logo ถกไม่เถียง

เปิดใจ คนเคยป่วยโควิด แชร์ประสบการณ์ ใช้สมุนไพรดูแลตัวเองจนหาย : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ถกไม่เถียง : คนเคยป่วยโควิด แชร์ประสบการณ์ ติดเชื้อ แต่ไร้เตียงรักษา ติดต่อไปทุกหน่วยงานไร้การตอบกลับ ตัดสินใจใช้สมุนไพรไทยรักษาตัวเอง ทั้งกิน-สู ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,กด35,สมุนไพร,รักษา,โควิด,ฟ้าทะลายโจร,รักษาโรค,ป่วย,กระเทียม,สมุนไพรไทย,ตะไคร้,ข่า,สรรพคุณ,ต้านโควิด,ยา,ฟาวิพิราเวียร์,ถอนฟ้าทะลายโจร,สธ,กระทรวงสาธารณสุข,รอเตียง,รักษาตัวเอง

7,240 ครั้ง
|
14 ส.ค. 2564
        คนเคยป่วยโควิด แชร์ประสบการณ์ ติดเชื้อ แต่ไร้เตียงรักษา ติดต่อไปทุกหน่วยงานไร้การตอบกลับ ตัดสินใจใช้สมุนไพรไทยรักษาตัวเอง ทั้งกิน-สูดดม จนหายดี แพทย์แนะสมุนไพรไทยช่วยได้ แต่ขนาดต้องถึง เวลาต้องได้ และวิธีต้องถูกต้อง
 
         วันที่ 13 ส.ค.64 สิวนารถ เฉียบแหลม (มอส) ผู้ที่เคยติดโควิด รอ 18 วันไร้หน่วยงานช่วยเหลือ ต้มสมุนไพรรักษาตัวเองจนหาย, ภาณุวัฒน์ สายวัชรคุณ (ต้น) ผู้ที่รักษาโควิดด้วยตัวเอง โดยดูจากรายการถกไม่เถียง และ ทองพูน มณีรัตน์ (เตี้ย) ผู้ที่ใช้สมุนไพรไทยรักษาโควิด อ้างหายภายใน 5 วัน พร้อมทั้ง นพ.จักราวุธ เผือกคง ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถกไม่เถียง ออกอากาศทางช่อง 7HD ถึงประเด็นการใช้สมุนไพรไทยในการรักษาโควิดด้วยตัวเอง
 
          สิวนารถ เฉียบแหลม (มอส) ผู้ที่เคยติดโควิด รอ 18 วันไร้หน่วยงานช่วยเหลือ เล่าให้ฟังว่า ตนเองติดโควิดตอนช่วงเดือนเมษายน แล้วไม่ได้เตียงรักษา ตนเองไปตรวจที่รถตรวจโควิด พอพบว่าติดเชื้อเขาก็แจ้งว่าให้รอที่บ้านก่อนเดี๋ยวจะมีรถมารับ แต่ก็ไม่มีใครมารับ ตนเองจึงโทรหาแม่ที่อยู่ต่างประเทศ โทรไปร้องไห้กับแม่ เพราะอาการตอนนั้นค่อนข้างหนักถึงขนาดต้องคลานเข้าห้องน้ำ แน่นหน้าอก เหนื่อยไปหมด ตอนนั้นคิดว่าต้องไม่รอดแน่ๆ แม่ก็บอกให้ตั้งสติ แล้วให้เราลองใช้สมุนไพรมาต้มน้ำร้อนใส่หม้อ ใส่น้ำส้มสายชู กระชายขาว แล้วดมควัน พอดมไปแล้วเรารู้สึกว่ามันคลาย ตอนเช้าเลยให้แฟนไปตลาดซื้อสมุนไพรมาเพิ่ม มีทั้งหอมแดง กระชาย ล้างทำความสะอาดแล้วต้ม เราก็ทั้งกิน ทั้งดม ประมาณ 4 วันก็อาการดีขึ้น และตอนนี้ตนเองก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย
 
         ทองพูน มณีรัตน์ (เตี้ย) ผู้ที่ใช้สมุนไพรไทยรักษาโควิดด้วยตนเองจนหาย เล่าให้ฟังว่าตนเองรู้ตัวว่าติดโควิด เพราะไปสั่งส้มตำเผ็ดๆ กิน แต่กินแล้วไม่รู้สึกเลยว่าเผ็ด แล้วเริ่มมีอาการปวดหัว หายใจไม่ออก ท้องเสีย ก็บอกให้แฟนช่วยปั่นน้ำกระชาย ใส่น้ำมะนาว เราก็นอนหายใจไม่ออกเหมือนปลาโดนทุบหัวนอนตากแดดรอตัวตาย แต่พอกินน้ำกระชายเข้าไปแก้วที่ 4 ก็เริ่มดีขึ้น มันเหมือนหลุดออกไปเลย จากที่หนักหัวก็เบาขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นเราหนักตัวไปหมด ปวดหน้าอก พอฟื้นแล้วค่อยได้ไปตรวจ ตอนแรกยังไม่ได้ไปตรวจโควิด เพราะไม่มีแรงเลย จนเริ่มอาการดีขึ้นก็ไปตรวจกับแพทย์ชนบทเชิงรุก ก็พบว่าติดโควิด เขาก็บอกให้รอนะเดี๋ยวจะหาเตียงให้ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา ผมก็เลยไปเข้าคิวรอเตียงตั้งแต่ตีสี่ตีห้า เขาก็บอกให้กลับไปรอที่บ้าน รอ รพ.ตอบกลับ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เตียงเลย ผมก็คิดว่า ถ้าเกิดรอหมอผมตายแน่ ผมจะต้องไม่ยอมแพ้ ผมต้มสมุนไพร เอาผ้าคลุม ทั้งกิน-ทั้งดม ทำอีกสองวันผมลุกขึ้นมาเตะกระสอบทรายเลย ผมเลยให้แฟนไปซื้อที่ตรวจมา ปรากฏว่าไม่พบเชื้อแล้ว 
 
         ภาณุวัฒน์ สายวัชรคุณ (ต้น) ผู้ที่รักษาโควิดด้วยตัวเอง โดยดูจากรายการถกไม่เถียง เล่าว่า จริงๆ ผมเองไม่มีอาการอะไรเลย มีแพทย์ตรวจเชิงรุกมาก็ไปตรวจเพื่อความสบายใจ ปรากฏว่าติดเฉยเลย กลายเป็นว่าไม่สบายใจแทน เราก็ตระหนก เราไปหาวิธีการรักษาตัวด้วยสมุนไพร ตอนแรกผมไม่เชื่อเเลยว่าสมุนไพรว่ามันจะช่วยได้ ผมตรวจแบบ RT-PCR ตอนแรกกักตัวอยู่บ้าน คอยังไงคิดว่าต้องได้เตียง เพราะเราเห็นอาการของคนในข่าวมันน่ากลัว เราก็ติดต่อไปทุกหน่วยงาน เขาก็บอกให้รอเตียง ผ่านมา 3-4 วัน ก็ยังไม่ได้ ผมก็หาข้อมูลในเน็ต ใช้วิธีต้มสมุนไพร เอามาอบ มาสูดดม น้ำกระชาย คุณแม่ก็ปั่นให้กิน น้ำขิงก็จิบตลอดทั้งวัน ระหว่างนี้ผมไม่มีอาการอะไรเลย ผมซื้อเครื่องวัดออกซิเจนมาตรวจก็ปกติทุกอย่างเลย ผมก็สงสัยว่าจะมีคนแบบผมไหมที่ติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการ หรือผลตรวจผิดพลาด ซึ่งผมเองก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันเช่นกัน
 
         ด้าน นพ.จักราวุธ เผือกคง ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยว่า ส่วนใหญ่โควิดจะมีอาการมากสำหรับกลุ่มเสี่ยง อย่างคุณมอสน้ำหนักมาก มีโอกาสลงปอดได้ง่าย ส่วนคุณเตี้ย อายุเยอะ ก็มีโอกาสลองปอดได้เช่นกัน รวมไปถึงการสูบบุหรี่ ดมควันอื่นๆ ส่วนคนที่ติดโควิดไม่มีอาการก็มีเช่นกัน อย่างคุณต้น เป็นประเภทคนที่ติดโควิดแต่ไม่ได้แสดงอาการ แต่ก็สามารถกระจายเชื้อให้คนอื่นได้ด้วย การรักษาด้วยการดมควัน การแพทย์แผนไทยใช้มานานแล้ว การจะใช้สมุนไพรรักษา ขนาดต้องถึง เวลาต้องได้ และวิธีต้องถูกต้อง อย่างกระชายถ้าเรากินเป็นยา เราต้องกินในปริมาณที่มากขึ้น ส่วนการคลุมผ้าเพื่อสูดดมสมุนไพร หลายคนกลัวว่าจะทำให้ปอดชื้น แต่การดมสมุนไพรเข้าไปนั้นจะช่วยลดอาการบวมของปอด ช่วยขยายหลอกลมให้โล่งขึ้น ทำให้เสมหะหายเหนียวแล้วหลุดออกไป โบราณเรียกว่า การสุมยา ในสมัยโบราณจะใช้หอมแดง แก้หวัด ส่วนมะกรูด ตะไคร้ ข่า ขิง ก็จะใช้ช่วยในเรื่องทางเดินหายใจได้ด้วยเช่นกัน
 
          สมุนไพรที่ใช้สุม เราใช้รักษาอาการจากโรค เราใช้สมุนไพรไปช่วยลดอาการแน่น หายใจไม่ออก ขณะเดียวกันจะมีสมุนไพรอีกกลุ่มที่ช่วยรักษาโรค ร่วมถึงช่วยเรื่องภูมิต้านทานที่ลดลงในช่วงป่วย กลุ่มนี้จะมีสมุนไพรที่เราใช้กิน โดยทั่วไปเราจะไม่ใช้สมุนไพรเชิงเดี่ยวในการรักษา มักจะใช้เป็นสูตรยาควบคู่กันไป สำหรับฟ้าทะลายโจร มีฤิทธิ์ขม-เย็น ลดความร้อน ลดการอักเสบ เราเรียกมันว่า ราชาแห่งความขม เรากินฟ้าทะลายโจรเพื่อลดความร้อนในตัว ไม่ให้มันกำเริบ ส่วนกระชายช่วยลดการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ปรับการทำงานของกระเพาะลำไส้ ฟ้าทะลายโจรจะไปหยุดไม่ให้เชื้อโควิดมันโต คนป่วยจะต้องกินในช่วงที่ยังเป็นไม่หนักมาก ซึ่งผลวิจัยก็มีข้อมูลในส่วนนี้อยู่
 
          คนที่ติดเชื้อแล้ว ร่างกายจะมีภูมิต้านทานโดยธรรมชาติ แต่ภูมินั้นจะอยู่ประมาณ 6 เดือน จึงอยากแนะนำให้ไปฉีดวัคซีนหลังหายป่วยแล้ว เพราะเชื้อโควิดยังมีอีกหลายสายพันธุ์ ถ้าเราติดสายพันธุ์อื่นก็อาจจะมีอาการได้ เรารอหมอได้แต่รอความตายไม่ได้ ยังไงก็ควรใช้สมุนไพรในการรักษาและป้องกันตัวเองด้วย แนะนำให้ยังใช้สมุนไพรในการป้องกันในปริมาณไม่มาก ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ถ้าหมดเชื้อแล้วถือว่าหายใจโรค แต่ยังคงมีอาการลมปลายไข้ การที่เรากินยาในขนาดน้อย เป็นการรักษาเพื่อให้ร่างกายคืนสมดุล และหายจากลมปลายไข้โดยแท้จริง
 
         หากหายป่วยจากโควิดแล้ว การกินขิง กับกระชาย จะช่วยลดการอักเสบ และต้มน้ำตะไคร้เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดี ซึ่งพวกนี้ใช้ได้ดีหลังหายป่วย
 
 
ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/Ao-foxLYk0w
 
 
***เป็นข้อมูลจากประสบการณ์ส่วนบุคคล หากคุณตรวจพบหรือมีความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 โปรดปรึกษาแพทย์ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข***