วันที่ 20 ส.ค.2564 รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ พูดคุยเกี่ยวกับประเด็น ข่าวศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 12 ปี ลูกสาวลักทรัพย์ "อาม่าฮวย" ผู้เป็นแม่แท้ๆขณะนอนป่วยกว่า 24 ล้านบาทนั้น ล่าสุด มาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวอาม่าฮวย ที่ตกเป็นจำเลย พร้อมทนาย ขอเปิดใจในรายการถกไม่เถียง พร้อมเคลียร์ปัญหาครอบครัวและกระแสข่าวที่เกิดขึ้น
มาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวอาม่าฮวย เผยว่า ไม่ได้คุยกับอาม่าฮวยมา4-5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เป็นที่รู้กันว่าเราเป็นคู่หู่กัน สนิทกันรักกันอยู่ตลอด ไม่เคยทะเลาะเลย ในช่วง ปี59 อาม่าอยากกลับไปอยู่โรงงานกับพี่ชาย เราเลยไปๆมาๆ ไม่ได้ไปหาบ่อยเพราะต้องทำงานแต่มีจ้างพยาบาลดูแล ขอยืนยันว่า ว่าเรารักกันดีกับแม่ เราดูแลกันมาตลอด เวลาแม่ป่วย ลูกชายของเราก็ไปนอนเฝ้ามาตลอด
จุดแตกหักหลังจากที่อาม่าย้ายไปอยู่ที่โรงงานกับพี่ชายตั้งแต่ปี 59 ก็มีเรื่องกันมาตลอด มีเรื่องการฟ้องเนรคุณมาก่อน ต่อมาก็ฟ้องเรื่องธนาคารต่อ ซึ่งเราไม่รู้ว่าทำไมเพราะเป็นบุคคลที่3 อาม่าฮวยมีผู้รับมอบอำนาจที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมาฟ้องเรา และมีการกีดกันไม่ให้เราได้เจออาม่า ซื้อขนมไปก็เอาไปโยนทิ้งไม่ให้อาม่ากิน มีการเขียนที่ประตูด้วยคำหยาบคายว่าไม่ให้อี เหี้X เข้า มีการปิดประตูไม่โรงงานไม่ให้เข้า
ส่วนประเด็นการเปลี่ยนการเซ็นโอนเงินเป็นให้พิมพ์ลายนิ้วมือ และเพิ่มชื่อเราเข้าไปในการเซ็นเช็ค เพราะว่าช่วงนั้นอาม่าไม่สบาย ไม่มีแรงเซ็นเช็คแต่ในโรงงานต้องมีการจ่ายค่านู่นนี่เยอะมาก พนักงานธนาคารได้แนะนำให้เพิ่มชื่อเราในการเซ็นเช็ค และเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการพิมพ์ลายนิ้วมือแทนการเซ็น แต่ว่าทางธนาคารต้องการใบรับรองแพทย์ว่าอาม่าไม่สามารถเขียนได้ แพทย์ก็ออกใบรับรองมาให้ ซึ่งตอนนั้นอาม่ารู้ดีหมด มีสติดี
ส่วนที่บอกว่าเงินสองสามร้อยล้านเอาจากไหน ในหนึ่งปีต้องเขียนเช็คตั้งหลายฉบับเพราะว่าต้องจ่ายเงินเดือนและค่าใช้จ่ายอื่นๆในโรงงานด้วย เงินที่บอกว่าหลายร้อยล้านนั้นมันไม่ถึงหรอกและมีการแบ่งกันแล้วกับพี่ชาย มีการกันเงินไว้เป็นค่ารักษาอาม่า ค่าใช้จ่ายในโรงงานอื่นๆด้วย ซึ่งตนเป็นคนดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด เพราะที่บ้านดูแลกันแบบระบบกงสี
กฤษดา อินทามระ ทนายความ เผยว่า มีการฟ้องเนรคุณ คุณมาวดีมาก็ปรึกษา ตนก็บอกว่าเราต้องสู้ เราไม่ได้เนรคุณ มันคือการเข้าใจผิด ลูกโอนเงินให้แม่ตั้ง 5 ล้านบาทผ่านทางพี่ชาย แต่เงินไปไม่ถึงมืออาม่า ตนก็แนะนำให้คุณมาวดีฟ้องเอาเงินคืน เพราะทำให้อาม่าเข้าใจผิดว่ามาวดีเป็นคนเนรคุณ
พอฟ้องพี่ชายไปให้เอาเงินมาคืน ฝั่งพี่ชายก็สู้คดี ซึ่งที่มีหลักฐานชัดเจน มีสลิปหลักฐานเข้าบัญโดยตรง ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ก็บังคับคดีให้ฝ่ายพี่ชายคืนเงิน จากนั้นจึงมีการถอนฟ้องคดีเนรคุณ ถามว่าหากมีการเอาเงินมาคืนแล้ว เงินหลายร้อยล้านนั้นจะถึงมืออาม่าจริงหรือ? เพราะตอนนี้อาม่าไม่สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว
อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของอาม่าฮวย เผยว่า การเปลี่ยนแปลงการเบิกถอนเงิน มันเป็นเรื่องใหญ่ ต้องปรึกษาแพทย์ ซึ่ง แพทย์มาเบิกความต่อศาล ว่าถ้าจะทำลักษณะแบบนี้ ต้องมีแพทย์สามคนมาประเมินอาม่า มีการออกใบรับรองแพทย์จริง แต่ลูกสาวกลับไปหลอกหมอว่าเอาใบรับรองแพทย์ไปทำอีกเรื่อง พอได้มาก็เอาไปเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นการทำธุรกรรมด้วยลายนิ้วมือ ซึ่งเรื่องนี้อาม่าเป็นคนไปแจ้งความเอง เรื่องนี้ไม่มีบุคคลที่ 3 ที่จะมายุแยงตะแคงรั่ว
ตนขอยืนยันว่า อาม่าช่วยเหลือตัวเองได้ สุขภาพดี เขียนได้ซึ่ง การเปลี่ยนแปลงเบิกถอนเงินที่ไม่ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องโปร่งใส ต้องมีการถ่ายภาพ บันทึกวิดีโอ แล้วถามว่าหลักฐานอยู่ตรงไหน คนตายพูดไม่ได้ คนเจาะคอพูดไม่ได้ เรื่องคดีเงิน 5ล้านนั้นมันจบไปแล้วตนไม่ขอพูดถึงเพราะไม่ได้เป็นทนายในคดีนั้น อยากให้ลูกสาวคุยแค่เรื่องคดีนี้ว่าเงินร้อยกว่าล้านหายไปไหน ถ้าเอาเงินมาคืนอาม่าเรื่องก็จบแล้ว
สรุปผลโหวต : รอยร้าวของครอบครัว จะกลับมาประสานเหมือนเดิมได้ไหม?
ก.ได้ ข.ไม่ได้
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com