จากกรณีการตั้งคำถามในสังคมออนไลน์ว่าสูตรฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบไขว้ ได้ผลภูมิคุ้มกันสูงจริงหรือแล้วสูตรนี้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลหรือไม่? ซึ่งล่าสุดเพจไทยรู้สู้โควิด และ ดร.เสรี วงศ์มณฑา บรรณาธิการบริหารแผนการสื่อสารกลยุทธ์ ของ ศบค. ได้เผยใน #เสรีมีคำตอบ ระบุว่า 2 เข็มฉีดไขว้ Sinovac+Astrazeneca สร้างภูมิสูงกว่า Astrazeneca+Astrazeneca > Sinovac+Sinovac และ Sinovac+Astrazeneca ใช้เวลาฉีดห่างกันน้อยกว่า Astrazeneca+Astrazeneca ซึ่งวันนี้ในรายการถกไม่เถียง ได้มีการถกกันในประเด็นนี้ ว่าแท้จริงแล้ว การฉีดวัคไขว้ได้ผลจริงหรือ?
นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนแบบไขว้เป็นขั้นตอนไล่เรียงตั้งแต่ที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนมา เมื่อมีการฉีดเข็มแรกแล้วมีการตรวจภูมิคุ้มกันดูว่า วัคซีนได้ประสิทธิภาพในการรับวัคซีนหรือไม่
ซึ่งการตรวจภูมิคุ้มกันที่ได้มาตรฐาน ปกติคือการเจาะเลือดเพื่อตรวจแอนติบอดี้ ซึ่งตรวจภูมิมีหลายวิธีอีกเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่รู้ผลว่าเป็นโควิดสายพันธุ์ใด แต่ที่สถาบันการศึกษาในไทยนิยมทำการวิจัยคือการทดลองฉีดวัคซีนกับเชื้อปลอม วิธีการคือสร้างไวรัสปลอม และเอาเชื้อต่างๆ มาพัฒนาเป็นไวรัส ช่วยทำให้ไม่ต้องเอาเชื้อไวรัสจริงมาทดลอง เมื่อนำมาฉีดแล้ววัดค่าภูมิคุ้มกันและจะได้ผลของสายพันธุ์ที่แน่นอนแต่วิธีนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับในมาตรฐานโลก นอกจากนี้ยังมีวิธีที่แม่นยำที่สุดคือการใช้เชื้อจริงในการทดสอบ ซึ่งเป็นมาตรฐานในระดับสากล
รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่อว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีการศึกษาเจาะจงไปที่โควิดสายพันธุ์เดลต้าที่กำลังแพร่ระบาดในไทยมากกว่า 91% โดยทำการวิจัยในอาสาสมัครจำนวน200คนที่เป็นบุคลากรในสาธารณสุข โดยเป็นการเจาะเลือดหลังจากที่ฉีดวัคซีนในเข็มที่2 ผ่านไป 3 สัปดาห์
โดยสูตรการฉีดวัคซีนมีดังนี้
- สูตรที่ 1 ซีโนแวค 2 เข็ม คือ มีภูมิคุ้มกันสูง 24.31 ซึ่งถือว่าภูมิคุ้มกันดีในระดับหนึ่ง
- สูตรที่2 คือการฉีดแอสตร้าเซเนก้า+ซีโนแวค มีผลไม่ต่างจาก ซีโนแวค 2 เข็ม จึงไม่แนะนำ
- สูตรที่ 3 คือ ซีโนแวค+ซีโนแวค แล้วบูสเตอร์ด้วยซีโนฟาร์ม พบว่า ภูมิขึ้นมาที่ 61.26
- สูตรที่ 4 คือ แอสตร้าเซเนก้า + แอสตร้าเซเนก้า พบว่า ภูมิคุ้มกันขึ้นมาที่ 76.52 ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่เข็มที่สองระยะเวลาจะต้องรอฉีดหลังเข็มแรก 12 สัปดาห์ และใช้เวลาตรวจหลังการฉีดเข็ม2ไปอีก 3 สัปดาห์ รวมเป็น 13 สัปดาห์กว่าจะรู้ผลภูมิคุ้มกัน
- สูตรที่5 ฉีดวัคซีนแบบไขว้ ซีโนแวค +แอสตร้าเซเนก้า พบว่า ภูมิคุ้มกันขึ้นมาที่ 78.65 ที่มีค่าภูมิคุ้มกันและระยะเวลาการฉีดที่ไวกว่า
- สูตรที่6 ไขว้+บูสเตอร์ พบว่า เข็มที่ 1 และ 2 ฉีดด้วย ซีโนแวค และ บูสเตอร์ด้วยแอสตร้าเซเนก้า ภูมิคุ้มกันขึ้นมามากถึง 271.17 ถือว่าสูงมาก
ทั้งนี้ผลการฉีดวัคซีนแต่ละชนิดก็มีผลข้างเคียงเหมือนกันและในหลายประเทศในยุโรปก็ใช้สูตรการฉีดวัคซีนมาเหมือนกัน เช่นสูตร แอสตร้า+ไฟเซอร์ ในอาเซียนทั้งฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียก็มีการฉีดแบบไขว้เช่นเดียวกัน รวมถึงในอนาคตจะมีการตีพิมพ์ผลวิจัยในระดับโลกเพื่อรับรองผลแบบเป็นทางการด้วย ซึ่งสูตรหลักที่จะใช้ในการฉีดวัคซีนต่อไปนี้คือสูตรของ ซีโนแวค +แอสตร้าเซเนก้า
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม