกาแฟ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และจุดที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ซึ่งเป็นตามกฏหมายที่ระบุว่า การชันสูตรผู้เสียชีวิตผิดธรรมชาติฝ่ายปกครอง อัยการ หมอ ตำรวจ จะต้องทำงานร่วมกัน
 
        นายสมพงษ์เปิดเผยว่า การประชุมร่วมเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งฝ่ายปกครอง แพทย์ พนักงานสอบสวน ตำรวจ และอัยการรวม 4 ฝ่าย ต้องทำร่วมกันวันนี้จะเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุหลายจุดเพื่อนำมาสรุปร่วมกัน ส่วนการเสียชีวิตจะระบุว่า เกิดจากขาดอากาศ หรือสารเสพติด ต้องมีองค์ประกอบหลายด้านต้องมีความเห็นร่วมกัน ซึ่งต้องไปตรวจที่เกิดเหตุและนำหลักฐานมาประมวล ร่วมกับคลิปที่ปรากฏ พิจารณาร่วมกับความเห็นแพทย์ว่าสมองบวมลักษณะใด ต้องมีความเห็นหลายอย่างร่วมกัน
 
        “เรื่องนี้ต้องสอบปากคำอัยการต้องร่วมสอบด้วย เราต้องเร่งให้เสร็จโดยเร็ว การชันสูตรผลิกศพต้องนำคำร้องไปยื่นต่อศาลว่าผู้ตายคือใคร ตายอย่างไร ต้องไปประกอบสำนวน การลงพื้นที่ดูประกอบพื้นที่ ดูภาพจำลอง ดูร่องรอย การตรวจบาดแผล ความเห็นแพทย์ประกอบ ผลการตรวจแพทย์ ทุกอย่างจะนำมาประกอบในสำนวน ซึ่งขณะนี้การมองว่าจะเป็นการช่วยตำรวจ ไม่ต้องกังวล เพราะว่าการตรวจสำนวนการตายโดยวิสามัญฆาตกรรม มั่นใจได้ว่าตำรวจไม่ได้ทำฝ่ายเดียวเราทำสำนวนร่วม 4 ฝ่าย เมื่อเห็นว่าตำรวจทำสำนวนไม่โปร่งใสบทบาทอัยการจะสั่งให้ตรวจสอบเพิ่ม เป็นสิ่งกฎหมายบังคับกฎหมายมุ่งเน้นให้อัยการมาร่วมตรวจสอบสอบสวน ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถแจ้งอัยการได้ ความผิดต่อแผ่นดินสามารถร้องทุกข์ได้ ส่วนการนำแม่และภรรยาผู้ตายมาร่วมด้วยนั้นกฎหมายระบุว่า การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ต้องให้ญาติผู้เสียหายร่วมฟังและสักถามได้เป้นไปตามกฎหมาย
 
         ทางเจ้าหน้าที่พนักงานอัยการจังหวัด ยังได้มีการนำตัว นางจันจิรา ธนะพัฒน์ และ น.ส.กมลวรรณ หรือใบเฟิร์น ซึ่งเป็นแม่และแฟนสาวของเหยื่อรีดเทพบุตรโจ้ถุงดำมาสอบปากคำให้ข้อมูลเพิ่ม รวมถึงมีการยื่นเรื่องสิทธิกฎหมาย ในการคุ้มครองเหยื่อผู้ตาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชดเชย และการเยียวยาต่างๆ